วันอาทิตย์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

อาหารเป็นยา อาหารรักษาโรค :หมอเขียว:













(11:05)การฉายแสงและเคมีบำบัด ผลวิจัยพบว่าไม่มีนัยสำคัญทางสถิติว่าหาย
แต่มีนัยสำคัญทางสถิติว่าทรมานและตาย
https://youtu.be/kd9pXHaNZXU


ท้องอืด
ท้องอืด เกิดจากภาวะร้อนเกิน เผาจนเซลกระเพาะอาหาร ลำไส้ ทำงานไม่ได้ เลือดลมเริ่มไหลเวียนไม่ได้ ระบบย่อยทำงานไม่ได้ เชื้อโรคจะมากินอาหาร
เกิดกรด เกิดแก๊สขึ้น ในขณะเดียวกันเซลเสียพลังในการขับพิษออก กรดแก๊สจะเกิดขึ้น ดื่มน้ำย่านาง กล้ามเนื้อจะคลายตัว เส้นเลือดไม่ถูกกด เลือดลมก็ไหลเวียนได้ น้ำย่อยก็ออกไปย่อยได้
กระเพาะอาหาร ลำไส้ ทำงานปกติ ย่อยอาหารได้ อาการท้องอืดหายไป เพราะไม่มีอาหารให้เชื้อโรคกิน กรดแก๊สจะไม่เกิดเพิ่ม ร่างกายจะบีบเอาแก๊สส่วนเกินออกไปเอง

หมอเขียว.การถอนพิษจากร่างกายตอนที่1
https://youtu.be/34BABqauT70





********************************************************

  วิธีการคือกินอาหารตามลำดับ กินกับข้าวทีละอย่าง ทีละชนิด  เช่น 

ตักผัดผักก็กินผัดผักให้หมด ตักแกงมาก็กินแกงให้หมด ตักน้ำพริกก็กินน้ำพริกให้หมด 

อถึงข้าวก็กินแต่ข้าว ไม่กินผสมรวมกับกับข้าว 

เคี้ยวให้ละเอียด เป็นการฝึกให้ไม่ยึดมั่นถือมั่น 

ไม่ว่าเราจะเจออาหารแบบไหน แบบบริสุทธิ์ 100% เราก็กินได้ แบบปรุงเราก็กินได้ ไม่หวั่นไหว ไม่กลัว ไม่กังวล ทำให้ชีวิตมีพลังที่สุด แข็งแรงที่สุด เป็นสุขมากที่สุด

http://morkeaw-nutrition.blogspot.com


********************************************************

ณ ราชเมืองเรือ ราชธานีอโศก วันที่ ๒๓ มีนาคม ๕๘ เผยแพร่เมื่อ 27 มี.ค. 2558

 https://youtu.be/AMsrDZL1Syk


 77:01 ส่วนใหญ่จิตอาสาของเรา 300 ท่าน เป็นโรคกันมาทั้งนั้น แต่มากินข้าวโรยเกลือกับผักสด ผักรวก แทบจะไม่มีใครเป็นโรคอะไร นานๆจะมีบางท่านไปร.พบ้าง ไม่ถึง3% ...
อินเดียกินเกลืออย่างเดียวหลายพันปี เค้าก็อยู่ได้ แต่งันที่อากาศหนาวเย็น เราเติมไขมันธัญพืชเข้าไปได้ ให้มันมีพลังเต็มๆ แข็งแรง

80:57 ไมโครเวฟ  เป็นคลื่นแม่เหล็กแรงมาก จะทำให้อาหารอยู่ในรูปที่ชีวิตไม่ต้องการ กินแล้วจะไม่สบาย ถ้ามีความจำเป็น นานๆกินทีหนึ่ง

82:05 ความแรงของไฟสำคัญมาก ถ้าร่างกายร้อน อากาศร้อน

84:09 เหงือกอักเสบ ต้องผ่าตัด เกิดจากใช้ไฟฟู่ๆแรง ปรุงอาหาร การใช้ไฟกลางๆแค่พอสุก แล้วก็เลิก จะได้พลังชีวิตเต็มที่สุด 
แต่วันไหนร่างกายเย็น อากาศหนาว ใช้ไฟแรง ตั้งไฟนาน อุ่นซ้ำแล้ว ซ้ำอีก กินแล้วจะมีพลัง  เช่น จับฉ่ายกินที่จีน หนาว มีพลัง แต่ถ้ามากินที่ไทย อากาศร้อน หูดับตับไหม้ แก้โดยกินส้มตำรสไม่จัด กับผักฤทธิ์เย็น ผักสลัด ผักกาดฮ่องเต้

89:12 มึนหัวจากอาหารมัน แก้โดยกินเปรี้ยวๆ เช่น น้ำมะนาว1ชช.หรือ1ชต. ช่วยให้หายได้ กินรสหวานกับมัน รสเปรี้ยวแก้เร็็ว

88:37 คนเป็นนิ่วในถุงน้ำดี จึงต้องใช้เปรี้ยว เพราะนิ่วในถุงน้ำดีเกิดจากหวานกับมัน มันจะเปลี่ยนเป็นไขมัน นิ่วในถุงน้ำดีคือก้อนไขมัน เปรี้ยวจะไปสลายทำลายฤทธิ์ของหวานกับมัน สลายได้เร็ว เปรี้ยวกับจืดเย็นจะไปสลายทำลายฤทธิ์ของหวานกับมัน ทำให้ทุเลาได้เร็ว

90:25 ใครที่กินเปรี้ยวจนเสียวฟัน อย่ากินเปรี้ยวอีก แสดงว่าเกินธาตุนั้นแล้ว กินแล้วจะเป็็นพิษ แต่ถ้าใครกินเปรี้ยวสดชื่น ไม่เสียวฟัน แสดงว่าชีวิตต้องการธาตุเปรี้ยว กินเข้าไปเลย

เสียวฟันไม่สบายแล้ว พระพุทธเจ้าตรัสว่าเสียวฟันทำให้มีโรคมาก แล้วจะอายุสั้น

ผมเป็นคนธาตุลมผสมน้ำ แต่ก่อนกินเปรี้ยวเก่ง เผ็ดเก่ง พอโตมากินไม่ได้แล้ว เดี๋ยวนี้กินเปรี้ยว กำลังตก มันเสียวฟัน ต้องกินจืดเย็น ไม่ใช่ดูธาตุแล้ว กินตามธาตุตลอดไป ชีวิตต้องปรับ

ข้าวต้ม
95.12 “ต้มแค่พอสุก ใช้ไฟกลางๆ ปิดไฟเลย กินแล้วจะสบาย ถ้าอากาศวันนั้นร้อนจะต้มข้าวให้เปื่อย ใช้ไฟแรง ถ้าวันนั้นอากาศเย็น จะมีแรง“

100:29 กิินอาหารตามลำดับ ดื่มน้ำสมุนไพรผัก ผลไม้ ข้าวพร้อมกับ ต้มถั่ว แกงจืดหรือน้ำอุ่น ไม่กินน้ำเย็นทันที แต่ถ้าจำเป็นต้องกินให้อมไว้ก่อนกลืน


108 เคี้ยวให้ละเอียด(=เราทำแล้ว ใช้ได้จริง) ร่างกายดูดซึมธาตุอาหารได้มาก ถ้าเคี้ยวไม่ละเอียด จะมีอาหารตกค้างในกะเพาะเยอะ เป็นอาหารของเชื้อโรค ทำให้เป็นโรค

114.4 ปริมาณกิน คือ อิ่มสบาย เบาตัว มีกำลังไม่โหย
พิจารณาอาหารสุขภาพด้านประโยชน์ รสจัดเป็นโทษ จะทำให้เราลดอาหารที่เป็นโทษลงเรื่อยๆ

00 งา กระดูกงอก 21.30 ไตวาย 22.38 วัยทอง 

36.00 ตรวจสอบใช้สมุนไพรร้อน-เย็นจากการเป็นไข้ทับฤดู ใช้น้ำธรรมดา น้ำอุ่น น้ำร้อนวางที่ท้อง. อันไหนสบายกินอาหารและดีท็อกซ์ด้วยสมุนไพรชนิดนั้น
ดีทอกซ์ด้วยฉี่ร่างกายจะปรับเองไม่ต้องห่วงปรับร้อนเย็น

41.47 กระทรวงสาธารณสุขให้กินเกลือวันละไม่เกิน 1 ชช.

43.38  มะเร็งเกิดจาก...

50.05 พยายามกินอาหารสุขภาพรสไม่จัดให้ได้ 5 วัน

57.30 กินน้ำมัน..คนสมัยก่อนฝึกกินพิษอาทิตย์ละ1-2วัน เฉลี่ยอย่างนี้ปลอดภัย คนโบราณทำให้ดูแล้ว กินอาหารสุขภาพตลอดยาวนานไม่แข็งแรง สลับกินพิษบ้างเป็นบางคราว ต้องดูฐานตัวเอง เครียดเกินไปก็ไม่ไหว มันเกินแรง ดูฐานจิตที่พอดีว่าเราทำได้แค่ไหน ไม่หย่อนเกินไป ไม่ทุกข์เกินไป


1.02.08 ทุกครั้งที่แม่ไม่สบายจะกินข้าวสวยข้าวต้มโรยเกลือ แล้วหาย บางทีก็กินเพียวๆอย่างนั้น บางทีก็กินกับผักสด ผักลวก ผมเจอด้วยตัวเอง กินข้าวกับเกลือและผักสดเช่น อ่อมแซบ ผักลวก น้ำต้มถั่ว ช่วยใหัตัวเบา ในวันที่ล้า หมดแรง ตัวหนัก ผมกินเข้าไปคำเดียว อ๋อใช่เลย มันเบามันมีแรง มันสดชื่น มันรสดีทันทีเลย หายไข้ไปทำงานตอได้เลย
หมอเขียวhttps://youtu.be/AMsrDZL1Syk

1.07.08 ผมจะอธิบาย

ว่าทำไมโรคถึงหาย พระพุทธเจ้าตรัสว่าสังขารเป็นทุกข์...เกิดจากสังขารการปรุงแต่ง การแพทย์ทุกแผนบอกว่าถ้าปรุงเข้าไปมากๆ ใส่อะไรเข้าไปมากๆจะก่อโรค 

1.27.25 อาหารรสจัดจะก่อโรค อาหารที่ปรุงแต่งใส่อะไรเยอะ ปรุงเข้าไปเกินความพอดีของชีวิต พลังชีวิตก็ต้องเสียพลังในการเกร็งตัวบีบออก เสียพลังในการดันออก เซลล์มันก็พังมันก็ป่วย เพลีย ล้า เมื่อยๆ ตึงๆ แข็งๆ ก็กล้ามเนื้อเกร็งตัวบีบออก ก็จะเป็นโรคนั้นโรคนี้แทรกเข้ามา คนส่วนใหญ่ป่วยเพราะปรุง



1.08.16 พระพุทธเจ้าบอกว่าดับทุกข์ดับที่เหตุ 
ก็ไม่ปรุง กินข้าวโรยเกลือกับผักสดผักลวกนี่แหละ จะมีต้มถั่วหรือไม่มีก็แล้วแต่สภาพตอนนั้น 

พอไม่ปรุงจะเกิดอะไรขึ้น 
ธาตุอาหารมันน้อย ขาดธาตุอาหาร พลังชีวิตจึงไปดึงธาตุอาหารที่ค้างในตัวเรามาใช้ ชีวิตเค้าคิดได้ ผมถึงบอกว่าเค้าไม่ใช่เครื่องจักรกล เค้าคือชีวิต เค้าคิดได้เค้าไปดึงธาตุอาหารส่วนเกินมันคือพิษ เอามันมาใช้ มันกลายเป็นประโยชน์ แปรพิษให้เป็นประโยชน์ แข็งแรงขึ้นเลย ดีขึ้นเลย เราก็กินแบบนั้นข้าวโรยเกลือ ผักสด ผักลวก ต้มถั่วไปเรื่อยๆ วันเดียว 2 วัน 3 วันก็แล้วแต่ สุดยอดแล้ว

1.09.28 พอกินไปเรื่อยๆจะเกิดอะไรขึ้นรู้ไหม 
อีกสักพักจะหมดแรง 
แปลว่าอะไร 
ธาตุอาหารส่วนเกินที่เอามาใช้หมดแล้ว ถ้ากินต่อจะไม่สบาย กำลังตก ไม่มีแรง 
วิธีแก้ทำไง เหตุเกิดจากอะไร 
ไม่ปรุง วิธีแก้ก็ปรุง จะยากอะไร ใส่เข้าไปสิธาตุต่างๆ กินแล้วจะสดชื่นมีชีวิตชีวาแข็งแรง เราก็กินแบบนั้นไปเรื่อยๆ ถึงวันหนึ่งกำลังตกอีก
เกิดจากอะไร
เกิดจากธาตุเกิน
วิธีแก้ทำไง
ไม่ปรุง ก็อยู่อย่างงี้ ทำกลับไปกลับมา ถ้าอยากแข็งแรง ฟังดีๆนะ นี่คือสูตรอาหารสุขภาพนะ สลับกันระหว่างปรุงกับไม่ปรุง  ปรุงกับไม่ปรุง นี่แหละปรุงเท่าที่พลังชีวิตเต็มนี่แหละ แล้วสลับกับไม่ปรุง

1.10.36 เล่าให้ฟังนิดหนึ่งสลับกับไม่ปรุงอันนี้ซึ่ง เท่าที่พบความจริงเวลาเรากินข้าวโรยเกลือไม่ปรุง ส่วนใหญ่จะประมาณ 1-3 วันเท่านั้นเอง บางทีวันเดียวก็พอ วันรุ่งขึ้นเนี่ยะ วันนั้นกินนะถ้าถูกกันมันจะรสดีมากเลย จะรสดีอร่อย มีพลัง บางทีวันรุ่งขึ้นถ้าเรากินสูตรนั้นต่อนี่ กำลังตกแล้ว แปลว่า ความต้องการปรุงแล้ว

บางทีเราจะกินสูตรนั้นกำลังเต็มไปได้อีก 2-3 วัน หรือ 1 สัปดาห์ ต้องดูเอานะว่าเรากำลังเต็ม กินแล้วรสอร่อย รสดี กำลังเต็มไปกี่วัน นี่ฟังสัจจะดีๆ รสอร่อย รสดี กำลังเต็มไปกี่วัน

1.11.12 ถ้ามันเริ่มรสไม่ดีฝืดๆ ติดคอ แปลว่ามันต้องการธาตุเพิ่ม ปรุงรสเข้าไปเลย หาอะไรมาปรุงเพิ่มเข้าไปแล้วจะแข็งแรง อยู่อย่างเงี้ยะ พอปรุงเข้าไป กำลังตกปุ๊บ มากินสูตรนี้เลย สลับไปสลับมา 


1.11.25 แล้ววันที่เราอดไม่ได้ อยากกินของอร่อยที่เราชอบ ไอ้ปรุงเราก็ปรุงไม่มากประมาณ30-50% เท่าที่พลังชีวิตเต็ม ทีนี้ถึงวันหนึ่งกิเลสก็อาละวาด มันไม่อยากกินแล้วปรุงไม่ปรุง ปรุงไม่ปรุง อยากกินของอร่อยที่ชอบๆๆ แล้วก็เครียดมากๆๆ

ทำไง
เราก็ไปกิน ตอบไม่ค่อยยากเท่าไหร่นะ มันเครียดมากๆๆ เราก็ไปกินซะ เพราะถ้าเราไม่กิน พิษที่เกิดจากความเครียดมันจะเป็นพิษมากกว่าอาหารที่เป็นพิษอีก เพราะฉะนั้นเราก็ไปกิน กินอาหารล้างพิษเครียดบ้าง กินไปพอเป็นวัคซีนสักวัน 2 วัน อ้าว!พอหายอยากแล้วหรือเริ่มเกิดอาการไม่สบาย 
ทำไง
เราก็มากินอาหารปรุงไม่ปรุงยังงี้แหละ วันไหนอดไม่ได้ก็ไปกินของอร่อยบ้าง จนหมดความอยากในของที่ชอบแล้ว ก็กินพิษบ้างเฉลี่ยสัปดาห์ละวัน 2 วัน จะห่างกว่านั้นก็ได้บางทีก็ 2-3 อาทิตย์ก็กินพิษสักครั้งก็ได้ แล้วแต่เราว่าจะเลือกกินพิษประมาณไหน แต่ไม่ควรกินพิษถี่เกินสัปดาห์ละวัน 2 วัน ไม่ใช่ (หัวเราะ)
กินพิษทุกวัน มันจะไม่ไหว นี้คืออาหารสุขภาพ

1.13.05 ผมว่าอีกนานกว่าวงการสุขภาพจะรู้จักอาหารสุขภาพ เพราะอาหารสุขภาพมีสูตรตายตัวไหม
ไม่ตายตัว มันไม่ตายตัว แต่ความคิดของวงการสุขภาพพยายามค้นหาว่ามันต้องมีสูตรใดสูตรหนึ่งตายตัว ที่ทำให้คนแข็งแรงตลอดกาลนาน
หามาไม่รู้กี่ร้อยกี่พันปี ไม่เจอ ไม่มี พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่าอย่าไปยึดมั่นถือมั่น สิ่งใดเข้าไปยึดมั่นถือมั่นจะไม่เป็นทุกข์ไม่มี
เขาจะงงนะ เจอสูตรนี้ว่าโรคมันหาย ไปสักพักโรคไม่หาย เพราะสภาพชีวิตมันเปลี่ยนก็จะไม่หาย เขาก็จะมิจฉาทิฏฐิอยู่อย่างนั้น มันต้องปรับไปปรับมา นี่คือความจริงของชีวิต

หมอเขียว https://youtu.be/AMsrDZL1Syk


1.14.25 เวลาเราฝึกกินข้าวกับเกลือเราค่อยๆฝึกไปๆ มันจะแข็งแรงมากเลย ใช้เกลืออย่างเดียวปรุงอาหารดีที่สุด ถ้าอดไม่ได้ใส่ซีอิ้ว น้ำปลา กะปิ ฯลฯให้ใส่เพียงเล็กน้อยดีที่สุด จะเป็นอาหารสุขภาพได้ ถ้าฝึกกินข้าวกับเกลือไปนาน ไปกินซีอิ้ว น้ำปลา กะปิ เต้าเจี้ยวฯลฯ มันจะคาว กินไปสักพักจะมีกลิ่นเหม็นออกมาที่ปาก พลังชีวิตบอกว่าไม่เอา ถ้าเราไปกินบ่อย กินมาก ตอนแรกๆมันจะไม่มีพลังชีวิต จนกว่าชีวิตจะสะอาด คนไม่สูบบุหรี่จึงจะเหม็นบุหรี่ คนไม่กินเหล้าจะเหม็นเหล้า คนไม่กินสิ่งพิษใดๆจึงจะรู้ว่าสิ่งนั้นเป็นพิษ

1.15.35 ซีอิ้ว น้ำปลา กะปิ เต้าเจี้ยวเป็นตัวหมัก มันจะร้อน บางวันที่ร่างกายหนาวเย็น พอใส่ได้บ้าง แต่แม้จะไม่ใส่ก็ไม่เป็นไร เกลืออย่างเดียวก็อยู่ได้ชีวิต แต่ถ้าจะใส่อย่าไปใส่เยอะ ใส่เพียงเล็กน้อย นี่คืออาหารที่ดีที่สุดในโลกเป็นอย่างนี้ ท่านจะรู้นะเวลากินข้าวกับเกลืออย่างเดียวมันจะใสๆในตัวเรา มันโปร่งๆ โล่ง แต่ถ้าใส่ซีอิ้ว น้ำปลา กะปิ เต้าเจี้ยวมันจะขุ่นๆมัวๆ จะไม่ค่อยโปร่ง ไม่ค่อยสบาย

หมอเขียว https://youtu.be/AMsrDZL1Syk


1.17.03

8้0.57 ไมโครเวฟอันตรายเพราะอะไร
ไมโครเวฟเป็นคลื่นแม่เหล็กแรงมาก จะทำให้อาหารอยู่ในรูปที่ชีวิตไม่ต้องการ (กิน)กินแล้วจะไม่สบาย ถ้ามีความจำเป็นนานๆกินที่หนึ่ง



********************************************************


 พึ่งตนเอง หมอตายด้วยโรคนี้เหมือนกัน
“ในยุคที่ผู้คนเจ็บป่วยด้วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรังซึ่งวิชาแพทย์ไม่มีปัญญารักษาให้หายนี้ อย่างดีที่สุดที่แพทย์จะช่วยคนไข้ได้ก็คือชี้แนะให้คนไข้เห็นว่าพวกเขาควรจะต้องใช้ชีวิตอย่างไรเท่านั้น“
หมอสันต์ ใจยอดศิลป์



********


การมีสุขภาพที่ดี คือ 
การทำให้ได้ตามที่รู้ไม่ใช่แค่รู้แล้ว จะมีสุขภาพที่ดีได้
ซึ่งการสร้างพฤติกรรมสุขภาพที่ดีเป็นเรื่องสำคัญที่สุด
ที่ต้องฝึกฝนทำอย่างต่อเนื่องจนเป็นปกติสุขของวิถีชีวิต



หมอที่ดีที่สุดในโลก คือ คุณเอง 

และเครื่องมือที่แท้จริงในการบำบัดรักษาโรคคือ ร่างกายของเราเอง

...http://www.morkeaw.net/

หลัก4ประการช่วยใจสงบยามเจ็บป่วย
ไม่กลัวตาย
    หลวงปู่เชียรสอนว่า“โรคมันเป็นกรรม มันจะตายก็ให้มันตาย หมอจะรักษาไม่ได้“ “ธรรมโอสถ“
ไม่กลัวโรค
ไม่เร่งหาย
ไม่กังวล

การเจ็บป่วยในยุคนี้มีสาเหตุจาก 5 ข้อหลัก
จากหนังสือถอดรหัสสุขภาพเล่ม3 มาเป็นหมอดูแลตัวเองกันเถอะ หน้า24-

1.อารมณ์เป็นพิษ เช่น ความเครียด ความเร่งรีบ ความกลัว ความวิตกกังวล ไม่โล่ง โปร่ง ความไม่สบายใจ ความไม่พอใจ ความมุ่งร้าย อาฆาตพยาบาท โลภ โกรธ หลง

2. อาหารเป็นพิษ จาก 6 สาเหตุหลัก ได้แก่ 
    2.1 สารพิษ จะเผาทำลายเซลล์ เนื้อเยื่อ วิธีลดสารพิษที่ช่วยได้มาก เช่น แช่ผักผลไม้ในน้ำซาวข้าว หรือแช่ในน้ำใส่ถ่านไม้ 1-5 ก้อน 10-20 นาที ถ่านที่ใช้แล้ว นำไปผึ่งให้แห้ง เวียนกลับมาใช้ใหม่ได้อีก 15-20 ครั้ง จึงนำไปตากแห้งใช้หุงอาหารได้ต่อไป

       2.2  กินเนื้อสัตว์มากเกินไป  เพราะในเนื้อสัตว์มีสารที่เป็นพิษต่อร่างกายมาก โดยเฉพาะที่มีไขมันเยอะ ควรกินแต่น้อย  ควรกินเนื้อปลาเพราะมีพิษน้อยที่สุด โปรตีนที่ดีที่สุดสำหรับมนุษย์คือถั่ว

          2.3 รสจัด ร่างกายมนุษย์ในปัจจุบันต้องการรสที่ปรุงในอาหารประมาณร้อยละ 30 หรืออาจมากหรือน้อยกว่านั้น ตามแต่สภาพร่่างกายของแต่ละคนณ.เวลานั้น จึงจะพอดีบำรุงร่างกายให้แข็งแรง บรรเทาโรคได้ดีที่สุด และเกิดพลังชีวิต(สบาย เบากาย มีกำลัง)
         ตามหลักวิทยาศาสตร์สารปรุงรสทุกรส เมื่อถูกย่อยด้วยน้ำย่อยจะกลายเป็นพลังงานทั้งหมด ถ้าปรุงรสมากเกินความต้องการของร่างกาย เมื่อถูกย่อยจะเกิดพลังงานส่วนเกิน เผาทำร้ายเซลล์ เม็ดเลือด เกร็ดเลือด ส่วนประกอบต่างๆของเลือดและเซลล์เนื้อเยื่อของอวัยวะในร่างกาย หรือถ้าย่อยไม่หมดจะเกิดการอุดตันตามส่วนต่างๆของร่างกาย ของดีจะไหลเวียนไปเลี้ยงร่างกายไม่สะดวก ส่วนของเสียจะถูกขับออกจากร่างกายไม่สะดวก พลังชีวิตตก เกิดโรคต่างๆ 
                ถ้าปรุงรสน้อย ธาตุอาหารและพลังงานไม่พอ เซลล์เนื้อเยื่อเสื่อมเร็ว พลังชีวิตตกเกิดโรคต่างๆเช่นกัน

            2.4 อาหารไม่สมดุลพระพุทธเจ้าตรัสว่าเหตุให้อายุยืน๕ประการเป็นไฉน  http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=22&A=3384&Z=3394 
บุคคลเป็นผู้ทำความสบายแก่ตนเอง ๑ 
รู้จักประมาณในสิ่งที่สบาย ๑ 
บริโภคสิ่งที่ย่อยง่าย ๑ 
เป็นผู้เที่ยวในกาลสมควร ๑ 
เป็นผู้ประพฤติเพียงดังพรหม ๑ http://www.84000.org/tipitaka/dic/d_item.php?i=161



3.ออกกำลังกาย: โดยไม่บริหารให้กล้ามเนื้อและเส้นเอ็นยืดหยุ่นเข้าที่ จึงมักได้ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ พร้อมกับผลข้างเคียงคือความแข็งตึงเกน็งค้างของกล้ามเนื้อและ

59.25 ใช้เกลือเป็นหลัก เกลือเป็นพลังชีวิต ชาวฮันซาอายุยืุนที่สุดในโลกใช้เกลือปรุงอาหารไม่ใช้อย่างอื่นเลย ไม่มีซีอิ้ว เต้าเจี้ยว กะปิ น้ำปลา และกินพืช 
           คนอีสานสมัยก่อนแข็งแรงมาก เขาใช้เกลืออย่างเดียวปรุงอาหาร ช่วงหลังมามีปลาร้า น้ำปลา ผงชูรส 

















/////////////////////////////////////

แลกเปลี่ยนประสบการณ์

คนไทยจากออสเตรเลีย ฮาวาย อังกฤษ สิงคโปร์ http://youtu.be/yBpEy47EQyA 

ตกขาวแก้โดยสวนด้วยน้ำฉี่ น้ำย่านาง ใบเตย อ่อมแซบ รักษาเบาหวาน

ท่านแรก มาจาก อเมริกา รัฐ Hawaii คุณ ท่านแรก มาจาก อเมริกา รัฐ Hawaii คุณ อ้อย อายุ ๔๒ ปี อาชีพ ทำงานในร้านอาหาร สุขภาพ เป็นแผลผุพองตามมือมานาน กว่า ๒๐ ปี เดิมใช้ยาสเตอร์ลอยทั้งทา กิน และฉีด 

ท่านที่ ๒ มากจาก ออสเตรเลีย คุณหมี อายุ ๓๐ปี อาชีพ พยาบาล สุขภาพแข็งแรง ชอบแนวทางการดูแลนี้ สามารถทำได้ด้วยตนเอง 
51.37 กรอกตาในน้ำฉี่ที่ใส่ในกระบอกล้างตา ช่วยปรับสมดุลตายาวตาสั้นให้ปกติได้

ท่านที่ ๓ มาจากอังกฤษ คุณวิสาข์ อายุ ๓๙ ปี แม่บ้าน อาการป่วย โรคกระเพาะนานมากกว่า ๑๐ ปี เป็น ๆ หาย ๆ ปวดประจำเดือน ปวดหัว
ท่านที่ ๔ มาจากสิงคโปร์ คุณปิ๋ว ทำงานเกี่ยวกับงานวิเคราะห์ที่ต้องทำงานกับคอมพิวเตอร์ทั้งวัน จะมีปัญหาออฟฟิคซิโดรม จึงเริ่มค้นหาวิธีการดูแลตัวเองในยูทูปเพื่อดูแลตัวเอง
ท่านที่ ๕ มาจากเดนมาร์ก คุณบี อายุ ๓๖ ปี แม่บ้าน อาการป่วย มะเร็งลำไส้ใหญ่ (ลามไปตับกับปอด)เป็นมา ๑ ปี ๗ เดือน ปวดท้องประจำเดือน ทรมานจากอาการปวด ต้องกินมอร์ฟีนและพาราเพื่อลดปวด หลังมาดูแลวิธีการนี้ เธอรู้สึกอย่างไร

ท่านที่ ๖ มาจากแอลเอ เมืองไทย(ร้อยเอ็ด) คุณเพ็ญ อายุ ๓๘ ปี อาชีพ เย็บผ้า ทำนา อาการป่วย มะเร็งเต้านมระยะแพร่กระจาย รักษามา ๑ ปี ไม่ตอบสนองเคมีบำบัดฉายแสงแล้ว ๔๘ แสง แสง หน้าอกเปือยแพ้แสง ผ่านการฉายแสงแล้วยังมีก้อนมะเร็งขึ้นมาอีกที่ใต้รักแร้ที่ต่อมน้ำเหลือง ไม่ตอบสนองเคมีบำบัด มีอาการปวดแสบปวดร้อน นอนไม่ได้อ้อย อายุ ๔๒ ปี อาชีพ ทำงานในร้านอาหาร สุขภาพ เป็นแผลผุพองตามมือมานาน กว่า ๒๐ ปี เดิมใช้ยาสเตอร์ลอยทั้งทา กิน และฉีด 





00.00 คนที่1 คนภูเก็ตเป็นโรคsleกินสเตีรอยด์มา15ปี จะคัน ต้องงดกินเนื้อสัตว์ กินอาหารแบบในค่ายอาการดีขึ้น มาค่ายงดกินยาสเตีรอยด์ที่หมอจ่ายวันละ2เม็ด ต้องเห็นโทษจากการกินก่อนจึงจะช่วยลดการหยิบเข้าปากได้
12.20 มะเร็งรังไข่ ให้คีย์โม 1ครั้งเมนส์ไม่มี3ปี 15.43หลังจากให้คีย์โมปากเปื่อย อาเจียน กินอะไรไม่ได้ เพลียหมดแรงนอนอย่างเดียว ลุกไม่ขึ้น



คลิปเผยแพร่ปี58

581121 03 ที่มาของแพทย์วิถีธรรม กลไกการเจ็บป่วยที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้เผยแพร่เมื่อ 8 ธ.ค. 2558 https://youtu.be/-P68eVDYCFs

580524 1 กลไกการเกิดการหายของโรคตามหลักแพทย์วิถีธรรม โดยหมอเขียว วันที่ ๒๔ พค๕๘ https://youtu.be/FLtRYUQF7E0

581102 กลไกการเกิดการหายของโรค และการทดสอบพลังชีวิตกับสิ่งที่ถูกกัน วัดป่ารุ่งอรุณเผยแพร่เมื่อ 13 พ.ย. 2558 https://youtu.be/_Nfk6rJxhX4


581124 03 การเกิดทุกข์ ตามหลักปฏิจจสมุปบาท๑๑เผยแพร่เมื่อ 15 ธ.ค. 2558
https://youtu.be/DxNUO8ZrCY8

580524 2วิบากกรรมมีผลทำให้เกิดความเจ็บป่วย โดยหมอเขียว วันที่ 24 พ.ค.58
https://youtu.be/TGEOP-oJnGQ

581123 03 ชีวิตที่เป็นสุข ต้องเข้าใจเรื่องกรรมอย่างแจ่มแจ้ง เผยแพร่เมื่อ 13 ธ.ค. 2558 https://youtu.be/bp3hq47ipp8


581124 01 ทบทวนธรรม อานิสงส์ของศีล ๙ เผยแพร่เมื่อ 13 ธ.ค.2558 https://youtu.be/7O5ms_AcWl8

581124 02 การไม่เบียดเบียนสัตว์ ทำให้อายุยืน เผยแพร่เมื่อ 14 ธ.ค. 2558 
https://youtu.be/9FVsxb3BDbQ


581124 04 เหตุแห่งโรคและโชคร้าย 16 อย่าง https://youtu.be/f9A3KrlojEQ


580523 2 ชีวิตเกิดมาได้อย่างไร สาเหตุของการเจ็บป่วย เผยแพร่เมื่อ 26 พ.ค.2558https://youtu.be/d24k1ou912k





580325 01หมอบรรยายเทคนิคการทำใจให้หายโรคเร็ว ณ บ้านราชเมืองเรือ ราชธานีอโศก 
วันที่ ๒๕ มีค ๕๘ https://youtu.be/mbUtYh_PzkA

580630แลกเปลี่ยนประสบการณ์ จิตอาสาแพทย์วิถีธรรม บ้านราชเมืองเรือ ราชธานีอโศก อุบลราชธานี เผยแพร่เมื่อ 1 ก.ค. 2558 https://youtu.be/Iy8XLDtlJew


580429 02ตอบคำถามสุขภาพตามหลักแพทย์วิถีธรรมโดยหมอเขียว ค่ายสวนป่านาบุญ ๑ 1

580428 2การดูแลตนเองด้วยน้ำปัสสาวะ และเทคนิค ๙ ข้อ ค่ายสวนป่านาบุญ 1
https://youtu.be/i0MpP-maI58

ยาเม็ดที่ 1 อาหารเป็นยา

580323 03หมอเขียวบรรยายอาหารเป็นยา อาหารรักษาโรค ณ ราชเมืองเรือ ราชธานีอโศก วันที่ ๒๓ มีนาคม ๕๘ เผยแพร่เมื่อ 27 มี.ค. 2558 https://youtu.be/AMsrDZL1Syk




                                                           *************

กินน้ำตาลและพริกปริมาณเท่าไหร่จึงไม่ป่วย
อาหารปรับสมดุลตอน1


อาหารปรับสมดุลตอน2


ยาเม็ดที่2 กัวซา

หมอเขียวบรรยายการกัวซา คลิกดูที่นี่http://youtu.be/jeI65lGIM3w

หมอณาสาธิตกัวซา





สาธิตกัวซาตัวเองและวิเคราะห์โรค




ยาเม็ดที่3 สวนล้างลำไส้ http://youtu.be/QeDCjGzPUAA



เทคนิคดีท็อกซ์ ๑๙ เมษายน ๒๕๕๕




ยาเม็ดที่4 แช่มือแช่เท้าในน้ำสมุนไพร https://youtu.be/rIZ6BGPAPBM


                                          ยาเม็ดที่5 โยคะกดจุดลมปราณ 


จากหนังสือถอดรหัสสุขภาพเล่ม3 มาเป็นหมอดูแลตัวเองกันเถอะ
หน้า32-33: การเข้าที่เข้าทางของกระดูก เส้นเอ็น กล้ามเนื้อ จะทำให้เกิดการไหลเวียนของเลือดลม และพลังงานร่างกาย เป็นไปโดยปกติอย่างมีงประสิทธิภาพ ส่งผลให้เิกิดสุขภาพดีกว่าการเดิน วิ่ง ขี่จักรยาน เต้นแอโรบิก ซึ่งมักทำอย่างเดียว โดยไม่ได้กายบริหารให้กล้ามเนื้อและเส้นเอ็นยืดหยุ่นเข้าที่เข้าทาง จึงมักได้ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ พร้อมกับผลข้างเคียงของการออกกำลังกาย คือความแข็ง ตึง เกร็ง ค้างของกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น การเคลื่อนที่ออกจากตำแหน่งปกติของกระดูก เส้นเอ็นและกล้ามเนื้อ ทำให้การไหลเวียนของเลือดลมและพลังงานในร่างกายติดขัด ส่งผลให้เกิดความเจ็บปวดตึง มึนชา พลังชีวิตตก เร่งความเสื่อมในร่างกายและเกิดโรคต่างๆ

   จากประสบการณ์หมอเขียวเคยพบผู้ป่วยหลายคนทั้งเบาและหนักจนถึงเกือบตาย แม้หมอแผนปัจจุบันจะรักษาด้วยวิธีการต่างๆอย่างไร อาการก็ไม่ดีขึ้น หมอเขียวได้ช่วยผู้ป่วยด้วยเทคนิคการกดจุดลมปราณ โยคะ กายบริหารให้กล้ามเนื้อ กระดูก และเส้นเอ็นเข้าที่เข้าทางตามปกติ พบว่า กว่า90%หรือเกือบทั้งหมดของผู้ป่วย อาการมักทุเลาลงอย่างรวดเร็ว  เป็นที่น่าประหลาดใจอย่างยิ่ง ดังนั้นการเคลื่อนไหวอริยาบทเพื่อให้เกิดความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ  และเส้นเอ็น การเข้าที่เข้าทางกระดูกจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อสุขภาพ



                           ยาเม็ดที่6 การพอกทาหยอดประคบอบอาบด้วยสมุนไพร

สาธิตการพอกทาเริ่มที่15.59 https://youtu.be/k7kbK5RhNWk

24.18 ผสมกากสมุนไพรที่เหลือจากคั้นน้ำคลอโรฟิลล์ลงไป เอาพอกตามข้อหรือเข่าแก้ปวด หรือพอกตับสำหรับพวกท้องโตจากตับอักเสลเพื่อช่วยลดพิษร้อน



ยาเม็ดที่ 7 กินสมุนไพรปรับสมดุล
การถอนพิษจากร่างกาย ตอน 1
ผื่นคัน



การถอนพิษจากร่างกาย ตอน 2



ยาเม็ดที่8 ใช้ธรรมะทำให้สบายใจ ผ่อนคลายความเครียด


ยาเม็ดที่9 รู้เพียรรู้พักให้พอดี

เทคนิคการฝึกหายใจรักษาโรค



แลกเปลี่ยนประสบการณ์ 

https://www.youtube.com/playlist?list=PLbzpGbAUyJqksRyDRtBN--bU_19qzKFkd&feature=mh_lolz

ตัวอย่างบุคลากรทางการแพทย์

 หมอหมี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเพ็ญ อุดร หมอวงศ์ ผอ รพ สต ท่าไคร้ (อุตรดิตถ์) ป้าปาน https://youtu.be/SqtqMk3GCWw
เผยแพร่เมื่อ 22 ธ.ค. 2015 จัดทำ สวนป่านาบุญ ๑ ดอนตาล จังหวัดมุกดาหาร

หมอวัชระ หมออายุรกรรมโรคหัวใจ

ตัวอย่างคนไข้

 ข้อคิดของเรา:“เมื่อแพทย์แผนปัจจุบันไม่มีคำตอบให้กับคนไข้ 
หรือมีแต่คนไข้ไม่แน่ใจในคำตอบ หมอไม่ยอมรับข้อมูลอื่นๆที่คนไข้รู้มา
แต่หมอไม่รู้ เอามาร่วมใช้รักษา โดยพูดกับคนไข้ว่า“แล้วจะกินยานี่ไหมหรือยังงั้นหมอไม่นัดคุณอีกแล้วนะ“ เป็นการจบการรักษาแบบขาดเมตตา 
เมื่อไม่มีเวลามากพอในการรักษาคนไข้ ต้องรอนานกว่าจะได้รับคิวการรักษา 
ใช้การรักษาแบบลองยา เปลี่ยนยาไปเรื่อยๆ 
อาการเจ็บป่วยของคนไข้ไม่ดีขึ้น กลับทรุดลงให้เห็นในทุกๆวัน  
เมื่อคนไข้หรือคนปกติหรือตัวหมอเองก็กลัวตาย ทางใดที่จะทำให้ทุกข์บรรเทา 
แม้จะเป็นเวลาที่จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นานก็ตาม ให้ได้กลับมาใช้ชีวิตปกติได้ 
หรือทางใดช่วยให้ตายง่ายไม่ตายยาก 
ลองถามใจตัวเอง เมื่อไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว 
กับคำพูดของหมอแผนปัจจุบัน“เอาคนไข้กลับบ้านนะ หรือทำใจนะ หรือคนไข้อยู่ระยะสุดท้ายแล้ว หรือใช้วิธีรักษาแบบประคับประคองนะ หมอจะไม่ทำอะไรเพิ่มอีก 
ในขณะที่อาการคนไข้ยังมีการปวดเจ็บรบกวน 
เมื่อมีฟางเส้นหนึ่งลอยมา แม้จะแค่ฟาง 
ไม่มีอะไรจะเสียมากไปกว่าการรอความตายอย่างเดียว 
ถามใจตัวเองสิว่าจะรักษาไหม หรือจะหยุดรักษา ตามคนอื่นบอก 
แม้จะเป็นคำพูดของหมอ แต่ก็เป็นแค่คนอื่น “เวลาเราทุกข์ เขาทุกข์กับเราไหม 
ชีวิตเป็นของเรา เวียนเกิดเวียนตาย“ จ.5ก.พ61,05:20น.บ้านคูตต


ไตวายระยะสุดท้าย 
https://youtu.be/2P22fBDhvQ8

https://www.youtube.com/watch?v=SqtqMk3GCWw 
https://www.youtube.com/watch?v=Rh1WGdlwpDI
https://www.youtube.com/watch?v=Nmh3SzH7kIk&t=2s
https://www.youtube.com/watch?v=Nn21AxPKLAo
https://www.youtube.com/watch?v=dUVbu1rJD38





คุณภราดรเป็นแผลพุพองน้ำเหลืองเสีย เข้าค่ายสุขภาพสวนป่านาบุญ1 ดอนตาล มุกดาหาร 20-24 มิ.ย.58

ถาม: สาเหตุมาค่าย
ตอบ: ภรรยาทำขนมเค็กขาย ใช้เวลายืน บางคืนถึงตี2-3 ปวดเข่า จึงพาภรรยามาค่าย ตัวเองคิดว่าแข็งแรง กินอาหารสะอาดที่ค่าย3 วัน ตัวบวมเหมือนคิงคอง มือเท้าบวม นอนที่เต้นท์แช่ฉี่
    หมอเขียวไปเยี่ยมบอกว่า“ดีแล้วที่มันเป็น“ ผมสะดุดหมอพูดอย่างนี้เหรอ ก็มาเข้าใจตอนหลังว่าถ้ามันไม่เป็นแล้วมาเป็นทีหลังมันแย่กว่า มันเป็นพิษที่สะสมอยู่ในร่างกาย





คุณภราดรเป็นแผลพุพองน้ำเหลืองเสีย เข้าค่ายสุขภาพสวนป่านาบุญ1 ดอนตาล มุกดาหาร 20-24 มิ.ย.58http://youtu.be/weZ_hunBCik









01:20 ถาม: สาเหตุมาค่าย
ตอบ: ภรรยาทำขนมเค็กขาย ใช้เวลายืน บางคืนถึงตี2-3 ปวดเข่า จึงพาภรรยามาค่าย ตัวเองคิดว่าแข็งแรง กินอาหารสะอาดที่ค่าย3 วัน ตัวบวมเหมือนคิงคอง มือเท้าบวม นอนที่เต้นท์แช่ฉี่

    หมอเขียวไปเยี่ยมบอกว่า“ดีแล้วที่มันเป็น“ ผมสะดุดหมอพูดอย่างนี้เหรอ ก็มาเข้าใจตอนหลังว่าถ้ามันไม่เป็นแล้วมาเป็นทีหลังมันแย่กว่า มันเป็นพิษที่สะสมอยู่ในร่างกาย ณ.เวลานั้นร่างกายเราแข็งแรงถึงขับพิษนั้นออกได้ ถ้าขับไม่ได้โอกาสที่เราจะเป็นมะเร็งหรือโรคร้ายมีแน่นอนในระยะยาว

03:31 ดังนั้นใครที่มาเข้าค่ายแล้วเกิดอะไรกับร่างกาย จงภูมิใจว่าดีแล้วที่เป็น ดีกว่าเป็นทีหลังแล้วจะแย่ ตอนนี้ร่างกายเราแข็งแรงพอที่จะรับภาระกับมันได้หรือสู้กับมันได้ เอาเลยสู้เลยดีกว่าอายุมากๆขึ้นแล้วนี่ เราเป็นขึ้นมาแล้วเรสสู้กับมันไม่ไหว

ถาม: มาเข้าค่ายปีไหน
ตอบ: ปี55 เกือบ 3 ปีแล้ว ออกจากค่ายไปรักษาที่บ้านต่อ ตอนอยู่ที่ค่าย หมอเขียวเคยพูดว่า“ไปโรงพยาบาลแพทย์จะไม่ตอบคุณหรอกว่าเป็นอะไร“ มันเหมือนท้าพิสูจน์ ผมต้องเข้าโรงพยาบาลจริงๆ เพราะไม่มีทางรักษาตัวเอง ณ.เวลานั้น เพราะอยู่กับภรรยาเราไม่มีคนปรึกษา แต่อยู่ที่ค่ายมันไปได้ จะมีคนแวะเวียนมาให้คำแยะนำอะไร แต่อยู่บ้านบางทีเราก็ไม่มีสมุนไพรที่จะเอาไปใช้ ต้องไปโรงพยาบาล ผมขับรถไปทั้งสภาพนั้นเลย

05:03 คุณหมอเห็น เป็นอาจารย์หมอ เห็นรับทันทีให้แอมิดเลย แล้วก็อยู่ที่นั่นประมาณ 7 วัน
ถาม: อาจารย์หมอบอกไหมคะว่าเป็นอะไร
ตอบ: ตอบไม่ได้ครับ....ทั้งที่เจาะเลือดไปเยอะมาก ของผมเจาะไปเทสเกือบทุกอย่าง ปรากฏว่าคุณหมอก็ตอบไม่ได้ว่าเป็นอะไร ซึ่งทำให้ผมนึกถึงคำพูดของหมอเขียว

ถาม: ว่าตรวจไม่รู้แน่เลย
ตอบ: ยุบลงเนื่องจากคุณหมอให้ยาฆ่าเชื้อ ซึ่งผมต้องนอนให้น้ำเกลือใส่ยาฆ่าเชื้อประมาณ5-6วัน ทีนี้พอยุบแล้วเนี่ยะ กลับมาบ้านประมาณ 2 เดือน อาการยุบนั้นเริ่มขึ้นมาเหมือนเดิม การรักษาตัวคิดว่าไปโรงพยาบาลไมาได้อะไรแน่ เสียเงินเปล่า เสียใจด้วย ก็เลยมารักษาทางด้านหมอเขียว ก็มีทั้งพอก ประคบต่างๆเท่าที่จะทำได้

ถาม: จากภาพ เมื่อไหร่
06:40 ตอบ: ไม่่เป็น 1 ปี ที่ว่าตัวเหมือนคิงคอง มากกว่านี้ สุดท้ายผมต้องใช้ไม้พยุงเดิน

ถาม: มีปัจจัยเสี่ยงอะไรที่เกิดอาการพิษมันออกเป็นผื่นๆแบบนี้
07:03 ตอบ: ถ้าพูดทุกคนก็คงจะอึ้งเหมือนกัน กาแฟครับ เนื่องจากเป็นผู้ขายกาแฟ ผมขายกาแฟสดอยู่ หมอเขียวได้อธิบายพิษของกาแฟให้ฟังอยู่ ซึ่งหลายอย่างที่อธิบายมันตรงกับที่เกิดขึ้นด้วย เหมือนกับเราเป็นผู้ทำกาแฟให้กับลูกค้า สมมติว่าวันละ50แก้ว เราทั้งได้กลิ่น บางทีต้องชิม เราทำผิด เราต้องเอาไว้ดื่มเอง ตัวเราเองก็ดื่ม มันสะสมอยู่เรื่อยๆ จนกระทั่งพิษมันปะทุขึ้นมา

07:52 ถาม: พื้นฐานสุขภาพเดิม ไม่มีปัญหาอะไรเลยเหรอ
ตอบ: ตั้งแต่ 3 ขวบ ป่วยเป็นโรคหอบหืด เรียกว่าถ้าอยู่ร.พ รร. บ้านเนี่ยะ ผมอยู่รพ.กับบ้านมากกว่า นอนรพ.มีทั้งน้ำเกลือ ออกซิเจนสารพัดที่เขาจะใช้ และกินยามาตั้งแต่อายุ3ขวบ ยาฟานอลกับแอสมา โตขึ้นมาหน่อยก็มียาพ่นซึ่งเราต้องใช้ตลอด ขนาดยาเม็ดที่เรากิน เรายังปวดหัวมาก แล้วผมกินมาเป็นสิบๆปี

ถาม: อาจมีปัจจัยที่เรารับสารเคมีบางส่วนจากยาอยู่แล้ว อีกอันคือปัจจัยจากกาแฟ ซึ่งอาจเป็นปัจจัยเสริม เติมกันให้เกิดพิษ
08:46 ตอบ: พิษบวกกันครับ จนกระทั่งร่างกายเรารับไม่ไหว มีการขับออกมา

ถาม: ไม่รับการรักษาจากร.พ.แล้วดูแลตัวเองอย่างไร มีการพอก แล้วใช้ข้อไหนอีก
ตอบ: อาจมีแช่ฉี่ซึ่งไม่อยู่ใน9ข้อ แต่เป็นข่อที่เรารู้ว่าฉี่นั้นดียังไง                                   


คุณเรวดีเป็นไทรอยด์เป็นพิษ ริดสีดวงทวาร ภูมิแพ้คัน




คุณแม่คุณเรวดีเป็นเก๊าต์และพี่ชายเป็นเบาหวาน

แม่คุณเรวดีเป็นโรคเก๊าท์ชอบกินข้อไก่ทอด น้ำยาไก่ ทุกอย่างที่เป็นไก่  https://youtu.be/JDTOxryTkjQ


คุณจุ๋ม ชิคาโก


เผยแพร่เมื่อ 30 ก.ย. 2012
บรรยายโดย คุณจุ๋ม (อรรถวรรณ หงอสุวรรณ) ในงานค่ายสุขภาพพึ่งตน ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง แพทย์วิถีธรรม โดยทีมงานจิตอาสาชิคาโก ณ นครรัฐอิลินอย ชิคาโก สหรัฐอเมริกา
วันเสาร์ที่ ๒๙ กันยายน ๒๕๕๕ เวลา10:30- 18.30 น.
คุณจุ๋มอธิบายลำดับการกินอาหารเริ่มจาก : น้ำคลอโรฟิลล์ กล้วยน้ำว้าห่ามมีวิตามินสูง กินลงท้องจะลำเลียงลงไปสู่ไส้ทำให้ถ่ายง่ายเป็นฤทธิ์เย็น คุ้มครองเซลล์ก่อน กล้วยหอมฤทธิ์ร้อน ผลไม้อื่นๆ ผักสดกับยำผักจะกวาดอาหาร ตามด้วยข้าวกับแกงจืด จบด้วยถั่วต้มหรือโปรตีนซึ่งมีฤทธิ์ร้อน ถ้ากินโปรตีนเข้าไปก่อนร่างกายเราจะร้อน อาจจะกระหายน้ำดูคลิปคลิกที่นี่ http://youtu.be/nvqRVVOD0Ig

จิตอาสา6คน

เผยแพร่เมื่อ 25 ม.ค. 2015  https://youtu.be/qUEl77QeqNc
๑.พี่แหม่ม สุมทรสาคร อาชีพเดิม ข้าราชการครู สอนมากว่า ๓๐ ปี อายุ ๖๑ ปี
๒.พี่แหม่ม ใจพอเพียง รู้จักอาจารย์หมอเขียวตั้งแต่ปี ๒๕๕๒ รู้จักอาจารย์จากหนังสือย่านาง เล่มละ ๑๒ บาท การได้มาฟังธรรมะอาจารย์ทำให้ใจเราเปลี่ยน­ไป …
๓.นายแพทย์ชัยรัตน์ เจริญสุข (หมอหมี) เดิมทีไม่คิดว่าจะลึกซึ้งกับวิธีการนี้ เริ่มต้นจากการที่ไปเฝ้าภรรยาที่คลอดลูกแล­้วเปิดเจอในอินเตอร์เนต รู้สึกชอบสโลแกน ที่ว่ามาเป็นหมอดูแลตัวเองกันเถอะ ถ้าคนไข้ดูแลตัวเองไม่ได้ทั้งหมอและคนไข้จ­ะพากันกอดคอกันตาย รู้สึกประทับใจมาก ทำให้สะดุดในความคิดจนต้องพากับเพื่อนมาศึ­กษาวิธีการนี้จนผันตัวเองมาเป็นจิตอาสา…
๔.นายอิทธิชัย(พี่ตาล) ทำงานบริษัทมา ๑๗ ปี ลาออกมาเพื่อจะมาทำเกษตรตามเศรษฐกิจพอเพีย­ง เริ่มรู้จักอาจารย์จากสื่อต่าง ๆปี ๒๕๕๒ ก่อนจะมาเจอคุณหมอ มีอาการป่วยทางใจ จนมาเจออาจารย์หมอที่เป็นผู้ชี้แนวทางแสงส­ว่างให้กับชีวิต
5. คุณหนิง พยาบาลวิชาชีพโรงพยาบาลโพธาราม จังหวัดราชบุรี รู้จักคุณหมอเมื่อ ปี ๒๕๕๕ รู้จักอาจารย์หมอจากการแนะนำของคุณหมอวัชร­ะ มีอาการเจ็บป่วยเป็นเบาหวานมาเป็นเวลา ๑๐ ปี ได้ใช้หลักการแพทย์วิถีธรรมพยาบาลศัลยกรรมกระดูกเป็นเบาหวานที่ต้องพกอินซูลินไปตลอดเวลา
๖.พี่เจี๊ยบ รู้จักแพทย์วิถีธรรมครั้งแรกจากรายการ คน ค้น คน จากผู้ป่วย SLE ดูแลตนเองด้วยหลักแพทย์วิถีธรรมจนผันตัวเอ­งมาเป็นจิตอาสา พวกเขาเหล่านี้มีแนวความคิดอย่างไรลองไปฟั­งพวกเขาดู สามารถติดตามพวกเขาได้ที่ http://youtu.be/qUEl77QeqNc

พลิกผันชีวิตพิชิตโรคร้ายปลูกผักใช้เคมี


มดอเมริกา มะเร็งต่อมน้ำเหลือง
ชื่อยุวดี นโมชัยยากร ชื่อเล่นชื่อมด เป็นมะเร็งในต่อมน้ำเหลือง หมอโรงพยาบาลที่อเมริกาบอกว่ามีเวลาไม่เกิ­น 6 เดือน มีเหตุให้ต้องตัดกระเพาะอาหารและม้ามทั้งห­มดไม่มีเหลือ เป็นคนไม่มีทั้งม้ามและกระเพาะอาหาร เป็นไมเกรน เลือดจาง จนกระทั่งมาตรวจเจอว่าเป็นเนื้องอกที่มดลู­ก ตัดทั้งมดลูก ปีกมดลูกและรังไข่ หลังจากตัดมดลูกทำให้กลายเป็นคนกระดูกผุ หลังเข้าค่ายวันที่ 2 ที่ดื่มน้ำคลอโรฟิลล์ทำให้เธอต้องประหลาดใ­จ ว่าอาการที่ไม่สบาย ที่เคยเป็นไม่เป็น


วิเคราะห์โรค


วิเคราะห์โรคไทรอยเป็นพิษ ตาต้อ



 วิเคราะห์โรคมะเร็ง 2555


(1.17) สาเหตุหลักแห่งความเจ็บป่วยตามหลักแพทย์วิถีธรรมมี 4 สาเหตุหลัก
1.ร้อน-เย็นไม่สมดุล-อาหารเป็นพิษและไม่สมดุล การบูรณาการองค์ความรู้ยังไม่มีประสิทธิภาพมากพอ

2. ทำบาป

3.ไม่ทำบุญ

4. เพิ่มพูนความวิตกกังวล

วิเคราะห์ไขมันสูง





วินิจฉัยโรคจากพฤติกรรมร้อนเย็น 2556

สาเหตุ 9 ข้อที่ทำให้ป่วย  
1.อารมณ์ เช่นความเครียด ความเร่งรีบเร่งรัด ความกลัว ความไม่โปร่งไม่โล่ง ไม่สบายใจ ความไม่พอใจ ความมุ่งร้าย ความโลภ โกรธ หลง เอาแต่ใจตัวเอง ฟุ้งซ่าน ดีซ่านคือทำดีและอยากให้เกิดดีมากเกินจริงหรือเกินพอดี
  แก้ไข- ละบาป ทำบุญ ไม่กลัวตาย ไม่กลัวโรค ไม่เร่งผล ไม่กังวล -ใช้ยาเม็ดที่และ9
2. อาหาร ใช้ยาเม็ดที่ 1
3. ออกกำลังกาย ใช้ยาเม็ดที่6
4. สัมผัสมลพิษต่างๆ
5. สัมผัสเครื่องยนต์ เครื่องไฟฟ้า
6. ระบายพิษในร่างกาย ด้วยการปรับสมดุลที่สบาย
7. เพียรพัก-หลับนอนช่วงไฟกำเริบ 4 ทุ่มถึงตี 2
8. ทำบาป ไม่ทำบุญ - ไม่เพิ่มพูนใจให้ไร้กังวล
9. การบูรณาการองค์ความรู้ในการแก้ไขปัญหาสุขภาพ ไปสู่การแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ใช้สิ่งประหยัดเรียบง่าย ทำเองได้

(เดินทางมากตายเร็ว  แม่ครัวป้องกันตัวโดยใช้ผ้าชุบน้ำโพกหัว  พันท้อง คอมพิวเตอร์  มือถือเป็นพิษ)

วิเคราะห์โรควัยทอง

กินแคลเชื่ยมแคปซูลทำให้เป็นโรคตามมาหลายโรค  ให้กินน้ำคลอโรฟิล



กินข้าวโรยเกลือ ค่ายสวนป่านาบุญ วันที่ 21 กพ 56



โยคะกดจุดลมปราณ  






http://www.youtube.com/watch?v=nETdJZ5r2VA

แพทย์วิถีธรรม-10พ.ค.55




ตอบคำถามแพทย์วิถีธรรม-กาญจนบุรี 07 กันยายน 2555


การกินแคลเชี่ยม  การมีคู่  ประวัติหมอเขียว





การรับคีย์โม  เล่าโดยผู้ป่วย  การแช่มือแช่เท้าล้างพิษ
















ต้องหาจุดที่เราแข็งแรงที่สุดของชีวิต  ที่น้ำหนักเท่าไหร่  ที่แคล่วคล่องว่องไว  มีพลังทำงาน  ไปเอาค่า BMI เสร็จหมด  ชีวิตแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน  ค่าพวกนั้นดูคร่าวๆเท่านั้น  เผลอๆจะเป็นโรคถ้าไปยึดเอา



กินพริก 3-7 เม็ด/สัปดาห์ เฉลี่ย วันละ 1 เม็ดเป็นจุดที่ทำให้เจ็บป่วยน้อยที่สุด



วันที่อากศธรรมดาๆ ทำกับข้าวอย่าใช้ไฟแรง พอสุก อย่าอุ่นซ้ำแล้วซ้ำอีกที่บ้านเราอากาศร้อน กินแล้ว






สมดุลร้อนเย็นกับหมอเขียว ตอนที่1




การล้างสารพิษในผัก โดยใช้ถ่านหุงข้าวขนาดกำมือ 1 ก้อน ใส่น้ำ 1 กะละมังแช่ผักนาน 20-30 นาที



โทษของอาหารรสจัด





ใชัถ่านหุงต้ม 2 ก้อนวางข้างเครื่องคอมพิวเตอร์  เพื่อลดพิษ


ยา 9 เม็ด เทคนิค 9 ข้อ



https://youtu.be/dUVbu1rJD38

แพทย์วิถีธรรม ยา 9 เม็ด ตอน1และ2 เผยแพร่เมื่อ 26 มิ.ย. 2056








แพทย์ทางเลือกวิถีธรรม 

ธรรมชาติบำบัด ปรับสมดุล(ร้อน-เย็น) แบบสุขภาพดีวิถีพุทธ 
คือ การดูแลสุขภาพตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง
ตามหลักแพทย์ทางเลือกวิถีพุทธ (บุญนิยม)

เป็นการดูแลสุขภาพที่นำเอาจุดดีของวิทยาศาตร์สุขภาพ
แผบปัจจุบัน แผนไทย แผนทางเลือก และ แผนพื้นบ้าน
รวมถึงหลัก 8 อ.เพื่อสุขภาพที่ดีของสถาบันบุญนิยม
มาบริหารจัดการองค์ความรู้ ประยุกต์ผสมผสานบูรณาการ
ด้วยพุทธธรรมะ และ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง





รู้จักหมอเขียว ใจเพชร
ความใฝ่ฝันที่สวนทางกับความจริง

ตั้งใจไว้ว่าจะไม่ทำงานโรงพยาบาลเพราะรู้สึกกลัว
เชื้อโรคมาก ผมอยากเป็นทหาร มีค่านิยมว่า
เป็นทหารแล้วโก้อวดสาว ๆ ได้ ผมสอบได้ทหาร
อากาศตอนรายงานตัวผมไปไม่ ทันเลยอดเรียน
และมาสอบติดสาธารณสุขเลย ต้องทำงานรักษาคน
อาจเป็นเพราะ วัยเด็กเรา ซึมซับมาตลอดว่า
พ่อนอกจากเป็นครูแล้ว ยังเป็นหมอสมุนไพรด้วย
พ่อรักษาช่วยชีวิตผู้อื่น ให้เราเห็น อยู่เสมอ
เราเคยเห็น คนถูกงูกัดซึ่ง ทางโรงพยาบาลรักษา
ไม่หาย บางคนอาการปางตาย แต่มาหาพ่อ
แล้วหาย โดยพ่อใช้สมุนไพรรักษา
พอเรียนจบผมรับราชการที่โรงพยาบาลหว้านใหญ่
จังหวัดมุกดาหาร อยู่ฝ่ายส่งเสริมสุขภาพ ผมทำ
โครงการ เรื่องเด็กขาดสารอาหาร เรื่องยาเสพติด
บุหรี่ ทำกับ ชาวบ้านเป็นส่วนใหญ่ ทำไปทั้งที่ไม่มี
งบประมาณ แต่เห็นว่าโครงการนี้มีประโยชน์
ก็ตั้งใจมุมานะทำ ในปีแรกผมก็ได้รับคัดเลือก
เป็น ข้าราชการดีเด่น ของโรงพยาบาลเมื่อปี ๓๖
ทำไปสักพักเห็นคนเจ็บป่วยจากโรคมะเร็ง เบาหวาน
ความดัน หลาย โรคที่เรื้อรังรักษาไม่หาย หรือแม้แต่
ไม่ใช่โรคเรื้อรัง เช่น โรคกระเพาะอาหาร ก็รักษาไม่หาย
ผมเริ่มสนใจเรื่องเส้นเอ็น เรื่องแพทย์แผนไทย
โดยเริ่ม บุกเบิกโครงการแพทย์แผนไทยขึ้น
ในโรงพยาบาลหว้านใหญ่ เพราะเห็นว่าชาวบ้าน
น่าจะพึ่งตนเองได้ผมเชิญหมอพื้นบ้าน ไปเป็น
วิทยากร อบรม อ.ส.ม. สาธารณสุข เราก็ถือ
โอกาสเรียนด้วย ผมทำหลาย ๆ เรื่องในด้าน
แพทย์แผนไทย เริ่มจากเรื่องนวดและการใช้
ยาสมุนไพร ทำให้ได้พื้นฐานตรงนั้น
จึงเริ่มเห็นทางออกของสุขภาพ
ต่อมาคุณหมอเพ็ญนภา ทรัพย์เจริญ ได้เข้ามา
ส่งเสริมให้ทำโครงการนี้ ต่อเนื่อง จนมีโรงอบ
สมุนไพรที่โรงพยาบาลผมส่งน้องในฝ่ายฯมา
อบรมเป็นครูฝึกแพทย์แผนไทย แล้วกลับไป
ทำงาน รวมทั้งส่งจ้าหน้าที่ที่เป็นคนงาน
มา ฝึกนวดฝ่าเท้า เพื่อกลับไปบริการชุมชน
ตรงนี้เป็นการเริ่มต้นของงานต่าง ๆ


 พบต้นเหตุของโรค

จากจุดที่ทำเรื่องบุหรี่ ผมมีโอกาสมาดูงาน
ที่โรงพยาบาล มิชชั่น คอร์สเลิกบุหรี่ ๕ วัน
ได้แนวคิดกลับไปประยุกต์ใช้ ได้ผลดีเพิ่มขึ้น
ช่วยให้คนเลิกสูบบุหรี่ ทำให้สุขภาพดีขึ้น
ทำให้มีโอกาสเสนอ ผลงาน ให้จังหวัดอื่นรับรู้
ผมจึงได้ รับเชิญไปเป็นวิทยากรตามที่ต่าง ๆ
ทำไปเรื่อย ๆ ก็เจอความเครียด จากคนที่เคย
เข้าคอร์ส เลิกสูบบุหรี่ได้แล้วก็หันกลับไป
สูบอีก ส่วนใหญ่เขาบอกว่า เพราะความ
เครียด ต้องใช้บุหรี่คลายเครียด
ต่อมาผมก็เริ่มค้นหาสาเหตุว่าความเครียดเกิดจากอะไร
ค้นไป ค้นมาพบว่า ความเครียดเกิดจาก กิเลสนี่เอง
ก็ตรวจตัวเองว่า มีไหม เพราะเราก็เครียดเหมือนกัน
ผมเริ่มเห็นความจริงว่า กิเลสทำให้เครียด ทำให้ทุกข์
 *** ค้นพบสัจธรรมชีวิต

เริ่มสนใจอ่านหนังสือธรรมะ อ่านหมดทั้งของท่าน
พุทธทาส หลวงปู่เทสก์ อาจารย์ชา และธรรมะ ของ
ชาวอโศก เข้าใจเหตุของความเครียดว่ามาจากตัวโกรธ
ตัวโลภ ตัวหลงโลกธรรม อยากให้เขา คิดเหมือนเรา
อยากรวย อยากได้โน่นได้นี่ หลงดี ยึดดี อยากให้คน
อื่นได้ดีไม่อยาก ให้เขามาว่าเรา อยากให้คนเคารพ
สรรเสริญ อยากได้ ๒ ขั้นแม้ได้ ๒ ขั้น มาก็ทุกข์เพราะ
ต้องแก่งแย่งกันตอนได้มา ก็สุขนิดหน่อย แล้วก็ทุกข์
อีกเพราะอยากอวด เมื่อเริ่มเข้าใจธรรมะก็รู้สึกถึง
ความเครียดที่ลดลง เริ่มมีความสุขมากขึ้น
ปี ๒๕๔๐ คุณสัญชัย ตุลาบดี ข้าราชการสาธารณสุข
จังหวัดมุกดาหาร เห็นว่าผมทำโครงการแก้ปัญหา
ความยากจน เด็กขาดสารอาหาร เรื่องการมีอยู่มีกิน
ยาเสพติด ท่านก็สนับสนุนงบให้ และ ชวนไปงาน
อบรมธรรมที่ศีรษะอโศก จังหวัดศรีสะเกษ
บอกว่าที่นั่นมีโครงการ อบรมจริยธรรม มีกสิกรรม
ไร้สารพิษ ซึ่งผมชอบอยู่แล้วและกำลังหาความรู้
เพิ่มเติม
ก่อนหน้านั้น ผมเคยไปดูงานของพ่อผาย พ่อคำเดื่อง
พ่อสุทธินันท์ ที่บุรีรัมย์ ซึ่งเขาก็นำศาสนา เข้ามาแก้
ปัญหา พาลดละอบายมุขเหมือนกัน ก็เริ่มชัดขึ้น เรา
ก็เคยพาชาวบ้านทำ เคยคิดว่า เราเป็นนักพัฒนาที่เก่ง
เราแน่ พาคนให้มีกินมีอยู่ พาให้เด็กไม่ขาดสารอาหาร
พาคนเลิกอบายมุข เหล้า บุหรี่ มีสุขภาพแข็งแรง ซึ่ง
ความจริงเมื่อเขาเลิกแล้วก็น่าจะจบปัญหาเสียที
แต่มันไม่ใช่อย่างนั้น พอเขามีฐานะดีขึ้น เขาก็ลืมตัว
หันกลับไปหาเหล้าบุหรี่ การพนัน หวย การเที่ยวเตร่
ต่าง ๆ เราเคยคิดว่า การมีรายได้จะแก้ปัญหาได้ทุก
เรื่อง แต่แล้วก็รู้ว่าความจริงมันยังไม่ใช่
 *** ศีรษะอโศกผ่าทางตัน

เมื่อไปถึงศีรษะอโศก ได้พบในสิ่งที่ไม่เคยพบ
คนเป็นพัน ๆ แต่ไม่มีใครกินเหล้า สูบบุหรี่ ไม่มี
ใครด่าว่ากัน ทำไมคนที่นี่ เขาสงบ ใส่ชุดม่อห้อม*
กันแทบทุกคน ผู้หญิงนุ่งผ้าถุง หลายคนมีการศึกษา
สูง เป็นหมอบ้าง เป็นครูบ้าง เป็นพยาบาลบ้าง
แต่งตัวเป็นชาวบ้าน เหมือนกัน หมดเลย ต่างก็
ไม่ ถือเนื้อถือตัว ผมรู้สึกประหลาด ใจมาก
พวกเขามีวิชาอะไรก็ถ่ายทอดให้หมด
ไม่ว่าจะเป็นวิชาเพาะเห็ด ทำจุลินทรีย์ ทำปุ๋ย
ทำกสิกรรม ไร้สารพิษเขาถ่ายทอดอย่าง
ไม่ปิดบังเลย ไปจุดไหน เขาก็ต้อนรับอย่างดี
เราทึ่งมาก ถ้าคิดเป็นค่าวิชา แต่ละวิชา
คงแพงมาก แต่พวกเขาเสียสละ ให้โดยไม่รับ
ค่าตอบแทนใด ๆ ที่นี่ได้เห็นคนมีน้ำใจ มีศีล ลดละ
อบายมุข เราได้พบทางออกว่า สังคมอย่างนี้มัน
ใช่เลยเป็นสังคม ที่เราค้นหาที่เรากำลังตัน ๆ อยู่
ต้องอย่างนี้แหละจึงจะแก้ปัญหาได้

 มังสวิรัติ ธรรมาวุธหมายเลข ๑

ก่อนหน้านี้เคยลองทำบ้าง ผมศึกษาอยู่ ๒ ประเด็น เรื่องสุขภาพกับ
เรื่องศีลธรรม เพราะในช่วงแรกที่ผมนำความรู้ที่เรียนจบมาดูแล
ประชาชนที่เจ็บ ป่วยในโรงพยาบาล ความเจ็บป่วยก็ไม่ได้ลดลง
อัตราการเจ็บป่วย ยังเพิ่มมากขึ้น ๆ หลายโรค ก็รักษาไม่หาย
หลายคนหายแล้วแต่ยังทำพฤติกรรมเหมือนเดิม ก็กลับมาเป็น
โรคเก่าอีก เวียนไปเวียนมาทำให้สงสัยว่า ที่เรา เรียนมานั้นมัน
ครบ สมบูรณ์หรือเปล่า มันช่วยคนได้จริงหรือ มีอย่างอื่นอีกไหม
ผมจึงไป เรียน แพทย์แผนไทย และแพทย์ทางเลือก โดยซีกหนึ่ง
ของแพทย์ทางเลือก คือ การกิน อาหารแมคโครไบโอติก
และมังสวิรัติซึ่ง ได้จากโรงพยาบาลมิชชั่น และจากข้อมูลหนังสือ
อาหารมังสวิรัติ เล่มหนึ่ง มีการวิจัยว่าคนกินอาหาร มังสวิรัติ
จะมีอาย ุยืนกว่าคนกินเนื้อสัตว์ การศึกษาอาหารแมคโครไบโอติก
เขาไม่ กินเนื้อสัตว์ และใช้หลักการ หยินหยางรักษาคน ปรากฏว่า 
คนที่ได้รับ การรักษา ก็ดีขึ้นตามลำดับ ผมจึงนำวิธีนี้มาทดลองใช้
กับคนไข้ และกินเอง ด้วยการศึกษาหลักธรรมชาติบำบัด
ทำให้รู้ว่าเนื้อสัตว์เป็นอันตรายต่อสุขภาพ

อีกส่วนหนึ่งก็คือ มีผู้ส่งหนังสือสารอโศกฉบับ "ไฟบรรลัยกัลป์"
มาให้ผม กระดาษที่ห่อหนังสือ มีข้อความ ที่ทำให้ผมสะดุดใจ
อย่างมาก ว่า "คุณมีความเมตตากับผู้คน กับสัตว์เพื่อนร่วมโลก
แต่ปากคุณ ยังเคี้ยวกลืนชีวิตของผู้อื่นอยู่ คุณมีเมตตาจริงหรือเปล่า"
เราก็สะดุ้ง เราคิดว่าเรามี เมตตา แต่ยังกินหมู กินเป็ดไก่ กินวัวควาย
ซึ่งผมก็ยัง ซื้อเนื้อวัวมา กินเกือบ ทุกอาทิตย์ เพราะเป็นทั้ง นักดนตรี
นักกีฬาเล่นไปด้วย กินเหล้าไปด้วย ตามประสาคนหนุ่ม


*** ใคร ๆ ก็ว่าผมเปลี่ยนไปเป็นคนบ้า

ผมกินอาหารมังสวิรัติตั้งแต่นั้น โดยไม่มีความคลางแคลงสงสัย
เป็นเส้นทาง ที่เราค้นหา เคยฟังเพลงที่เขาสอนให้รักสัตว์ พูดถึง
สัตว์มีความรักผูกพันต่อกัน แต่คนไปจับพรากมาทำร้าย แล้วนำ
มากิน สัตว์ก็เสียใจ เขาก็บอกพอซะ ทีเถอะนะ เราก็ว่าใช่ ๆ ๆ
ตามมาด้วยความเปลี่ยนแปลงจากหน้ามือ เป็นหลังมือ ที่เคยเด่น
เป็นทั้งนักกีฬาเซปักตะกร้อ นักดนตรี เด่นของโรงพยาบาลกิน
เหล้าก็เด่น บุหรี่ไม่เคยสูบ กินเหล้าแล้วสนุกมันครึ้มใจ กินแล้ว
หน้าด้านดี ร้องรำทำเพลง มีความสุข ตอนนั้นไม่คิดว่ารบกวน
เพื่อนฝูง ยังคิดว่า ทีมพยาบาลทั้งหมดน่าจะ มาสนุก มาตีกลอง
ร้องเพลง กับเรา เราไม่เข้าใจ เราไม่รู้ พอกลับจากงานอบรมธรรม
คราวนั้นเราจึงเข้าใจ

ผมเปลี่ยนตัวเองอย่างรวดเร็ว เรียกว่าชาวอโศกพาฝึกอะไร
ผมฝึกหมด รองเท้าไม่ใส่ ใส่ชุดม่อฮ่อม ตัดผมสั้น กินมื้อเดียว
เพื่อน ๆ มองว่าผมเป็นบ้าแล้ว บอกชาวบ้านอย่าเข้ามาใกล้ และ
พยายามให้ผมทำเหมือนเดิม ในช่วงแรกผมก็ยังเล่นดนตรีกับ
เพื่อนอยู่ แต่ไม่กินเหล้าแล้ว เล่นไม่นานก็เบื่อ เพราะเมื่อไม่มีอะไร
ย้อมใจ ก็พบความจริง รู้สึกปวดเอว ปวดหลัง ไม่กินเหล้าเล่น
ดนตรีก็ไม่อร่อย
ใครว่าบ้า แต่เรามีความสุข ยิ้มเหมือนติดกัญชา เพราะรู้ว่าเรามี
ทางรอดให้้ชีวิต รู้วิธีช่วยคน และ สังคม จากความเครียดซึ่งแต่
ก่อนผมก็เครียด เพราะ เป็นคนจริงจัง เห็นใครทำไม่ดี ไม่ถูกต้อง
จะจัดการทันที เป็นสาย ยึดดีปากร้าย พูดตรง ๆ ไม่กลัวใคร จึงมี
ทั้งคนชอบและไม่ชอบ คนที่รักคุณธรรม ก็จะชอบเรา คนที่มีผล
ประโยชน์ก็จะไม่ชอบ สิ่งสำคัญ นอกจากการเปลี่ยนแปลงหลาย
อย่างในตัวผม คือ ผมทำงานได้ดีกว่าเดิม เพราะไม่ไป เสียเวลา
หลงเที่ยวเตร่ทำเรื่อง ไร้สาระ ทำให้สมองปลอดโปร่ง
ทำงานได้มาก เพราะได้เวลาที่เคย สูญเสียกลับคืนมา

ปัญญาเกิดส่องให้เห็นแสงสว่าง

ชอบเรื่องไสยศาสตร์ เล่นอยู่ยงคงกระพัน มีว่าน พ่อพาเล่นเคย
ลองให้เพื่อนพยาบาลฉีดยาให้ แต่ฉีดไม่เข้า ภูมิใจในของดีที่
เรามีแทงไม่เข้า วันหนึ่งฟังพ่อท่านสมณะโพธิรักษ์เทศน์ว่า
ทุกอย่าง มีมา แต่เหตุซึ่งเราเป็นคนมีเหตุมีผลมาก ศาสนาพุทธ
เป็นหลักวิทยาศาสตร์ พิสูจน์ได้ทำสิ่งใด ได้ผลอย่างนั้น ชัดเจน
เพียงแต่จะเห็นผลช้าหรือเร็ว พูดถึงภูมิโสดาบันยิ่งกว่าสวรรคาลัย
ยิ่งกว่าอธิปไตยในหล้า ยิ่งกว่าเอกราชทั่วทั้งแผ่นดิน อะไรจะมี
ความสุขขนาดนั้น การปฏิบัติธรรมทำให้เกิดความคิดในเรื่องการงาน

อยากออกมาอยู่ทำงานกับชาวอโศก เริ่มมีความคิด งานที่ทำอยู่ไม่มี
สาระ ปล่อยให้คนป่วยแทบตายแล้วมาให้เราแก้ปัญหาตรงปลายเหตุ
ก็ไม่จบสักที ไม่ว่าจะเป็นความล้มเหลวของสาขาไหนสุดท้ายก็จะมา
ลงที่สุขภาพหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ พอเครียดก็ป่วย กิน
อาหารที่มีพิษเป็นบาป เพราะเบียดเบียนสัตว์ ทำให้เกิดโรคกสิกรรม
ที่ใช้สารเคมี คนกินก็ป่วยอีกแล้วก็หาหมอ หมอก็จะพากันตาย
เพราะงานหนัก และ ปัญหาก็ยังไม่ได้แก้ ผมเริ่มแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ
เอาธรรมะลงไปให้ชาวบ้าน เช่น แนะนำคนไข้ กินมังสวิรัติ พา
ปฏิบัติธรรม ถือศีล ๕ ละอบายมุข พยายามรณรงค์แต่ไม่
ประสบ ความสำเร็จเท่าไร ชาวบ้านไม่เข้าใจ รับไม่ได้ แม้แต
เพื่อนผมเอง ก็ยังไม่รับ มีไม่กี่คน ที่รับได้ ก็มากินมังสวิรัติด้วยกัน
เมื่อมีแนวคิดแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ รู้ว่าต้องทำอะไร ก็มีอุปสรรค
เนื่องจากโรงพยาบาล เป็นองค์กรใหญ่ ทำอะไรได้ไม่มาก พอดีมี
จังหวะ ย้ายผม ทำงานโรงพยาบาล ๕ ปี ก็ย้ายไปอยู่สถานีอนามัย
คิดจะทำ โครงการช่วย ชาวบ้านตามที่มีองค์ความรู้ ซึ่งได้จากชาว
อโศก การดูแลสุขภาพ แบบองค์รวม เอาครบเลย ตั้งแต่วิถีชีวิต
วัฒนธรรมมีความเกื้อกูล ลงแขกช่วยเหลือกัน กินอาหารปลอดภัย
จากสารเคมี ทำทุกเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพที่ดีกิดผลทำให้มีคนสนใจ
มาดูงานมากมายเป็นจุดเด่น ของสถานีอนามัย ที่มี แพทย์แผนไทย
แพทย์ทางเลือกและสะสมภูมิปัญญาในหลายๆ ด้านเข้ามา
 *** ประสบการณ์การแพทย์แผนไทย

เมื่อเจอทางตันจากการแพทย์แผนปัจจุบัน และพบว่าหลาย ๆ โรค
แพทย์์แผนไทย แพทย์ทางเลือก สามารถแก้ปัญหาได้รวดเร็ว เช่น
เบาหวานมะเร็ง ความดันโลหิตสูง หวัด ปวดท้อง ปวดข้อ ปวดเข่า
ที่ชาวบ้านทั่วไปเป็นกันอยู่เราพบว่ามีวัตถุดิบในพื้นที่ที่สามารถ
นำ มาใช้ได้ทดลองใช้จริง ๆ ปรากฏว่า มีประสิทธิภาพสูง บางโรค
หายขาด ยิ่งทำไปก็ยิ่งชัด การแพทย์แผนปัจจุบัน ช่วยประมาณ
๒๐ เปอร์เซ็นต์ ๘๐ เปอร์เซ็นต์ ์สามารถใช้แผนไทย หรือ แพทย์
ทางเลือกมาช่วยได้ เต็ม ๆ ทำให้ชาวบ้านพึ่งตัวเองได้ มีส่วนน้อย
ที่ต้องใช้เทคนิคพิเศษ เช่น หาหมอเพื่อผ่าตัด เลือดออกในสมอง
เลือดคั่ง ในสมอง ติดเชื้อเฉียบพลัน นอกนั้นโรคอื่น ๆ แพทย์แผนไทย
ใช้สมุนไพร ใช้อาหารปรับธาตุ ใช้การนวด กดจุด ปรับกระดูกต่าง ๆ
คนไข้หายขาดส่วนใหญ่ รู้สึก จะเกิดปฏิกิริยาไวกว่ามื่อเปรียบเทียบ
กับที่ผมเคยตรวจรักษา คนไข้้และจ่ายยา ซึ่งเรารู้ว่าอีก ๒ - ๓ วัน
ก็หาย แต่ไม่นานพวกเขาก็กลับมาอีกในอาการเดิม ๆ เห็นหน้าคนไข้
ก็รู้ จำได้คนนี้ เป็นโรค กระเพาะ คนนี้ ปวดข้อ คนนี้ปวดหัวประจำ
แต่ในการรักษาแบบแพทย์แผนไทย ผมเคยเจอ ผู้ป่วย ที่กระดูก
ทับเส้นประสาท หมอนัดผ่าตัดแล้ว แต่เขาก็หายโดยไม่ต้องผ่าตัด
อีกรายกำลังเป็นหวัด เราเข้าครัว บีบมะนาวใส่แก้ว โขลกกระเทียมหัวหอม
ใส่ให้เขากิน ก็หายจากอาการหวัด หลายสิ่งที่เราพึ่งตนเอง ได้ด้วยวิธีง่าย ๆ
แต่เพราะเราไม่ได้ศึกษาเรื่องการพึ่งตนเอง


       ๑.ปริญญาตรีวิทยาศาสตร์สุขภาพ สาธารณสุขศาสตร์ มสธ.
       ๒.ปริญญาตรีวิทยาศาสตร์สุขภาพ บริหารสาธารณสุข มสธ.
       ๓.สำเร็จการศึกษาวิชาวิทยาศาสตร์การแพทย์แผนไทย,แนวคิดและทฤษฏีการแพทย์แผนไทย,เวชกรรมแผนไทย,เภสัชพฤกษศาสตร์,ธรรมานามัย และสังคมวิทยาการแพทย์ มสธ.
       ๔.ศึกษาและอบรมด้านการแพทย์ทางเลือกจากประเทศมาเลเซียและจีนไต้หวัน
       ๕.ปริญญาโท สาขาพัฒนาบูรณาการศาสตร์(เศรษฐกิจพอเพียง)มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ทำการศึกษาวิจัยเรื่องความเจ็บป่วยกับการดูแลสุขภาพพึ่งตนตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ตามหลักแพทย์ทางเลือกวิถีพุทธของศูนย์เรียนรู้สุขภาพพึ่งตนตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง สวนป่านาบุญ อำเภอดอนตาล จังหวัดมุกดาหาร
       ๖.ปริญญาเอก วิทยาศาสตรดุษฏีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาสาธารณสุขชุมชน ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๕๕ (วันที่ ๒๒ มีนาคม ๒๕๕๕) จากมหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ













*******************************************************************









////////////////////////////////

กินอยู่อย่างไรให้อายุยืน1

https://youtu.be/iLlnShpVG2U

กินอยู่อย่างไรให้อายุยืน2

https://youtu.be/bq_niDPbwwQ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น