วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

ระวังพลาสติกห่อหุ้มอาหาร หรือแรป





ระวังพลาสติกห่อหุ้มอาหาร  หรือแรป

สำนักคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ระบุว่า หากนำไปห่อหุ้มอาหารที่มีสภาพความเป็นกรดสูง หรือมีไขมันเป็นส่วนประกอบมาก จะทำให้สารพิษจากพลาสติกออกมาปนเปื้อนอาหารได้ เพราะพาทาเลตไม่ได้ยึดติดกับโพลิเมอร์ของพลาสติก แต่แทรกอยู่ระหว่างโมเลกุลพลาสติก จึงอาจหลุดออกมาได้ ดังนั้น ไม่ควรนำไปห่อหุ้มอาหารที่ไขมันสูง เช่น เนย เนื้อสัตว์ติดมัน อาหารทอด รวมทั้งเค้กที่มีหน้าครีมหรือช็อกโกแลต แต่ถ้าจำเป็นต้องใช้จริง ๆ ควรบรรจุอาหารให้ต่ำกว่าปากภาชนะประมาณ 1 นิ้ว เพื่อไม่ให้พลาสติกสัมผัสอาหารโดยตรง หรือเลือกใช้พลาสติกที่ระบุว่าไม่มีสารพาทาเลต

          นอกจากนี้ยังต้องระวังการใช้พลาสติกห่อหุ้มอาหารที่มีความร้อนสูง อาหารที่มีไอน้ำ ไอน้ำมัน เพราะความร้อนอาจทำให้พลาสติกละลาย เกิดสารปนเปื้อนอาหารได้ จึงควรหลีกเลี่ยง และที่สำคัญ ไม่ควรห่ออาหารด้วยพลาสติกห่อหุ้มอาหาร แล้วนำเข้าไปอุ่นในไมโครเวฟ หรืออุ่นอาหารที่ห่อด้วยพลาสติกใด ๆ ไม่ว่าจะเป็นถุงพลาสติก ฟิล์มห่ออาหาร เพราะสารเคมีอาจมีโอกาสหลุดออกมาปนเปื้อนอาหารได้ อย่างไรก็ตาม หากบนฉลากพลาสติกระบุว่า เป็นพลาสติกที่ใช้กับไมโครเวฟ ก็สามารถนำเข้าไมโครเวฟได้ แตต้องระวังไม่ให้พลาสติกสัมผัสกับอาหารโดยตรง

          ใครที่มักใช้ภาชนะพลาสติกในการเก็บอาหาร ควรหันมาเก็บอาหารในภาชนะที่เป็นแก้วจะดีกว่า ยอมสละความสะดวกสบายเพียงเล็กน้อย เพื่อป้องกันโรคภัยอันตราย และเพื่อสุขภาพที่ดีของเรา
https://health.kapook.com/view63448.html

วันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

เงิน:วิธีใช้




คำสอนของหลวงปู่เชียรเกี่ยวกับการใช้เงิน

ให้แบ่งเงิน100ที่ได้มาเป็น ๔ ส่วนเท่าๆกัน
25บาท ทิ้งน้ำคือใช้ในชีวิต หมดไป
25บาท ทำทาน
25บาท ให้ลูกและญาติ
25บาท ฝังดินคือออม

“เงินเหมือนงูพิษ ต้องแบ่งเป็น4ส่วน จากเงิน100บาท
25บาท  ฝังดิน ให้พระพุทธศาสนา เป็นเสบียง ทำบุญทำทานคือเสียสละ ไม่หวังผลตอบแทน ถ้าหวังรวย ทานที่ให้จบเลย ไม่มีผล
25บาท ทดแทนบุญคุณผู้มีคุณนับจากพ่อแม่เป็นต้นไป ให้ลูกและญาติ
25บาท ออมไว้เพื่อชีวิตต่อไป ไว้ทำทุน
25บาท ทิ้งน้ำคือใช้ในชีวิต หมดไปเงินเข้าบ้านกอดไว้ไม่ให้มีแต่เรื่อง ผัวฆ่าเมีย เมียฆ่าผัว
6มิ.ย61+7/ส.14ก.ย56
************************************************



เมื่อได้เงินมา มีวิธีใช้ยังไง
1.จ่ายให้ตัวเองก่อน คือเก็บก่อนใช้เงิน เป็นการออม10%ของเงินที่ได้ 2.ลองหาดูว่ารายจ่ายอะไรที่ไม่จำเป็น เราจะพบว่าในแต่ละเดือน เงินส่วนนี้เป็นเงินก้อนใหญ่พอสมควร เอาไปเก็บด้วย
3.ทำข้อ1,2 ให้่เป็นอัตโนมัติ ไม่มีคำว่าพรุ่งนี้ก่อน ไม่งั้นจะมีเหตุเอาเงินไปใช้หมด

หมอวีระพันธ์.จ่ายให้ตัวเองก่อนเสมอ



14:51เมื่อได้เงินมา เก็บเงินไว้ให้มากที่สุด
ใช้เมื่อยามจำเป็น มิฉะนั้น ท่านจะไม่มีอะไรใช้เลย
https://youtu.be/gWMBvhAACpQ

**********************

0:37พื้นฐานคือจะต้องเก็บเงินเสมอ ไม่ว่าวัยใด เพราะโอกาสจะมาเสมอ มาได้เรื่อยๆ และมาทุกเมื่อ เราจะไม่รู้หรอกว่าโอกาสนั้นจะดีหรือไม่ดี แต่ถ้าเราไม่มีเงินไปลงทุนกับมัน เราจะไม่รู้เลยว่า โอกาสนั้นดีหรือเปล่า
แม้จะไม่ได้กำไรกับการลงทุน เราได้เรียนรู้ ได้เพื่อน
อ๋อ!มันเป็นอย่างนั้น...
ถ้าคุณไม่มีเงินเลย คุณเริ่มไม่ได้
วางแผนชีวิตแบบฟลุ๊ค. https://youtu.be/h0MuIDvTzWE


*********************************
เงินเดือน35,000

ต้องจ่าย20%=7,000
ออม,ทำทุน10%=3,500
ตามใจตัวเอง10%=3,500
ใช้ในชีวิตประจำวัน40-60%=14,000-21,000

KTB ออม,ทำทุน10%=3,500+ตามใจตัวเอง10%=3,500;=7,000

ใช้ในชีวิตประจำวัน60%=21,000+ต้องจ่าย20%=7,000=28,000
ปลาทู9,000+ตลาด8,000
เพียวริน่า6,600+ป้ามัย600
น้ำตาล500+ไฟ2,000
รวมต้องจ่าย26,700+1,300=28,000



ฟลุ๊ต.https://youtu.be/rlctkBuJa1s


************************************************


พร้อมเพย์คืออะไร

https://youtu.be/V4YgURxX07U

************************************************

การใช้เงินของธนาคาร SCB https://youtu.be/_bnLFvAne94
เรื่องสั้นขำๆ“คุณนายออม“

************************************************


อาจารย์เฉลิชัยมีหลักในการจัดสรรเงินภายในครอบครัวอย่างไร

สิ่งที่สำคัญที่สุดคืออย่าเป็นหนี้ หาได้เท่าไรก็ใช้แบบพอเพียง 
รู้จักแบ่งสันปันส่วน จะต้องมีเงินเหลือติดกระเป๋าทุกครั้ง อย่าใช้จนหมดตูด 
เวลายากจนเนี่ย หาเงินไม่ได้จริงๆ ก็อด ไม่กิน บางครั้ง ก็กินข้าวกับน้ำปลา 
พอมีเงินต้องมีเก็บและต้องไม่เป็นหนี้ 

เมื่อก่อน ประกวดผลงานได้เงินรางวัลมาหมื่นห้า แทนที่จะเอามาเลี้ยงกัน นี่ไม่เอา ไม่เลี้ยงใคร เลี้ยงเพื่อนสนิทจริงๆ สองสามคน 
อย่างเก่ง เลี้ยงข้าวสองสามร้อยบาท 
ประเภทเลี้ยงเหล้าเมาหัวราน้ำหมดไปห้าพัน อย่าฝัน ไม่ทำ 
เพราะวันข้างหน้าไม่รู้ว่าจะมีหรือเปล่า 

ตอนยากจน โคตรระวังในการใช้เงิน จะใช้เงินแบบวันข้างหน้าอาจจะอด 
พอรวยแล้วก็ยังเป็นอย่างนั้น จนกระทั่งรู้ว่าวันข้างหน้าไม่อดแล้ว 
ไม่จำเป็นต้องระวังแล้ว ก็สุรุ่ยสุร่ายขึ้นมาบ้าง แต่ก็ยังเก็บเงิน 
ต่อให้เที่ยวสำส่อนขนาดไหนก็มีเงินเก็บ 

ถ้าเราตาย เมียจะดูแลทุกอย่างหมด 
ไม่เคยเก็บเงินใช้ส่วนตัวแม้แต่บาทเดียว 
มีชีวิตที่เรียบง่ายที่สุด กินข้าววัด กินพร้อมลูกศิษย์ 
มันเคาะระฆังก็ไปกินกับมัน 

ไม่ใช้เงิน 
ดูแลครอบครัวก่อน 
จากนั้นทำบุญสร้างวัดหมดเลย

http://www.baanmaha.com/community/threads/42650-“ชีวิตนี้มีแต่สุข”-เฉลิมชัย-โฆษิตพิพัฒน์-quot

*********************************************



*************************************************

 เฉลียว สุวรรณกิตติ: สูตรลับเศรษฐี 

คนที่จะเป็นเศรษฐีได้จะมี 12 คุณสมบัติโดดเด่นกว่าคนทั่วไปคือ
1.เป็นคนเก่งรอบตัว  
จะต้องครบเครื่องทั้ง เก่งตน (คิดเก่ง พูดเก่ง เขียนเก่ง ฟังเก่ง และจดจำดี) คือเป็นคนหนักเอา เบาสู้ มีความมุ่งมั่นตั้งใจในการทำงาน เก่งคน (คนที่ห้อมล้อมตัวได้แก่ คนชั้นบน คนระดับเดียวกัน คนระดับล่าง) หมายถึง 3 ระดับคือ  คนที่เป็นเจ้านาย  เพื่อน และลูกน้อง ทำอย่างไรที่จะให้เพื่อนสนับสนุน ลูกน้องรัก หรือเจ้านายก็สนับสนุนได้และเก่งงาน (เรียนรู้งานได้เร็ว มองงานในมุมกว้าง ทำงานเป็น และทำด้วยใจรัก)คือความตั้งใจมุ่งมั่นในการทำงาน

 2.เป็นผู้รู้จักใช้โอกาสของชีวิตได้อย่างเต็มที่ 
สามารถนำเอาโอกาสเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิต ไปพัฒนาต่อยอดได้ ทั้งยังสามารถสร้างโอกาสให้กับตัวเองได้ ไม่ใช่เพียงแค่รอหามันเท่านั้น  ต้องสร้างสัญชาตญาณให้สามารถจับโอกาส แล้วนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ ยิ่งกว่านั้นต้องรู้จักสร้างโอกาสให้เป็นนิสัย แม้ในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งวันหนึ่งจะกลายเป็นเรื่องใหญ่

3.มีวิสัยทัศน์และลางสังหรณ์ 
ผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ที่ดีคือ ผู้ที่สามารถมองเห็นการณ์ไกล คาดคะเนเหตุการณ์ในอนาคตได้อย่างแม่นยำ ตรงนี้เรียกว่า ลางสังหรณ์  
ดูอย่าง “ลีกา ชิง” อภิมหาเศรษฐีจีนฮ่องกงนั่นปะไร ยุคที่คนฮ่องกงกำลังแตกตื่นเพราะอังกฤษจะคืนสิทธิการเช่าให้จีน มีผลทำให้ราคาที่ดินและที่อยู่อาศัยตกระเนระนาด เขากลับกว้านซื้อสินทรัพย์ที่เคลื่อนที่ไม่ได้เอาไว้อย่างเย็นใจ ไม่นานลีกา ชิง เปลี่ยนจากเศรษฐีธรรมดากลายเป็นอภิมหาเศรษฐีระดับโลก
ปัญหาคือ เราจะสร้างวิสัยทัศน์ทำเงินอย่างลีกา ชิง ได้อย่างไร
“ต้องหัดฝึกฝนรวบรวมข้อมูลปัจจุบัน วิเคราะห์ให้เกิดเป็นภาพในอนาคต จนเกิดเป็นนิสัยกลายเป็นคนมีวิสัยทัศน์ที่ดี ไม่มีวิธีอื่น ต้องอาศัยเวลาและความอดทนฝึกฝน” เฉลียวแนะวิธีสะสมวิสัยทัศน์แบบหยอดกระปุก

4. มีนิสัยเรียนรู้และชอบศึกษาโดยไม่จำกัด 
ปริญญาไม่ได้เป็นหลักประกันว่าต้องประสบความสำเร็จในชีวิต แต่การใฝ่รู้อย่างไม่หยุดยั้งตะหากที่เป็นใบรับประกันความสำเร็จตลอดชีพ
เฉลียวชี้ว่า การเรียนรู้ไม่จำเป็นต้องอยู่ในระบบ เศรษฐีหลายคนที่ติดอันดับโลก ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ใช้เวลาอ่านหนังสือไม่น้อยกว่า 2 ชั่วโมงต่อวัน ยิ่งในยุคสมัยของอินเทอร์เน็ตด้วยแล้ว อินเทอร์เน็ตถือเป็นคลังความรู้ สำหรับคนซึ่งต้องการความก้าวหน้าในชีวิตจะละเลยไม่ได้

5.มีลักษณะผู้นำ 
หาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดบอกว่า ผู้นำทางธุรกิจยุคนี้ต้องมี 3 คุณสมบัติสำคัญคือ 1.มีความสามารถในด้าน Creativity มีความคิดสร้างสรรค์ แปลงนามธรรมให้เป็นรูปธรรมได้ 2.มีความสามารถในการกำหนด Strategy ค้นหาคำตอบต่อคำถามที่ว่าอย่างไร เพื่อดำเนินการสู่เป้าหมาย 3.สามารถสร้างให้เกิดสภาวะ Connectivity เชื่อมโยงจุดต่างๆ เพื่อให้สัญญาณเดินครบวงจรจึงจะเกิดผล

6.มีศิลปะและรู้จักใช้เทคนิคของทฤษฎีหน้าหนาใจดำ 
บางคนมองว่าเป็นคุณสมบัติที่ชั่วร้าย จนเศรษฐีและผู้นำหลายคนไม่กล้ายอมรับก็คือ ทฤษฎีหน้าหนาใจดำ คือ คนที่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ ไม่ให้ปรากฏทางสีหน้า มีจิตใจเข้มแข็ง กล้าตัดสินใจแม้ในเรื่องที่ฝืนความรู้สึก แต่ต้องกำกับพฤติกรรมด้วยคุณธรรม ถ้ามัวยึดแต่ประโยชน์ส่วนตน จะเจริญอย่างไม่ยั่งยืน  
หน้าหนา-ใจดำ ไม่ใช่เรื่องสอนให้ไม่มีคุณธรรม หรือเป็นพวกฉกฉวยโอกาส แต่อย่าง "หน้าหนา" นั้นหมายถึงการคุมสติได้ดี  ไม่ออกอาการทางสีหน้า ต้องนิ่งเป็น ไม่ออกอาการไม่พอใจ เสียใจให้ใครรู้  ผู้ประสบความสำเร็จทางเศรษฐกิจหรือการเมืองจะต้องมีคุณสมบัติข้อนี้  ส่วน "ใจดำ" หมายถึงต้องกล้าตัดสินใจในสิ่งที่ถูก  แม้จะต้องฝืนความรู้สึก เช่น เมื่อลูกน้องใกล้ชิดและสนิททำผิดต้องกล้าตัดสินใจลงโทษ ดุด่า เป็นต้น

7. รู้จักเลือกพี่เลี้ยงและผู้สนับสนุนอย่างถูกต้องและถูกจังหวะ 
การมีพี่เลี้ยง ที่เขาใช้คำภาษาอังกฤษว่า "Mentor" ซึ่งในความหมายของปัญญลักษณ์บอกว่าไม่ได้หมายถึงการวิ่งเข้าหาเส้นสาย หรือวิ่งหาผู้ใหญ่ แต่เขาค้นพบว่าคำว่า  Mentor  มีมาตั้งแต่สมัยยุคกรีก  และในฝรั่งเศสเมื่อ 300 ปีก่อนก็มีการใช้ Mentor ในสังคม แต่สำหรับเขา คำๆ นี้ หมายถึงคนที่เป็น "เพื่อนเกินเพื่อน"  "มีเศรษฐีระดับโลกหลายคนที่มีพี่เลี้ยงและมักจะถูกถามว่า  Who  is  your  Mentor หลายคนตอบว่า  My  Wife  ซึ่งคนที่จะประสบความสำเร็จได้ไม่จำเป็นต้องมี Mentor  คนเดียว แต่สามารถมีหลายคนได้"

8.มีความสามารถในการสร้างเครือข่ายใย 

9.สามารถพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสทุกกรณี 

10.ช่างคิดและช่างทำ เป็นทั้งนักคิดและนักปฏิบัติ 

11.รู้ค่าของเงิน 

12.มีดวงดีและมีทัศนคติที่ดี
ถ้ามีเงินไม่มีความสุข ไม่มีศิลปะการใช้ชีวิต การครองชีวิต การอยู่อย่างมีมงคลชีวิต ทำประโยชน์ต่อผู้อื่น รู้จักแบ่งปันคนอื่น ถ้าไม่มีสิ่งเหล่านี้ร่ำรวยไปก็หาความสุขไม่ได้


เจ้าของประสบการณ์ที่คร่ำหวอดกับบรรดาเศรษฐีชั้นนำทั้งไทยและเทศ “เฉลียว สุวรรณกิตติ” บันทึกเอาไว้ในหนังสือเล่มที่ชื่อว่า “สูตรลับเศรษฐี” ซึ่งเป็นหนังสือเรื่องยาวเล่มแรกที่กลั่นจากประสบการณ์ทั้งชีวิต ในฐานะมือปืนรับจ้าง  เฉลียว หรือปัญญาลักษณ์ สุวรรณฯ กล่าวว่า การเขียนหนังสือเล่มนี้ก็เพื่อหวังทดแทนคุณแผ่นดิน ซึ่งจากการสังเกตและเคยทำงานในต่างประเทศหลายประเทศ ที่เคยยากจนมาก่อน แต่ปัจจุบันกลายเป็นประเทศร่ำรวย เป็นประเทศเศรษฐีกันทั้งนั้น  เป็นผลจากผู้นำที่ประกาศนโยบายว่าจะทำให้คนในประเทศร่ำรวย แต่ไม่เคยประกาศว่าจะขจัดความยากจนคนในประเทศ

ผมจะยกตัวอย่างเช่น  สิงคโปร์  เคยอยู่แบบชาวประมง  ฮ่องกง ก็เหมือนพวกสำเพ็ง เกาหลีเองก็เป็นประเทศเกษตรยากจน แต่ปัจจุบัน 4-5 ประเทศเหล่านี้กลายเป็นประเทศร่ำรวยทั้งนั้น หรือแม้แต่อินเดียก็รวยขึ้น  คนไทยมีคนรวยราว 4.5-4.6% แต่อินเดียเขามีถึง 9% ไม่พูดถึงจีนที่มีเศรษฐีใหม่เกิดขึ้นมากมาย  และการที่ประเทศเหล่านี้ร่ำรวยขึ้นมีเศรษฐีมากขึ้น  ก็เพราะผู้บริหารประเทศเขาประกาศว่าจะทำให้คนในประเทศเขาเป็นคนรวย ไม่ได้บอกว่าจะขจัดความยากจน เขาก็เลยมีคนรวยมากขึ้น" ปัญญลักษณ์บอกว่า  หนังสือสูตรลับเศรษฐี  ถือว่าเป็นผลงาน  Research หรือการทำวิจัยของตนเอง  และไม่ได้มุ่งหวังสะท้อนความคุณสมบัติความเป็นปัจเจกเศรษฐี หรือเจ้าสัวคนใดคนหนึ่งโดยเฉพาะ แต่เป็นผลจากการสังเกตใช้วิจารณญาณของเขาเอง  บวกกับการเก็บข้อมูลอีก 2-3 แหล่ง ทั้งจากการอ่านหนังสือเกี่ยวกับเศรษฐีที่สะสมมาแล้วมากมาย  และการอ่านเว็บไซต์ที่ว่าด้วยเรื่องของเศรษฐีโดยเฉพาะ อ่านมามากจนกระทั่ง "ผมอ่านมามากจนกระทั่งรู้ว่าเศรษฐีเขาใช้เงินกันยังไง"  ปัญญลักษณ์เล่า  และที่สำคัญก็คือ เขาได้มีโอกาส "กระทบไหล่" เศรษฐีมาแล้วมากมาย  ทั้งเศรษฐีทั้งในและต่างประเทศ ล้วนเป็นประสบการณ์ที่ทรงคุณค่า หาซื้อไม่ได้

เมื่อถามว่านิยามคำว่าเศรษฐีของเขาสำหรับคนไทยต้องมีเงินเท่าไหร่  ปัญญลักษณ์บอกว่า  จากการเก็บข้อมูลและการคำนวณของเขาพบว่า  คนที่มีเงินและทรัพย์สินตั้งแต่ 20 ล้านขึ้นไป โดยไม่นับรวมที่อยู่อาศัย ถือว่าเป็นเศรษฐีแล้ว

คุณเฉลียวดูรายการสัมภาษณ์ของโอปรา  วินฟรีย์  ที่เชิญลาร์รี่ คิง แต่เขาสลับกันให้ลาร์รี่ มาสัมภาษณ์โอปรา  ที่ถือว่าเป็นคนดำที่รวยที่สุดในโลกบ้าง  ลาร์รี่  ถามโอปราว่า ทำไมโอปราไม่เอาชีวิตที่เคยยากจน  ถูกพ่อแม่ทอดทิ้ง  ตอนเด็กถูกลวนลามทางเพศ  ซึ่งเป็นประวัติที่น่าตื่นเต้นมากมาทำเป็นหนังชีวิตตัวเองสักเรื่อง  โอปราตอบทันทีว่า  ไม่เอา  ฉันไม่คิดว่าชีวิตฉันจะมีใครลอกเลียนแบบได้  ซึ่งเรื่องนี้กระตุ้นให้ผมคิดว่าการเป็นอภิมหาเศรษฐีนั้น ยากที่ใครจะลอกเลียนแบบกันได้" ปัญญลักษณ์เล่า

http://oknation.nationtv.tv/blog/kadkamplaza/2007/08/19/entry-1



/////////////////////////////

สูตรออมเงินอย่างได้ผล
http://www.pattanakit.net/%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B9%81%E0%B8%99%E0%B8%B0%E0%B8%99%E0%B8%B3%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B9%86/%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%9C%E0%B8%A5.html

//////////////////////////////////
10 ไอเดียออมเงินง่ายๆ แต่ได้ผลดี
http://www.pattanakit.net/%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B9%81%E0%B8%99%E0%B8%B0%E0%B8%99%E0%B8%B3%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B9%86/10-%E0%B9%84%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%87%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%86-%E0%B9%81%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%94%E0%B8%B5.html




















 
 

////////////////////////////////////////////////

ออมเงินตัดชุดให้แม่วันสงกรานต์ตอน1
https://youtu.be/hJg8hRn7otA

ตอนที่2 https://youtu.be/VJEP-jjGJUw




///////////////////////////////////////