วันพุธที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2560

น้ำผักปั่น /น้ำคลอโรฟิลล์/น้ำย่านาง




ทำไมหลวงปู่ฉันผักทุกวัน ตอนนี้เป็นมังกรคืนชีพ
จากคำตอบของหมอเขียว
เพราะสารสีเขียวและธาตุประกอบต่างๆที่เป็นปกติของชีวิต ช่วยในการฟื้นฟู ซ่อมแซม และทำให้เซลล์แข็งแรงขึ้น มีกำลังเรียกว่ามีพลังชีวิต

ที่มา:หมอเขียว. คู่มือการใช้สมุนไพรฤทธิ์เย็นกับการดูแลสุขภาพ. หน้า15.

********************************************************

https://youtu.be/LjvFLoot1V4

********************************************************
น้ำสมุนไพรกินอย่างไรรักษาโรค-หมอเขียว
https://youtu.be/1WRYSyo7wYI

********************************************************
ก้อนถุงน้ำของมือและข้อมือ ยิ่งเรากินไก่ ก้อนถุงน้ำก็จะโตขึ้นทำการงอข้อมือก็จะปวดมาก เอาไงดีชีวิต ศึกษาหาข้อมูลสุดฤทธิ์
พ.28ส.ค62 อ่านข้อความนี้ ในวันนี้ ชีวิตในวันนั้นบ่หย่านโรค หมอที่ดีที่สุดคือตัวเองจริงๆ

อา.21เม.ย56 เรารู้จากป้าไมว่า น้ำย่านางต้องกินจางๆ ถ้ากินเข้มเป็นสีเขียวข้น ท้องผูก จริงๆด้วยท้องผูกทั้งเช้าส.13,20เม.ย56 ตอนนั้นหาเหตุไม่พบ แก้ด้วทำดีท็อกซ์)




ครั้งนั้นทำให้เราศึกษาสมุนไพรเพื่อมารักษาและบำบัดต่อไปข้างหน้า ได้ข้อมูลจากเว๊ปมา จากที่ศึกษาอยู่นานนั้น 

ด้วยอากาศทีร้อนมาก ด้วยโลกที่พัฒนา เราก็หาน้ำเย็น ที่มีหลากหลายเมนูให้กิน นั้นแต่ภายในร่างกาย เมื่อเราได้รับความร้อน เซลล์ในร่างกายจะแตกตัวและเปลี่ยนแปลง อาจทำให้เกิดเซลล์ร้ายได้ นั้น ในทางการแพทย์แผนไทยเราควรที่จะกินสมุนไพรที่มีสารเย็น ที่จะทำการปรับสมดุลในร่างกาย เราจึงได้ ข้อมูลว่า ควรกินน้ำใบย่านาง
สรรพคุณใบย่านาง
มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระจำนวนมาก จึงช่วยลดและชะลอการเกิดริ้วและความแก่ชรา
ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านโรคในร่างกายให้แข็งแรง
ช่วยเพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกาย
ช่วยฟื้นฟูเซลล์ต่าง ๆในร่างกาย
ช่วยในการปรับสมดุลของร่างกาย
เป็นสมุนไพรที่ช่วยในการลดความอ้วนได้อย่างเห็นผลและปลอดภัย
ช่วยในการเผาผลาญไขมันและนำไปใช้เป็นพลังงาน
ช่วยป้องกันและลดอัตราการเกิดโรคมะเร็งชนิดต่าง ๆเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์เย็นเหมาะสำหรับผู้ที่เป็นมะเร็งอย่างมาก หากดื่มน้ำใบย่านางเป็นประจำ ก้อนมะเร็งจะฝ่อและเล็กลง
ช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง
ช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจ
ช่วยในการบำรุงรักษาตับ และไต
ช่วยรักษาและบำบัดอาการอัมพฤกษ์
ช่วยแก้อาการอ่อนล้า อ่อนเพลียของร่างกาย แม่นอนพักก็ไม่หาย
ช่วยรักษาอาการเกร็ง ชัก หรือเป็นตะคริวบ่อย ๆ
ช่วยแก้อาการเจ็บเหมือนมีไฟช็อตหรือมีเข็มแทงหรือมีอาการร้อนเหมือนไฟ
ช่วยป้องกันไม่ให้เส้นเลือดฝอยในร่างกายแตกใต้ผิวหนังได้ง่าย
ช่วยรักษาอาการตกกระที่ผิวเป็นจ้ำ ๆสีน้ำตาลตามร่างกาย
ช่วยรักษาเนื้องอก
ช่วยรักษาอาการวิงเวียนศีรษะ หน้ามืด เป็นลม คลื่นไส้ อาเจียนได้
ช่วยป้องกันโรคภูมิแพ้ ไอจาม มีน้ำมูกและเสมหะ
รากแห้งใช้ในการแก้ไข้ทุกชนิด และลดความร้อนในร่างกาย
รากของย่านางสามารถแก้ไข้ได้ทุกชนิด ทั้ง ไข้พิษ ไข้หัด ไข้เหนือ ไข้ผิดสำแดง 
ช่วยรักษาอาการร้อนแต่ไม่มีเหงื่อ
ช่วยรักษาอาการของโรคเบาหวาน ช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง
มีส่วนช่วยช่วยอาการปวดตึง ปวดตามกล้ามเนื้อ ปวดชาบริเวณต่าง ๆ
ช่วยรักษาโรคภูมิแพ้
รากของย่านางช่วยแก้อาการเบื่อเมา
ช่วยแก้อาการเหงือกอักเสบอย่างรุนแรงและเรื้อรัง
ช่วยแก้อาการง่วงนอนหลังการรับประทานอาหาร
ช่วยแก้อาการเลือดกำเดาไหล
ช่วยในการบำรุงสายตาและรักษาโรคเกี่ยวกับตา เช่น ตาแดง ตาแห้ง ตามัว แสบตา ปวดตา ตาลาย เป็นต้น
ช่วยรักษาอาการปากคอแห้ง ริมฝีปากแตกหรือลอกเป็นขุย
ช่วยแก้เสมหะเหนียวข้น ขาวขุ่น มีสีเหลืองหรือเขียว หรืออาการเสมหะพันคอ
ช่วยบำบัดอาการของโรคไซนัสอักเสบ
ช่วยลดอาการนอนกรน
ช่วยแก้อาการเจ็บปลายลิ้น
ช่วยป้องกันและบำบัดรักษาโรคหัวใจ
ช่วยป้องกันและรักษาโรคหอบหืด
ช่วยรักษาโรคตับอักเสบ
ช่วยรักษาอาการท้องเสีย เพราะช่วยฆ่าเชื้อโรคที่เป็นต้นเหตุได้
ช่วยบรรเทาอาการอาการปวดท้องอย่างเฉียบพลัน
ช่วยแก้อาการท้องผูก ลดอาการแสบท้อง
ช่วยรักษาโรคกระเพาะอาหาร ลำไส้อักเสบ
ช่วยลดอาการหดเกร็งตามลำไส้
ช่วยรักษาอาการกรดไหลย้อน
ช่วยรักษาไทรอยด์เป็นพิษ
ช่วยรักษาโรคนิ่วในไต นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ นิ่วในถุงน้ำดี
ช่วยรักษาอาการปัสสาวะแสบขัด ออกร้อนในทางเดินปัสสาวะ
ช่วยแก้อาการปัสสาวะมีสีเข้ม ปัสสาวะบ่อย หรือมีอาการปัสสาวะออกมาเป็นเลือด
ช่วยรักษาอาการมดลูกโต อาการปวดมดลูก ตกเลือดได้
ช่วยบำบัดรักษาโรคต่อมลูกหมากโต
ช่วยป้องกันโรคไส้เลื่อน
ช่วยในการรักษาโรคเริม งูสวัด
ช่วยป้องกันการเกิดโรคริดสีดวงทวาร
ช่วยรักษาอาการตกขาว
ช่วยป้องกันการเกิดโรคเกาต์
ช่วยแก้พิษจากแมลงสัตว์กัดต่อย
ช่วยรักษาอาการผิวหนังมีความผิดปกติคล้ายรอยไหม้
น้ำย่านางเมื่อนำมาผสมกับดินสอพองหรือปูนเคี้ยวหมากผสมจนเหลว สามารถนำมาทา สิว ฝ้า ตุ่มคัน ตุ่มใส ผื่นคัน พอกฝีหนอง
ช่วยป้องกันและรักษาอาการส้นเท้าแตก เจ็บส้นเท้า
ช่วยรักษาอาการเล็บมือเล็บเท้าผุ โดยรักษาอาการเล็บมือเล็บเท้าขวางสั้น ผุ ฉีกง่าย หรือในเล็บมีสีน้ำตาลดำคล้ำ อาการอักเสบที่โคนเล็บ
https://pantip.com/topic/35052730

โทษของย่านาง    ย่านางมีฤทธิ์เย็น การกินย่านางติดต่อกันเป็นเวลานานๆ จะทำให้ร่างกายเย็น เลือดข้น เลือดไหลเวียนไม่สะดวก ทำให้เกิดอาการมือชา แขนขาชา และปวดศีรษะได้
            โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนธาตุเย็นหรือผู้ที่มีความดันโลหิตต่ำ เลือดจาง และอ่อนเพลียง่าย ต้องระมัดระวังการกินเป็นอย่างมาก เพราะการกินเป็นเวลานานจะยิ่งทำให้เลือดไหลเวียนน้อยลง เลือดจางและอ่อนเพลียมากขึ้น
            ส่วนคนธาตุร้อน กินแล้วมีประโยชน์ เพราะช่วยลดความร้อนในตัวลง ลดความดันโลหิตได้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องกินให้ถูกต้อง ไม่อย่างนั้นก็ทำให้เกิดผลเสียเหมือนกัน
            คุณหมอบุญยืนอธิบายวิธีสังเกตลักษณะธาตุในร่างกายว่า
            ธาตุในร่างกายแบ่งตามอุณหภูมิเป็น 2 ธาตุ คือ ร้อนและเย็น คนธาตุร้อนสังเกตง่ายๆว่าจะเป็นคนขี้ร้อน ทนอยู่ในที่อากาศร้อนแม้เพียงเล็กน้อยไม่ได้ มีอาการร้อนในและท้องผูกบ่อย ส่วนคนธาตุเย็นเป็นคนขี้หนาว อยู่ในห้องแอร์หรือถูกลมเย็นๆ ก็จะหนาวมาก ป่วยเป็นหวัดและภูมิแพ้ง่าย
http://xn--o3cdacwqkg3d4d7c0hc4d.blogspot.com

ประสบการณ์จากน้ำย่านาง 

อา.21เม.ย56สวนเพราะท้องผูก อึออกเป็นก้อนใหญ่น้ำกระจาย รู้จากป้ามัยว่า น้ำย่านางต้องกินจางๆถ้ากินเข้มเป็นสีเขียวข้น ท้องจะผูก
จริงๆด้วยศ.19เม.ย56ตอนเย็นกินน้ำย่านางเขียวข้น เช้าส.20เม.ย56 ท้องผูก หาเหตุไม่พบ จึงสวน  ท้องโล่ง


น้ำย่านางลดไขมันในเลือดได้


#โรคไขมันในเส้นเลือดสูง
เกิดจากภาวะร้อนเกินถ้าร่างการร้อนมาก ๆ ร่างการก็จะไม่ยอมเผาไขมันทิ้ง เพราะการเผาไขมัน 1กรัม จะให้ความร้อน   9 กิโลแคลอรี่ เพราะถ้าร่างกายร้อนมาก ๆ และร่างการเผาไขมันทิ้งมันจะทำให้ร่างกายร้อนขึ้นอีกจะทำให้ร่างกายทรุดโทรมขึ้นไปอีกไขมันก็เลยอุดตันตามเส้นเลือด

#และก็อุดตันตามเซลล์ต่าง ๆ ของร่างกายไขมันจะมีการอุตันไปทั่วในร่ายกาย ก็ทำให้เลือดลมไหลเวียนไม่สะดวกเซลล์ก็แย่ตามเลือดลมไหลเวียนไม่สะดวกทำให้เซลล์เสื่อมตายเมื่อของเสียออกไม่ได้ก็ทำให้เผาตัวเองตาย ของดีไม่สามารถเข้าได้ ของเสียก็ไม่สามารถออกได้ร่างกายก็แย่

#ในขณะที่ของเสียออกไม่ได้มันก็ทำให้ร่างกายหมดสภาพ  ในทางแพทย์วิถีพุทธมีการแก้อย่างไร การแก้ก็เหมือนกันกับการแก้ของโรคเบาหวาน คือการใส่เย็น และลดความร้อนลง หรือ การใช้ตามหลักการของยา 9 เม็ด พอร่างกายเย็นลงก็ทำให้ร่างกายเกิดการเผาผลานไขมันในร่างกายขึ้น โดยการเปลี่ยนไขมันในร่างกายให้เป็นพลังงานแทน  

#ส่วนของเสียที่เกิดจากการเผาผลานไขมันก็เปลี่ยนเป็นพลังงานแทนความเย็นก็เปรียบเสมือนหม้อน้ำที่แต่ถ้าเมือใดร่างกายมีหม้อน้ำ ไขมันก็จะน้อยลงเรื่อย ๆ และก็พอดีในที่สุด การเผาในแบบแพทย์วิถีพุทธจะทำให้ร่างกายไม่เกิดความอ่อนเพลีย รู้สึกสบาย ส่วนใหญ่ไขมันจะลดลงภายใน7 ถึง 10 วันถ้ามีการปฏิบัติตัวอย่างเคร่งครัดและจะเริ่มเด่นชัดขึ้น 

#หากปฏิบัติตัวอย่างเคร่งครัด แต่หากไม่เคร่งครัดก็จะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน ไขมันก็จะค่อย ๆ ลดลง แต่มีข้อสังเกตอยู่ที่ว่าทำไม่โรคไขมันถึงลงช้ากว่าโรคเบาหวาน และ โรคความดัน เพราะโรคเหล่านี้จะใช้เวลา 3- 5 วันเสียส่วนใหญ่ โดยค่าร่วม แต่ ทำไม่ เพราะเบาหวาน 1กรัมของน้ำตาล จะให้ความร้อน 4 กิโลแคลลอรี่ร่างกายจะเลือกลดตัวที่ร้อนน้อยนี่ก่อน เลือกเผาผลาญน้ำตาลก่อน 

#เพราะการเผาผลผลานน้ำตาลไม่ร้อนมากพอร่างกายเย็นได้ที่ร่างกายก็จะเลือกเผาผลานตัวที่มีความร้อนเยอะก็คือไขมันเพราะฉะนั้นไขมันจะลงทีหลังส่วนน้ำตาลจะลดก่อน แล้วก็ยาลดไขมัน หากใครกินยาลดไขมัน การกินยาลดไขมันเพื่อที่จะสะลายไขมันเป็นการระเบิดตัวเองก็นั้นเอง การกินยาจะทำให้ได้ผลข้างเคียงของยาและก็ไม่ได้มีประโยชน์กับร่างกายเลย เป็นการฆ่าตัวตาย 

#การกินยาลดไขมันจะมีผลข้างเคียงมากกว่าการกินยาลดน้ำตาลอาจจะทำให้เกิดอาการ คลื่นไส้อาเจียน เวียนหัว อะไรต่าง ๆ สารพัดเรื่อง เพราะว่า มันให้ความร้อนมากกว่า เพราะฉะนั้นจึงไม่มีความจำเป็นต้องไปกินยาลดไขมันเลย 

#แต่ก็มีข้อสังเกตอยู่ว่าทำไมการกินน้ำย่านางอย่างเดียวสามารถทำให้ไขมันลดลงได้ บางคนไม่สามารถทำยาเม็ดอื่นได้เลย ได้แต่การกินน้ำย่านางอย่างเดียว ก็สามารถทำให้ไขมันลดลงได้ เพราะอย่างน้อยก็ได้มีการใส่หม้อน้ำให้กับร่างกาย ร่างกายก็มีปฏิกิริยาในการเผาไขมันทิ้งได้ตามปริมาณหม้อน้ำที่มี นี้คือกลไก ของการลดลงของไขมัน และเป็นการลดโดยธรรมชาติ

ใจเพชร กล้าจน(หมอเขียว)
https://m.facebook.com/answermorkeaw2/photos/a.865894460215992.1073741828.865872563551515/870740196398085/?type=3


นำ้ผักฤทธิ์เย็นโดยหมอเขียวhttp://youtu.be/CMfDBZMBZKA
ปริมาณผักเท่ากับ1ฝ่ามือ น้ำ3-5แก้ว กินก่อนอาหารหรือตอนท้องว่าง ให้ยึดความสบายเป็นหลักว่าจะกินมากหรือน้อย ข้นขนาดไหน

น้ำผักฤทธิ์เย็น ใส่ย่านาง อ่อมแซบ ใบเตย บัวบกไม่ใส่เพราะบางคนแพ้ ปั่น2นาที ใส่ถุงกรองบีบน้ำ https://youtu.be/lWUFMZJX9KY

น้ำผักผลไม้ปั่นสำหรับผู้ป่วยกินแทนอาหารเช่นยอดมะม่วง หัวปลี โหระพา กะเพรา https://youtu.be/Z2JsI-J3KwA

น้ำคลอโรฟิลล์จากผักรอบบ้านเช่นผักบุ้ง เบญจรงค์ กล้วยสุกให้รสหวาน มะม่วงดิบให้รสเปรี้ยว มะละกอดิบขูดฝอย
เริ่มดูที่09:11 https://youtu.be/slFXq_OMwo4





วันเสาร์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2560

พลับพลึงกับการักษาปวดหมอนรองกระดูกและสะโพก




ประสบการณ์ของข้าพเจ้าจากการรักษาอาการปวดหมอนรองกระดูกและสะโพก
พฤ.9มีค60 ใช้ใบพลับพลึงแก่ตัดท่อน ย่างไฟจากเตาแก๊สจนอ่อน ขอบบางส่วนไหม้ไฟ เอาใบนั้นมานาบบริเวณที่มีอาการทับเสื้อที่ใส่ นวดทับใบเบาๆ ความรู้สึกแรกเลยคือสบายผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่ตึง เหมือนใช้กระเป๋าน้ำร้อน แต่สักพักจะมีเจลจากก้านไหลออกมา ทาเจลนั้นกับเนื้อที่ปวด ตอนนี้ใบจะไม่ร้อนแล้วพออุ่นๆ ฉีกก้านใบที่มีเจลคลึงกับที่ปวดให้ทั่ว เจลจะค่อยๆซึมเข้าเนื้อ รอให้เจลซึมลงผิวจนแห้ง ประมาณ5-10นาทีจึงเลิกทำ เราทำเช้า กลางวัน เย็น ในวันแรก วันที่2ทำเเฉพาะเย็นและใบที่เก็บมาในวันที่2เป็นใบเก่าเหลือจากวันแรก ไม่ได้เก็บเข้าตู้เย็น ทิ้งตากแดดที่แคร่ เจลที่ก้านใบจึงมีน้อย
ส.11มีค60ตื่นตี3 เหยียดยืดตามท่าหมอลดาวัลย์และยกขา2ข้างให้สูงเท่าที่จะสูงได้ ทำ3ครั้ง จากนั้นลุกโดยตะแคงขวา รู้สึกเบาสะโพกกว่าที่เคยมา จึงก้มกราบพระโดยนั่งท่าเทพธิดาแยกเข่ายกก้นให้หน้าผากแตะพื้น  กราบแบบเบญจางคประดิษฐ์ที่ข้อศอกแตะพื้นด้วย แล้วสวดอรหัง นโม อิติปิโส แผ่เมตตา กราบหลวงปู่ขอเมตตาเป็นพ่อแม่ครูบาอาจารย์ แล้วกราบ3ครั้ง แต่หนนี้กราบให้หน้าผากแตะพื้นได้เป็นปกติ
ไม่เจ็บ ลุกยืนได้เลย ไม่ต้องคลานไปเกาะยกพื้นข้างหน้าต่างเพื่อช่วยพะยุงตัว ดันตัวก่อนลุกขึ้น นี่ถ้าวันที่2ได้ทำเช้ากลางวันเย็น คงจะเห็นผลดีและเร็วกว่านี้



บีบีซีนิวส์ – นักวิจัยสหรัฐฯพบสาร “ไซโคลพามีน” ในพืชตระกูลพลับพลึง ที่สามารถยับยั้งการทำงานของโปรตีนชนิดหนึ่งที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งได้ ระบุเป็นการต่อยอดจากงานวิจัยเดิมที่พบว่าสารสกัดดังกล่าวสามารถทำให้เนื้องอกมะเร็งในหนูหดตัว

นักวิจัยในสหรัฐฯค้นพบว่าสารไซโคพามีนที่อยู่ในพืชจำพวกพลับพลึง สามารถทำให้ก้อนเนื้อที่เกิดจากโรคมะเร็งของหนูลดขนาดลง ซึ่งเชื่อว่าจะนำมาประยุกต์ใช้ในการรักษาโรคมะเร็งในตับอ่อน ในกระเพาะ ในหลอดอาหาร และในท่อส่งน้ำดีของมนุษย์ได้

ก่อนหน้านี้มีงานวิจัยที่ค้นพบว่าสารไซโคลพามีน สามารถต่อต้านการเกิดโรคมะเร็งได้ โดยงานวิจัยได้ตีพิมพ์เมื่อปีที่แล้วระบุว่า สารดังกล่าวนี้จะช่วยรักษาเนื้อร้ายที่เกิดขึ้นในเซลส์ประสาทสมองของเด็กได้ นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยอื่นๆที่สนับสนุนว่าสารไซโคลพามีนสามารถยับยั้งการเกิดมะเร็งในปอดจากการสูบบุหรี่ได้

งานวิจัยที่พบว่าสารไซโคลพามีนสามารถรักษาก้อนเนื้อมะเร็งได้นั้นได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร เนเจอร์ ซึ่งใช้ข้อมูลพื้นฐานจากงานวิจัยสองชิ้นที่ได้รับการค้นพบมาก่อนหน้า งานวิจัยชิ้นแรกนั้น ดร.ฟิลิป บีคี และคณะจากคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ พบว่าโปรตีนพลังงานสูงที่มีชื่อว่า โซนิค เฮดท์ฮอก เป็นตัวเร่งให้เนื้องอกในหลอดอาหาร กระเพาะ และตับอ่อนเกิดขึ้น

โปรตีนชนิดนี้จะมีบทบาทสำคัญในการเจริญเติบโตของตัวอ่อนเด็กที่ยังอยู่ในครรภ์ของมารดา นักวิจัยพบว่าหากโปรตีนชนิดนี้เริ่มทำงานอีกครั้งเมื่ออายุมากขึ้นจะเป็นสาเหตุของโรคมะเร็ง ซึ่งจากการทดลองกับหนูพบว่าสารไซโคลพามีนจะไปยับยั้งการทำงานของโปรตีนชนิดนี้ และเมื่อทำการทดลองผ่านไป 12 วันก็พบว่าก้อนเนื้อมีขาดเล็กลง

งานวิจัยอีกชิ้นที่ช่วยสนับสนุนผลการวิจัยล่าสุด โดยดร.ซาเราะห์ ซอญิร และคณะจากโรงพยาบาลแมซซาจูเซ็ทส์ และคณะแพทย์ศาสตร์ฮาร์วาร์ดพบว่า สารไซโคลพามีนส่งผลกระทบต่อหนูที่เป็นโรคมะเร็งในตับอ่อนได้ โดยงานวิจัยทั้งสองชิ้นข้างต้นทำให้เชื่อว่าสารไซโคลพามีนจะสามารถนำไปใช้กับมะเร็ง ที่เกิดขึ้นกับคนในบริเวณเดียวกับที่ทดลองกับหนูได้
- See more at: http://www.goosiam.com/health/html/0006152.html#sthash.DAUKSwld.dpuf