วันศุกร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2561

อ้อย ข้าวโพด มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน ฉีดสารเคมี



แต่งหล่อเกิน

วันที่ 30 ส.ค. 2561 คณะกรรมการวัตถุอันตราย จัดประชุมพิจารณาแผนการบริหารจัดการสารเคมีเกษตร 3 ชนิด พาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซต ณ กระทรวงอุตสาหกรรม
นายมงคล พฤกษ์วัฒนา อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ที่ประชุมมีมติห้ามใช้สารเคมีทั้ง 3 ชนิด โดยเด็ดขาด ในพืชผักสวนครัว สมุนไพร และพื้นที่เฝ้าระวังพิเศษ เช่น แหล่งต้นน้ำ แหล่งชุมชน
ส่วนในพื้นที่ปลูกพืชเศรษฐกิจที่จำเป็น เช่น อ้อย ข้าวโพด มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน นายมงคล กล่าวว่า ยังอนุญาตให้ใช้ได้เช่นเดิม 
https://m.youtube.com/watch?feature=youtu.be&v=5irEkrqk5xA

แป้ง แป้งทอด ข้าวโอ๊ต









ข้าวโอ๊ต

1.หมูสับปรุงรสแล้ว คลุกกับข้าวโอ๊ด แล้วนำไปทอด
คล้ายๆกับหมูชุปแป้งขนมปังทอด ใส่น้ำมันนิดเดียวเพราะข้าวโอ๊ดดูดน้ำมันเร็วมากใช้ไฟอ่อนๆกลับไปกลับมาพอเหลือง ไม่อมน้ำมันด้วย


2.แช่กับนม ใส่ไข่ 1 ฟอง เบคกิ้งโซดานิดหน่ิอย ทิ้งไว้ให้เหนียว
ทอดด้วยน้ำมันมะพร้าว กินกับน้ำผึ้ง 


3.สับผลไม้แห้ง แล้วเติมน้ำผึ้ง ผสมข้าวโอ๊ต คลุกให้เข้ากัน( เราใช้ครกตำ เพราะใช้เครื่องบดแล้วเครื่องพังเพราะว่าเครื่องบดมันเล็กไป) ปั้นเป็นก้อนๆ หรือเป็นแท่งๆ หรืออัดใส่ถาด แล้วตัดเป็นชิ้นๆ แยกห่อพลาสติก wrap เก็บไว้กินได้ เป็น มูสลี่บาร์

4.ใส่ข้าวโอ๊ตในขวดโหล เทนม เทโยเกิร์ต หั่นผลไม้ลงไป ใส่เม็ดแมงลักด้วยนิดนึง หรือจะ chia seeds ปิดฝา เขย่าๆๆๆ แช่ตู้เย็น 6ชม.
ได้แล้วพุดดิ้งข่าวโอ๊ต


แป้งโม่น้ำ
ในการผลิตแป้งข้าวเจ้า (Rice flour) นั้นจะมีกรรมวิธีการผลิตอยู่  3  แบบก็คือ  การโม่น้ำ การโม่แห้ง    และสุดท้ายการโม่แบบผสม 

 วิธีการผลิต  แป้งข้าวเจ้า (Rice flour) จะมีวิธีการโม่น้ำนั้นมีกรรมวิธีดังนี้

               นำข้าวทีนั้นจะเป็นวัตถุดิบไปเพื่อที่จะทำความสะอาดเพื่อเป็นการแยกสิ่งสกปรกออกแล้วนำเข้าเครื่องล้างข้าวอีกครั้ง หลังจากนั้นให้นำข้างไปแช่ไว้ในถังแช่ข้าว  เมื่อข้างเริ่มอิ่มน้ำเต็มที่จึงนำข้าวมาโม่ที่เครื่องโม่ข้าว  การโม่แป้งข้าววิธีนี้นั้นจะเป็นวิธีที่นิยมกันอย่างมากในปัจจุบัน  เพราะแป้วข้าวที่ได้จากกรรมวิธีนี้นั้นจะเป็นแป้งข้าวที่มีความละเอียดสูง  และมีสิ่งเจือปนอยู่ในแป้งข้าวน้อย   แป้งข้าวที่ได้นั้นยังมีความละเอียดที่ค่อนข้างสูง

               การผลิตแป้งข้าวเจ้า (Rice flour) ด้วยวิธีการโม่แห้งนั้นจะมีกรรมวิธีดังนี้

               นำข้าวสารที่ต้องการที่จะนำไปใช้เป็นวัตถุดิบไปเพื่อทำความสะอาดเสียก่อน  ก่อนที่จะเป็นการนำเอาสิ่งสกปรก  ฝุ่นละอองต่างๆออกไปเพื่อทำให้ข้าวที่ต้องการจะใช้มีความสะอาดยิ่งขึ้น  แล้วจึงนำข้าวที่ทำความสะอาดแล้วไปบดให้มีความละเอียด  แต่แป้งที่ได้จากกรรมวิธีแบบนี้นั้น  จะเป็นแป้งข้าวเจ้า(Rice flour) ที่จะมีคุณภาพต่ำที่สุด  เพราะว่าเม็ดแป้งที่ได้นั้นจะค่อนข้างมีความหยาบและจะมีสิ่งเจือป่นอยู่ในแป้งข้าวที่ได้สูง  และการเก็บรักษานั้นจะมีระยะเวลาที่สั้น  สามารถที่จะเกิดกลิ่นหืนได้ง่าย

การผลิตแป้งข้าวเจ้า (Rice flour) ด้วยวิธีการผสมมีกรรมวิธีดังนี้

นำข้าวที่ต้องการสำหรับใช้เป็นวัตถุดิบไปทำความสะอาดเพื่อแยกสิ่งสกปรกออก  และนำไปเข้าเครื่องล้างข้าว แล้วนำข้าวไปแช่ในถังแช่ข้าว  เมื่อข้าวได้ที่แล้วจึงนำข้าวไปเพื่ออบให้แห้ง  เมื่อข้าวแห้งแล้วจึงค่อยนำข้าวไปโม่  การโม่ข้าวด้วยวิธีนี้นั้นแป้งที่ได้จะมีคุณภาพที่สูง  และแป้งที่ได้ยังสุกแล้วอีกด้วย  แป้งชนิดนี้จึงค่อนข้างนิยมนำไปทำขนมไทยต่างๆ 
http://knowledgeofhealthy.blogspot.com/2013/03/rice-flour.html

ความรู้เรื่องแป้งทำอาหาร
https://www.wongnai.com/food-tips/types-of-flour
แป้งสาลีเอนกประสงค์:ทำแพนเค้ก คุ้กกี้ พาย โดนัท กะหรี่พัฟ 
รวมทั้งใช้แป้งนี้1ถ้วย+แป้งข้าวเจ้า1/4ถ้วย+น้ำเย็นจัด+เกลือ+พริกไทยเพื่อชุบอาหารต่างๆ ก่อนนำไปทอด
https://goodlifeupdate.com/healthy-food/clips/59793.html



ไดฟูกุไส้ถั่วเขียวเลาะเปลือก
https://youtu.be/W9aPt99Gnhs


ฟักทองปอกเปลือกหั่นเป็นแท่ง
ชามผสม:ตอกไข่ใส่ชามผสม มัดใบเตยเพื่อขยำไข่6ฟอง
แป้งสาลีอเนกประสงค์1ช้อนแกง เกลือ1/2ชช.กะทิ1กล่องเล็ก
น้ำตาลมะพร้าว3/4 ขยำให้เป็นเนื้อเดียวกัน
กรองด้วยตะแกรง
ใส่ฟักทองลงไป
นึ่ง1/2ชม.ขนมสุก
https://youtu.be/i9Or6AiVlZ0

ทำแล้วลืมใส่กะทิ แก้ไขโดยราดกะทิอัมพวาบนขนม ก่อนปิดไฟ อร่อย




หมั่นโถวฟักทอง:แป้งสาลีอเนกประสงค์65กรัม+แป้งข้าวเหนียว65กรัม
https://youtu.be/VxAiu46hIx8



 สังขยา:แป้งข้าวเจ้า https://youtu.be/4BgdOakqCb8

แป้งสาลี1/4ถ้วย แป้งข้าเหนียว3/4ถ้วย ฟักทองบดละเอียด น้ำตาล3ช้อนแกง
https://youtu.be/L5oSRTv7hwI


https://youtu.be/b6Q4JWVrSfE

https://youtu.be/WxVRdyLVie8





แป้งสาลี  (Wheat Flour) .. ที่มีขายตามท้องตลาดในเมืองไทยและที่ใช้ทำขนมทำอาหารกันตามบ้านโดยทั่วไป ....  จะแบ่งออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ ๆ  (แบบไม่ล้วงลึก) ....  ก็คือ
1. แป้งสาลีสำหรับทำเค้ก หรือ เรียกสั้น ๆ ว่า แป้งเค้ก
2. แป้งสาลีอเนกประสงค์
3. แป้งสาลีสำหรับทำขนมปัง
แป้งสาลีสำหรับทำเค้ก  (Cake Flour)
หรือคนทั่วไป มักจะเรียกสั้น ๆ กันว่า "แป้งเค้ก"
แป้งเค้กเป็นแป้งสาลีที่มีโปรตีนต่ำ ราว 7-9%  (ต่ำที่สุดในบรรดาแป้งสาลีทั้งหมด) ทำมาจากข้าวสาลีชนิดเบา ...  เนื้อแป้งจะมีเนื้อที่เนียน ละเอียด เบา  นุ่มมือ และมีสีขาว  ... เมื่อเวลาเราเอานิ้วมือเรากดลงไปบนเนื้อแป้ง  จะปรากฎเห็นเป็นรอยนิ้วมือเด่นชัด .. และการจะทำให้แป้งชนิดนี้ขึ้นฟู  จะต้องใช้ผงฟูหรือเบคกิ้งโซดา เป็นตัวทำให้ขึ้นฟูเท่านั้น
แป้งชนิดนี้ จึงเหมาะที่จะใช้ทำพวกขนมเค้ก  และขนมที่มีเนื้อละเอียด ฟู เบา เช่น ถ้วยฟู ปุยฝ้าย ซาละเปา
ยี่ห้อที่มีจำหน่ายในท้องตลาดในเมืองไทยเรา ก็เช่น ตราพัดโบก กิเลนแดง กิเลนเขียว ตราบัวแดง
http://www.pim.in.th/images/faq-ingrediants/wheats-flour/002.jpg
แป้งสาลีอเนกประสงค์  (All purpose Flour)
เป็นแป้งสาลีที่ทำมาจากข้าวสาลีชนิดหนัก-เบาผสมกัน  ทำให้มีโปรตีนปานกลาง ราวๆ  10-11%  จึงเป็นแป้งที่เอาไปทำขนมหรืออาหารได้หลายอย่าง  ไม่ว่าจะเป็นพวกเบเกอรี่อย่าง คุ๊กกี้  พาย  พัฟท์  หรือขนมไทย ๆ อย่าง สังขยาจิ้มขนมปัง  ขนมสาลี่  ขนมกลีบลำดวน หรือแม้แต่เอามาประกอบการทำอาหารคาว เช่น ชุบอาหารทอด
แป้งชนิดนี้ .... สามารถทำให้ขึ้นฟู ได้ด้วยผงฟู เบคกิ้งโซดา และยีสต์
ในบรรดาแป้งสาลี 3 ชนิด  แป้งสาลีอเนกประสงค์จะมีราคาถูกที่สุด และหาซื้อง่ายกว่าแป้งสาลีชนิดอื่น
ยี่ห้อที่มีจำหน่ายในท้องตลาดบ้านเรา ก็เชน่  ตรากบ ตราว่าว  ตราหัวกวาง
http://www.pim.in.th/images/faq-ingrediants/wheats-flour/004.jpg
แป้งสาลีสำหรับทำขนมปัง  (Bread Flour)
หรือเรียกสั้น ๆ ว่า "แป้งขนมปัง"
แป้งสาลีชนิดนี้ ... เป็นแป้งสาลีชนิดหนัก  เพราะว่าทำมาจากข้าวสาลีพันธุ์หนัก  มีโปรตีนสูงประมาณ 12-14%   ลักษณะของเนื้อแป้งจะหยาบ มีสีครีม  (ไม่ใช่สีขาว)  เมื่อเราเอานิ้วเรากดลงไป  จะไม่ปรากฎรอยนิ้วมือของเราบนแป้ง
แป้งชนิดนี้ เมื่อเวลาเราต้องการทำให้ขึ้นฟู  เราจะต้องใช้ยีสต์ หรือแป้งเชื้อ  (ไม่สามารถใช้ผงฟู หรือ เบคกิ้งโซดาได้)  ... ดังนั้นแป้งชนิดนี้จึงเหมาะที่จะใช้ทำพวกขนมปังหรือขนมที่มีลักษณะคล้ายขนมปัง เช่น โดนัทยีสต์ พิซซ่า โรตี  หรือพวกเส้นบะหมี่ เส้นอุด้ง
ยี่ห้อที่มีจำหน่ายในท้องตลาดก็เช่น ตราห่าน ตรานกอินทรี  ตรากำแพงเมืองจีน ... ค่ะ
http://www.pim.in.th/images/faq-ingrediants/wheats-flour/003.jpg

แป้งเค้ก.                    คือแป้งสาลีชนิดเนื้อเบา
แป้งสาลีเอนกประสงค์คือเนื้อหนาแน่นปานกลาง
แป้งขนมปัง.               คือแป้งสาลีชนิดเนื้อหนัก
https:0//m.facebook.com/groups/850971171651332?view=permalink&id=1812424178839355

วันจันทร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2561

ออกกำลังกาย แกว่งแขน รวมท่าบริหารร่างกาย









ยกมือขึ้นเหนือหัวกำ ปล่อยมือลงย่อเข่า



ปั๊มน้ำเหลือง 
น้ำเหลืองถูกดึงเข้าไป มันจะดึงน้ำเหลืองจากเส้นเลือดมาทดแทน เหมือนเราชำระท่อน้ำทิ้ง ดึงขยะไปทิ้ง ทำแล้วรู้สึกแขนเบาขาเบา แก้เข่าบวม ขาบวม ผื่นพิษ 
เริ่มบริหารที่0:33

https://youtu.be/ZvEDgXWi8o8



ออกกำลังกาย

   แสงแดดให้กระดูกที่ถูกต้อง
ดินใ้ห้กองเนื้อหน่อมาห่อหุ้ม
ลมให้เส้นเอ็นมัดร้อยรัดกุม
น้ำชุบชุ่มชีวิตผลิตชีวา
   ออกกำลังเช้าสายได้ธาตุสี่
สุขภาพดีทุกวัยไม่อ่อนล้า
ได้ยืดเส้นยืดสายกายยาววา
ใด้เหงื่อมาซึมซับขับพิษภัย 
   เส้นตึงเต็งแข็งข้อจะย่อหย่อน
มือตีนอ่อนจะแข็งแรงมาใหม่
ธาตุทั้งสี่น้ำผสมดินลมไฟ
ออกกำลังทำให้ได้กำลัง
   คนดินน้ำลมไฟไม่บกพร่อง
พ่อไม้เท้ายอดทองจะอยู่ยั้ง
ชีวิตไม่เป็นเหยื่อโรคเรื้อรัง
ออกกำลังได้กำลังมาเพิ่มเติม

                                  ไม้ร่ม
                            ๑๙ ธ.ค.๖๒
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=2498447210427279&id=100007860734468





ออกกำลังค่อนข้างเยอะ...พักผ่อนน้อย

ถามถึงเรื่องพี่อ๊อฟ พงษ์พัฒน์? ใช่ค่ะ อยู่ในกองถ่ายแต่ไม่ได้ในเหตุการณ์ตอนที่พี่อ๊อฟล้มค่ะ เบลถ่ายตั้งแต่ฉากแรก พี่อ๊อฟก็มาบรีฟตามปกติ ก็บ่นว่าปวดคออะไรนิดหน่อย เมื่อยเนื้อเมื่อยตัว ก็คิดว่าไม่สบาย ก็นั่งง่อมกัน 2 คนเพราะเบลก็ไม่สบายเหมือนกัน
...พี่อ๊อฟเป็นคนแข็งแรงมาก และออกกำลังค่อนข้างเยอะ แต่เท่าที่คุยว่าน่าจะเป็นเพราะว่าพักผ่อนน้อย
อ่านข่าวต่อได้ที่: https://www.thairath.co.th/content/1359113#cxrecs_s


ประโยชน์การออกกำลังกายจนเหงื่ออออก
เราต้องขับของเสียออกทางเหงื่อ การออกกำลังกายจนเหงื่ออออก
เราต้องหอบ ต้องหายใจ เป็นการล้างลมชายปอด
ทำให้ต่อมเหงื่อเปิด ไตทำงานเบาลง
อะไรก็ผ่านฉี่หมดทั้งยาและของเสีย
ถ้าเหงื่อออกไตฟื้นตัวดีขึ้น
ทั้งได้หมุนเวียนน้ำเหลือง  น้ำเหลืองคือน้ำเลือด ที่ออกมานอกหลอดเลือด แล้วเข้ามากำจัดเชื้อโรคกับมะเร็งในเนื้อเยื่อ เพราะว่าเซลมะเร็ง กับเชื้อโรคไม่ได้อยู่ในหลอดเลือด มันอยู่ในเนื้อเยื่อ
ร่างกายสั่งหน่วยล่าสังหารมาจากหลอดเลือด น้ำเหลือง
ไอ้ตัวที่ออกมาคือเม็ดเลือดขาวกับภูมิต้านทาน
มันมากำจัดเชื้อโรค กับมะเร็ง ที่อยู่นอกหลอดเลือด
แต่ปรากฏว่ามันออกมาแล้ว ไม่ถูกเรียกกลับคืน
เพราะเราไม่ออกกำลังกาย พวกน้ำเหลืองที่อยู่เหนือไหปลาร้า ไม่เป็นไร
น้ำเหลืองไหลกลับได้ตรงหลอดน้ำเหลือง อยู่ข้างเส้นเลือดดำใหญ่2ข้าง ถ้าเราจับไหปลาร้า จะเต้น นี่คือหลอดเลือดแดง
ชิดออกไปเป็นหลอดเลือดดำ ชิดออกไปอีกทีเป็นหลอดน้ำเหลือง
เพราะฉะนั้น เรามีโอกาสบริหารหลอดน้ำเหลืองได้
ด้วยการออกกำลังกาย
ถ้าไม่มีโอกาสออกกำลังกาย ตอนนอนกลางคืน ให้หาหมอนสูงๆ หนุนปลายเท้าไว้ อย่างน้อย1/2-1ชม. เพื่อดึงน้ำเหลืองกลับมาจากส่วนล่าง กลับมาที่หลอดน้ำเหลืองที่ไหปลาร้า(=แนวคิดเหมือนวิธีหมอวิชัยรักษาน้ำเหลืองด้วยการขันชะเนาะ)อันนี้จะได้ประโยชน์มากเลย
หรือใช้การนวดไล่น้ำเหลืองช่วยได้ ช่วยสร้างภูมิต้านทาน(=แนวคิดเหมือนวิธีหมอลดาวัลย์บ้านสวนใช้ก่อนฝังเข็ม)

การออกกำลังกาย เมื่อเหงื่อออก มีสารเอ็นโดฟินหลั่ง มีความสุข จิตใจผ่อนคลาย มีสมาธิ(เรา:เดินจงกรมเลย1ชม.จะเหงื่อออก นอนหลับสนิท ได้จิตสงบด้วย หลวงปู่สอนว่า“ไม่มีโรค“
หมอบุญชัย เผยแพร่11ก.พ61
https://youtu.be/Povxwy_rvBg

ประสบการณ์แกว่งแขนด้วยตัวเอง
อา.21เม.ย56 แกว่งแขนตามป้านิดเช้าเย็น1,000+1,000 ขมิบก้นให้หลังตรง เท้าจิกดิน
เพิ่มท่าย่อเข่าตอนนับ70→ที่100,200,300 ทำเป็นวันที่3 ส.20เม.ยทำวันที่2 พบว่าจมูกข้างซ้ายโล่ง จากที่ตัน เวลาสูดยาดม โล่งข้างเดียวคือด้านขวา



ออกกำลังกายเพื่อเพิ่มกล้ามเนื้อตา https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=894661853995892&id=727974550664624

เปลี่ยนวิธีกิน พิชิตโรคร้าย ความดัน เบาหวาน มะเร็ง คอเรสเตอรอล ฯลฯ ไม่ต้องรักษาด้วยยา นพ บุญชัย


https://youtu.be/kOglwM81Z5c

เริ่มที่19.26 "ธรรมชาตินี่ มนุษย์ต้องออกกำลังกายถึงจะได้อาหารมา ปัจจุบันเราทำตัวเป็นมนุษย์อวกาศ ไม่ลงน้ำหนัก ไม่เดิน นั่งกับนอนเป็นหลัก กระดูกฝ่อหมดเลย กระดูกพรุนนี่เกิดจากไม่ลงน้ำหนัก  หัวใจก็ไม่ได้ทำงานเต็มที่ ระบบหมุนเวียนเลือดก็ไม่ดี สมองไม่ถูกฝึกให้ทำงานแบบเต็มที่ ต่อมเหงื่อไม่ได้ทำงาน เหงื่อก็ไม่ออก ภาระไตก็เลยหนัก ไตก็เลยวาย

การออกกำลังกายเป็นความจำเป็นที่ต้องทำทุกวัน แต่ขอไม่มากครึ่งชม.พอ ขอให้ได้เหงื่อ ขอให้ได้หอบหายใจเพื่อไปล้างอากาศเสียชายปอดนั้นขึ้นมาแค่นี้ ทำงานบ้านบ้าง


ป้ามุญมี เครือรัตน์ : บริหารร่างกายด้วยไม้พลอง 


รูปและวิธีในการรำไม้พลอง

1. เขย่าเข่า
ยกขาข้างใดข้างหนึ่งพาดบนโต๊ะ เก้าอี้ หรือสิ่งที่รองรับน้ำหนักได้
ความสูงหรือต่ำของโต๊ะขึ้นอยู่กับสภาพของแต่ละบุคคล
ขาข้างที่ยืนย่อเล็กน้อยพยายามให้หลังตรงให้มากที่สุด
ใช้มือทั้งสองข้างจับที่เข่าและเขย่าขึ้นลงจนครบ 99 ครั้ง
เปลี่ยนข้างทำเช่นเดียวกันจนครบอีก 99 ครั้ง
(ท่านผู้อ่านเริ่มต้นควรทำจากน้อยๆเช่น 30 ครั้ง ก่อน)

2. เหวี่ยงข้าง
ยืนตรง แยกขาให้ห่างกันพอสมควรดังรูป
หน้ามองตรงไปข้างหน้า มือทั้งสองข้างจับปลายไม้
วาดไม้ออกด้านข้างลำตัวทางขวาขึ้นตั้งตรง
พร้อมกับโยกตัวและย่อเข่าลงนับหนึ่ง(สังเกตท่าดังรูป)
วาดไม้ไปทางซ้ายทำเช่นเดียวกันนับสอง..
ทำสลับกันไปจนครบ 99 ครั้ง


3. พายเรือ
ยืนตรง แยกขาพอสมควร หน้ามองตรง
มือทั้งสองข้างจับปลายไม้ และตั้งขึ้นด้านข้าง
ลำตัวทางขวา(มือขวาอยู่ล่าง มือซ้ายอยู่บน)
วาดแขนซ้ายจากแนวตั้งไปแนวนอน
ส่วนแขนขวาจะถูกผลักไปด้านหลังจนสุด
ลักษณะคล้ายการพายเรือ นับหนึ่ง
ทำซ้ำหลายๆครั้งจนครบ 99 ครั้ง
เปลี่ยนข้างทำเช่นเดียวกันจนครบ 99 ครั้ง
(พายข้างใดให้เอามือข้างนั้นถือปลายไม้ด้านล่าง)


4. หมุนกาย/หมุนเอว
ยืนตรง แยกขาสองข้าง ใบหน้ามองตรง
มือทั้งสองข้างจับที่ปลายไม้พลอง
วาดไม้ในแนวนอนไปด้านข้างทางขวา
และหมุนลำตัวให้รู้สึกตึงกล้ามเนื้อ
พร้อมย่อเข่าขวานับหนึ่ง
วาดไม้และหมุนตัวไปทางซ้าย
ทำเช่นเดียวกันนับสอง ทำสลับกันไปจนครบ 99 ครั้ง


 
5. ตาชั่ง
ยืนตรง แยกขาสองข้าง ไม้พาดบ่าดังรูป
(แต่ต้องระวังอย่าให้กดที่คอ เริ่มต้นต้องช่วยเลื่อนให้ไม้ลงมาที่บ่า)
แขนทั้งสองข้างโอบปลายไม้ไว้ โดยใช้ข้อมือ
เอียงตัวไปทางขวา และวาดปลายไม้ข้างเดียวกันลงมา
พร้อมย่อเข่าซ้าย นับหนึ่ง เอียงตัวไปทางซ้าย
ทำเช่นเดียวกันนับสอง ทำสลับกันไปจนครบ 99 ครั้ง


6. ว่ายน้ำวัดวา
ยืนตรง แยกขาสองข้างดังรูป หน้ามองตรงไปข้างหน้า
ไม้พาดบ่า แขนทั้งสองข้างโอบปลายไม้ไว้
วาดปลายไม้ให้เป็นวงเหมือนว่ายน้ำไปข้างหน้า
วนรอบให้ได้ 1 รอบ นับหนึ่ง ทำซ้ำจนครบจำนวนที่ต้องการ


7. กรรเชียงถอยหลัง
ยืนตรง แยกขา หน้ามองตรงไปข้างหน้า
ไม้พาดอยู่บนบ่า แขนทั้งสองข้างอ้อมโอบปลายไม้ไว้
วาดปลายไม้ด้านซ้ายให้เป็นวงไปข้างหลัง
(ด้านขวาก็จะเป็นวงไปอีกด้านหนึ่งพร้อมๆกัน)
เหมือนว่ายน้ำท่ากรรเชียงถอยหลังให้ได้ 1 รอบ นับหนึ่ง
ทำซ้ำจนครบ จำนวนที่ต้องการ


8. ดาวดึงส์
ยืนตรง ส้นเท้าทั้งสองข้างชิดกัน
ปลายเท้าแยกดังรูปใบหน้ามองตรง ไม้พาดบนบ่า
แขนทั้งสองข้างโอบปลายไม้ไว้
วาดปลายไม้ลงด้านข้างทางขวา
โดยให้ความรู้สึกที่ตึงที่สุดที่ทำได้
ปลายไม้ด้านซ้ายก็จะวาดขึ้นด้านบนโดยอัตโนมัติ นับหนึ่ง
อีกครั้งให้วาดปลายไม้ลงทางด้านซ้าย โดยที่ปลายไม้ด้านขวา
จะวาดขึ้นด้านบนโดยอัตโนมัติ แล้วนับสอง ทำสลับกันไปจนครบ


9. นกบิน
ยืนตรง แยกขาสองข้าง หน้ามองตรง ไม้พาดบ่า แขนทั้งสองข้างโอบปลายไม้ไว้โดยใช้ข้อมือ
หมุนลำตัวและไหล่ไปทางขวาตามแนวราบให้ไม้ชี้ไปข้างหน้า
พร้อมย่อเข่าขวาลงเล็กน้อยเพื่อความสมดุล นับหนึ่ง
แล้วทำลักษณะคล้ายกันโดยหมุนตัวไปทางด้านซ้าย
ทำเช่นเดียวกัน นับสอง ทำสลับกันไปจนครบจำนวนที่ต้องการ


 
10. ทศกัณฑ์/โยกตัว
ยืนตรง แยกขาสองข้างเพื่อความมั่นคง ใบหน้ามองตรง
จับไม้พลองห่างประมาณลำตัว แขนทั้งสองห้อยทิ้งลงด้านหน้า
มือสองข้างจับไม้พลองตามแนวราบ ไว้ที่หน้าต้นขา
ค่อยๆย่อเข่าขวาพร้อมโยกตัวไปทางขวา
ให้ไม้พลองยังขนานอยู่กับพื้น นับหนึ่ง
ทำซ้ำโดยย่อเข่าซ้าย โย้ตัวไปทางด้านซ้าย
ทำเช่นเดียวกันนับสอง ทำสลับกันไปจนครบ


11. ยกน้ำหนัก/จับไม้ข้ามหัว
ยืนตรง แยกขา หน้ามองตรง แขนทั้งสองข้างห้อยลง
มือจับไม้ไว้ที่หน้าต้นขาเช่นเดียวกับท่าที่สิบ
ค่อยๆวาดไม้ข้ามศีรษะและดึงลงด้านหลังของศีรษะ
ลงมาช้าๆจนไม้พลองหยุดในท่างอข้อศอกให้รู้สึกตึงที่สุด
จากนั้นวาดไม้ข้ามศีรษะกลับมาอยู่ในท่าเดิมนับหนึ่ง
ทำซ้ำจนครบ จำนวนที่ต้องการ


12. นวดตัว
ยืนตรง แยกขา ใบหน้ามองตรง แขนทั้งสองข้างห้อยลง
มือจับไม้พลองให้ขนานพื้นไว้ที่หลังต้นขา
ค่อยๆ ย่อเข่าลงทั้งสองข้างให้สมดุลย์
(ไม่ควรย่อเข่าให้เกินกว่ามุมฉาก)
ใช้ไม้นวดหรือคลึงขึ้นลง บริเวณหลังต้นขา ก้น
และบริเวณหลังระดับเอวตามใจชอบ
ค่อยๆยืดเข่าขึ้นยืนจนตรง นับหนึ่ง
ทำซ้ำจนครบจำนวนที่ต้องการ


ข้อแนะนำสำหรับผู้ที่เริ่มฝึกใหม่
1. การย่อเข่าควรย่อไปในทิศทางเดียวกับปลายเท้า (ไม่ใช่บิดเข่าเพราะอาจปวดได้)
2. ไม่ควรย่อเข่าเกินกว่ามุมฉาก(90 องศา) เนื่องจากอาจทำให้ปวดเข่าได้       
3. ความกว้างของการย่อเข่าการหมุนเอวและการหมุนไหล่ควรทำเพียงเท่าที่จะทำได้
4. หากมีอาการเจ็บขณะหมุนตัว ไม่ควรเคลื่อนไหวเกินระยะกว้างกว่าจุดที่เริ่มเจ็บ
5. สำหรับผู้ฝึกใหม่ควรเริ่มพร้อมกับคนอื่นๆเพื่อให้เกิดความสนุกสนานและมีเพื่อนฝึก
6. ผู้บริหารวิธีนี้  ไม่จำเป็นต้องจำกัดท่าทางเพียงสิบสองท่า สามารถลดหรือเพิ่มท่าได้
ตามที่ท่านและเพื่อนๆต้องการ และเห็นว่าท่าไหนทำให้หายปวดก็ทำเพิ่มได้
7. กลุ่มผู้บริหารร่างกาย ควรมีการแลกเปลี่ยนพูดคุยกันกับเพื่อนๆในกลุ่มว่าท่าไหนดี
ท่าบริหารไหนที่ไม่ดี เพราะการคิดค้นท่าขึ้นเองบ้างจะทำให้รู้สึกมีส่วนในการฝึก


***********

แกว่งแขน




สอนแกว่งแขนอย่างถูกวิธี

https://youtu.be/EirpxHlEJA4



ท่าฤาษีดัดตนพื้นฐาน 15 ท่า


การบริหารแบบไทยๆท่าฤาษีดัดตน












ท่าที่1