วันเสาร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

ยาหอม



ยาหอมไทยแต่ดั้งเดิมมา
                                 บทความโดย แพทย์แผนไทยคมสัน  ทินกร ณ อยุธยา
            คลินิกการแพทย์แผนไทยหม่อมราชวงศ์สอาด ทินกร ในเครือบริษัทภูลประสิทธิ์ จำกัด
                                                         โทร 086-378-8859            
       
          ยา-หอม แสดงว่ายานั้นต้องหอม โบราณตรงไปตรงมาแบบนี้เสมอ แล้วยานั้นหอมได้อย่างไร หอมแบบไหนทำอย่างไร และใช้อย่างไร ตำรับยาต้องประกอบด้วยสมุนไพรสองชนิดขึ้นไปเสมอ ยาหอมจึงเป็นยาไทยที่ปรุงจากเครื่องหอมหลากหลาย บางชนิดมาจากพืชบ้างสัตว์บ้างและแร่ธาตุต่างๆบ้าง มาทั้งจากต่างประเทศเรียก เครื่องหอมเทศ และมาจากถิ่นที่ของตนในที่นี้ขอเรียก เครื่องหอมไทย นำมาผสมผสานกัน ได้เครื่องหอมเป็นยา ซึ่งความหอมที่ได้นั้นเป็นส่วนหนึ่งของสรรพคุณรักษาด้วย หมอไทยจึงทำยานั้นให้หอมได้เป็นการรักษาทางกลิ่นสัมผัส  ในแผนไทยเรากำหนดสรรพคุณของสมุนไพรด้วยรสของสมุนไพรนั้น โดยแบ่งเป็น ๙ รส จะขอกล่าวเพียง ๒ รส คือ รสหอมร้อน และ รสหอมเย็นเมื่อนำมาทำเป็นยาหอมจะได้ยาหอม  ๒ รส คือ ยาหอม ออกทางร้อน และยาหอมที่ไม่ร้อนไม่เย็น เรียก ยาหอม ออกทางสุขุม ใช้รักษาอาการทางลมที่แตกต่างกันเป็น ๒ กอง คือกองลมในไส้,นอกไส้ ใช้ยาหอม ออกทางร้อน    และกองลมตีขึ้นเบื้องบน  ใช้ยาหอม ออกทางสุขุม แต่ถ้าจะกล่าวโดยละเอียด ยาหอมสุขุม ยังแบ่งออกเป็น ยาหอมสุขุมร้อน และยาหอมสุขุมเย็นอีก ที่หมอไทยแบ่งออกโดยละเอียดด้วยเหตุที่ลมร้อนนั้นร้อนต่างกัน ลมจึงไปก่ออาการได้หลายตำแหน่งในร่างกาย ตามธรรมชาติของความร้อนไอร้อนที่ลอยขึ้นบนเสมอ
          ยาหอม รสร้อนทำจากสมุนไพรรสหอมร้อนเป็นหลักเพื่อเข้าไปสร้างลมเพื่อกระจายลมในช่องท้องให้ออกมา อาการท้องอืดเฟ้อเรอ จุกเสียดแน่นในท้องจะลดลง ส่วนใหญ่ที่วางขายในท้องตลาดจะเป็นยาหอมรสนี้เป็นส่วนมาก
          ยาหอม รสสุขุมร้อนทำจากสมุนไพรรสหอมร้อนมากกว่ารสหอมเย็น โดยสมุนไพรรสหอมเย็นต้องผ่านกรรมวิธีอบกระแจะหอมเสียก่อน แล้วนำมาผสมเข้ากัน ปรุงด้วยเครื่องหอมอีกครั้ง ไม่ใช่แค่นำมาบดแล้วผสม ใช้แก้กองลมที่ตีเข้าอกเรียก "ลมแน่นเข้าอก" ทำให้แน่นเสียดในอก ขึ้นถึงคอเรียก"ลมจุกคอ" กลืนไม่เข้า คายไม่ออก
          ยาหอม รสสุขุมเย็นทำโดยนำกระแจะหอมมาผสมกับน้ำกระสายยาที่มีรสหอมเย็นเพื่อให้หอมเย็นมากยิ่งขึ้นถึงจะนำไปผสมกับสมุนไพรรสหอมร้อน ใช้แก้กองลมร้อนตีขึ้นเบื้องสูง มึนหัว เวียนหัว หน้ามืดตาลาย คล้ายจะเป็นลม คลื่นไส้ผะผืดผะอม ทรงตัวไม่อยู่โคลงเคลงไปมา ปวดลมปะกัง ลมปะกังออกตา(ปวดเบ้าตา ตาร้อนผ่าว ตาแดง ตาแห้ง ความดันออกตา)
          ยาหอมรสร้อนทำเพียงบดผสมเข้ากัน แล้วปรุงพิมเสนเพิ่มเท่านั้น  แต่ยาหอมรสสุขุมออกร้อน และรสสุขุมออกเย็นต้องผ่านกรรมวิธีปรุงอบกระแจะหอมเสียก่อน แล้วถึงจะนำไปผสมกับเครื่องหอม อันประกอบไปด้วย ชมดเช็ด/ชมดเชียง/อำพันทอง/อำพันขี้ปลา/พิมเสนในปล้องไม้ไผ่/หญ้าฝรั่น เป็นต้น  ยาหอมรสร้อนจึงใช้เพียงแก้ลมในไส้,นอกไส้ ควรใช้ยาหอมแก้ให้ถูกกับกองลมที่เกิดอาการจึงได้ผลดีกว่า
          ขอแยกอาการตามกองลมที่เกิด และการใช้ยาหอมตามรสของยาดังนี้
๑   กองลมในไส้-นอกไส้          ท้องอืดเฟ้อเรอแน่นจุกเสียดในท้อง          ยาหอมรสร้อน
๒   กองลมตีขึ้นบนแค่อกคอ      แน่นหน้าอก  จุกคอกลืนไม่เข้าไม่ออก     ยาหอมสุขุมร้อน
๓   กองลมตีขึ้นถึงศีรษะ           เวียน/มึน/หนักๆในหัว,ปวดหัว,เป็นลม     ยาหอมสุขุมเย็น
          ยาหอมเป็นยาสามัญประจำบ้านมาแต่โบราณ ใช้บรรเทามิได้รักษา และเมื่อบรรเทาแล้วต้องพบแพทย์เพื่อรักษาต่อไป ขอยกตัวอย่างยาหอมในบัญชียาหลักแห่งชาติและวิธีการวางยาให้ถูกต้องดังนี้

                                           ยาหอมรสร้อน-สุขุม (ยาหอมนวโกฏ)
สรรพคุณ  แก้ลมอันเกิดแต่กำเดา(ไอแห่งความร้อน) ที่ทำให้ท้องเต็มไปด้วยลม อืด/เฟ้อ/เรอบ่อย ลดอาการผะอืดผะอม เพิ่มลมเบ่งอุจจาระสำหรับอาการท้องผูกจากลมเบ่งหย่อน
                                          ยาหอมรสสุขุม-ร้อน (ยาหอมทิพโอสถ)
สรรพคุณ  แก้กองลมแน่นเข้าอก จุกเสียดในอก แก้กองลมจุกเข้าคอ กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
                                          ยาหอมรสสุขุม-เย็น  (ยาหอมเทพจิตร)
สรรพคุณ  แก้กองลมเสียดราวข้าง แก้กองลมที่ตีขึ้นเบื้องบนทำให้ หน้ามืดตาลาย วิงเวียน ตามัวตาพร่าตาฝ้าลมออกตา ลมปะกัง หนักๆมึนๆในศีรษะ

          ใช้ยาหอม ภูมิปัญญาแห่งบรรพชนไทยให้ถูกต้องไม่ใช่เป็นลมหน้ามืดแต่ไปใช้ยาหอมรสร้อน สุขุมร้อนหรือท้องอืดเฟ้อ แต่ไปใช้ยาหอมสุขุม แล้วบอกว่าไม่ดีไม่เห็นหาย ก็ใช้ผิดจะไปหายได้อย่างไร แต่เมื่อรู้แล้วใช้ให้ถูกต้องแล้วบอกผู้อื่นเป็นความรู้ต่อไป มีข้อเพิ่มเติมอีกนิดว่า ถ้ามีอาการลมขึ้นบนบ่อยๆให้ทานยาเขียว/ยาขม ร่วมด้วยจะทุเลาหายเร็วขึ้น เพราะยาเขียว/ยาขมเป็นยาเย็น ผ่อนร้อนภายใน ไฟหายลมสงบ
          แต่หากจะรักษากองลมไม่ให้มากไป-น้อยไป โบราณใช้น้ำกระสายยาช่วยลดบรรเทาดังนี้
                                            น้ำกระสายยาลดความร้อนภายใน(เย็น)
- ส่วนประกอบ   ดอกไม้หอม(แล้วแต่หาได้)เช่น มะลิ,กระดังงา,กุหลาบ เป็นต้น  คำฝอย,คำไทยมีขายในรูปแบบชาชง  ชาเขียว,ใบบัวบก  ผลไม้เย็นเช่น สตอเบอรี่,มังคุด,เงาะ เป็นต้น
- วิธีทำ   นำทั้งหมดลงต้ม ยกเว้นดอกไม้ใส่ภายหลัง แล้วกรองปล่อยให้เย็น เติมน้ำใบเตยคั้น ปรุงรสเปรี้ยวหวาน
- วิธีใช้   กินอุณหภูมิปกติ ดื่มแทนน้ำได้ ช่วยผ่อนร้อนให้เย็นแบบสุขุมนุ่มนวล
                                                น้ำกระสายยาลดลมภายใน(ร้อน)
- ส่วนประกอบ   ขิง/ใบสะระแหน่/ตะไคร้แกง/ลำไยแห้ง/
- วิธีทำ   นำทั้งหมดลงต้ม แล้วกรอง ปรุงรสหวานนิดเปรี้ยวหน่อยพออร่อย
- วิธีใช้   กินอุณหภูมิปกติ ดื่มแทนน้ำ หลังอาหารยิ่งดี ช่วยย่อยขับลม ลดอืดเฟ้อแต่ไม่เรอ
   
          ลมมากินอาหารรสร้อนพร้อมน้ำกระสายยาร้อนต่างน้ำ  ร้อนมากินอาหารรสเย็นพร้อมน้ำกระสายยารสเย็นต่างน้ำ  โบราณใช้รักษาลมไม่ให้เป็นลม ไม่เกิดลมสวิงสวายทำให้กระสับกระส่าย นี่แหละภูมิปัญญาจากคนโบราณสำหรับคนเดี๋ยวนี้ ทำเองทำได้ไม่ป่วย

https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=10210973547929001&id=1663058808

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น