วันจันทร์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2560

น้ำฉี่








*********************************************************************************************



ใช้น้ำปัสสาวะคู่กับยาได้ไหม โดยหมอเขียว
https://youtu.be/m4Y20cqU9ks
(6:03) ให้เคมีบำบัด ไตวาย ตัวบวม ต้องสวนฉี่ (เรา:นวลมีอาการนี้หลังให้คีย์โม)

สมุนไพรในตัว(=ฉี่)  โดยหมอเขียวhttps://youtu.be/ahtyz2zezWY

พลังพิเศษของน้ำฉี่ https://youtu.be/VJZcLG0uKrM โดยหมอเขียว



********************************************************************************************



พระพุทธเจ้าตรัสถึงน้ำมูดคูตร
การ์ตูนพระพุทธศาสดา ตอนที่44 ดับขันธปรินิพพาน
https://youtu.be/Cu14FkjZRao?list=PL48B7BF14EDAE49FB
3.50 สุภัททะเธอจงดำรงเพศบรรพชิต โดยการอาศัยอาหารบิณฑบาตร อาศัยผ้าบังสกุลจีวร อยู่ตามรุขมูลเสนาสนะ รักษาสังขารด้วยน้ำมูลมูตรให้เป็นไปตามอัตภาพอันควรเถิด



*********************************************************************************

การดื่มน้ำฉี่ 

ควรดื่มฉี่รสจืดตอนเช้าหลังตื่นนอน ครึ่ง-1แก้ว(100-200ซซ) 
แต่ถ้ารสฉี่จัดมาก ให้ดื่ม1-2ช้อนแกง แล้วดื่มนำ้ตามมากๆ ถ้าดื่มฉี่รสจัดไตจะเสีย

ประโยชน์

ในฉี่มีสารต้านมะเร็ง สร้างภูมิต้านทานโดยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างเม็ดเลือดขาว ไล่กินสิ่งที่เป็นพิษ 

รักษาตาแดง(ประสบการณ์ตัวเองนับว่าได้ผล) วิธีใช้ ให้แตะน้ำฉี่รสจืดหรือรสจัดผสมน้ำให้เจือจางที่หัวตา1-2หยด 1-10วินาทีแรกจะแสบเล็กน้อย หลังจากนั้นจะเย็น

เคืองตาจากใช้คอมฯใช้ฉี่หยอด

น้ำฉี่ใส่แผลสดจะหายไวแก้ปวดแผล(ประสบการณ์ตัวเองนับว่าได้ผล)

ที่มา:หมอเขียว.ถอดรหัสสุขภาพเล่ม1ร้อน-เย็นไม่สมดุล หน้า77-78.




************************************************************************************
   .  

ประสบการณ์ที่ใช้กับตนเอง
1. ผื่นคันที่เท้า ซอกนิ้วระหว่างนิ้วชี้กับนิ้วโป้ง ราดด้วยฉี่สด ทิชชูชุบฉี่สดแปะทิ้งไว้ เย็นสบาย กลางคืนพอกแป้งดินสอพอง ถ่าน  ฉี่สด



2. แผลที่โคนนิ้วชี้ขวา เบ๊วกัดลึกเกือบถึงกระดูก  ราดด้วยฉี่สด ทิชชูชุบฉี่สดแปะทิ้งไว้ เย็นสบาย กลางคืนแปะทั้งคืน จากแผลที่บวมจนจะถอดใจไปโรงพยาบาล ยุบลงได้

3. เหงือกซ้ายบนตรงที่อุด บวม อมฉี่สดทุกครั้งที่ฉี่ 2 วันมั้ง ยุบ

4. ปวดฟันกรามล่างขวา อมฉี่สดทุกครั้งที่ฉี่ 2 วันมั้ง แต่ต้องงดของหวาน3วัน และย้ายข้างเคี้ยวข้าว2 วันมั้ง

5. แผลร้อนในริมฝีปากบนขวา อมฉี่สด
6. ระบายทำให้ถ่ายสะดวก จบเป็นน้ำเหมือนดีท็อก โดยก่อนถ่ายดื่มฉี่ที่เก็บตอนแรกของตื่นนอน ผลจากตัวเอง ศ.11ต.ค56 , พฤ.26ก.ค61
7.จ.15เม.ย56 แช่น้ำฉี่นิ้วหัวแม่โป้งเท้าขวา วันนี้วันที่2 เชื้อราหายไปตั้งแต่วันแรก เชื้อรานี้ได้หาหมอผิวหนังที่รามาฯหลายครั้ง ไม่หาย
8.อา.21เม.ย56 ดื่มน้ำฉี่ครบ7วันวันนี้ เอาหมักผมด้วยตอนอาบน้ำ ผมนุ่มไม่แห้งเป็นกาบมะพร้าว ไม่วูบๆ ไม่รู้เพราะน้ำฉี่ไหม ก็ดีใจแล้ว



คันง่ามนิ้วเท้าขวาและหลังเท้าขวาบวม
11 พ.ค.-       59 

เหตุ: พ.11พ.ค.59 ก่อน 3 โมงเช้าที่ร้านข้าวแกงบ้านสวน 2 ระหว่างที่เราเดินดูร้านขายขนม ซึ่งอยู่ใกล้กับบันได ปกติจะเดินก้มหน้าดูพื้นและกำหนดรู้ว่าเดินบนทางแบบใด แต่อยากกิน จึงขาดสติ ก้าวเดินพลาดทางต่างระดับ หกล้ม สติมาว่านั่งนิ่งๆ อย่าเพิ่งขยับ รอสักครู่จึงลุกขึ้นเอง

อาการ : เจ็บเท้าขวา เดินกระเผก

แก้ไข: เย็นพ.11พ.ค.59 แช่เท้าในถุงฉี่สดหน้ากุฏิ + กินยาลูกกรอนหลวงปู่ 4 เม็ด โดยที่ก่อนกินคิดว่า เดินทางมาไกล ขาดสติ ทำให้ขาเจ็บ พรุ่งนี้จะเดินจงกรมไม่ได้ เสียดาย
เช้าพฤ.12พ.ค.59 อัศจรรย์ เดินได้ดีขึ้นกว่าเมื่อวันพ. แม้เท้าจะบวม จึงเดินจงกรมทั้งวัน
ศ.13-22พ.ค.59 เดินจงกรม ไปตลาด แม้เท้าจะบวมและเจ็บถ้าเดินนานๆ
ประมาณอา.22พ.ค.59 ทายาหม่องฟ้าทะลายโจรของบ้านสวนที่หลังเท้าขวา นวดและใส่ถุงเท้านอน สบาย จ.23พ.ค. ยาหม่องฟ้าทะลายโจรขวดเดิม วันนี้ร้อนจึงเป็นน้ำมันเหลวๆ ทาหลังเท้าขวาและนิ้วเท้า ใช้ไม้กัวซาขูดจากข้อเท้าไปยัปลายนิ้ว ขูดแรง เพื่อให้พิษระบายออก นำ้มันไหลไปตามซอกนิ้วเท้าขวา ต่อมาขึ้นผื่นเป็นตุ่มใสที่ง่ามนิ้วเท้านั้น คัน แสบร้อน
แก้ไข: จ.23พ.ค.59 ถ่าน ฉี่สด แป้งดินสอพอง ผสมกันทาที่หลังเท้าขวา สบาย แต่แป้งแห้งเร็ว จึงทาซำ้ๆ ระหว่างทาสบาย แป้งแห้งแสบร้อน เย็นนั้นแช่ฉี่สดใส่ถุงประมาณ30นาที เผลอเกานะหว่างนอน
 อ.24พ.ค59 เช้าแช่ฉี่สดในถุงพลาสติก ดูว่าหนังเหี่ยวจึงหยุด สัก2ทุ่มแช่ฉี่สดในถุงพลาสติก แช่3นาทียกขาออก1นาที ทำ3รอบ สบายกว่าแช่ตลอด30นาที นอนได้ทั้งคืนไม่เกา


  พ.25 พ.ค.59  เช้ายังมีอาการคันที่ง่ามนิ้วเท้าขวา หักใจไม่เกา 9.30น.แช่ฉี่สดในถุงพลาสติก แช่3นาที ยกขาออก1นาที ทำ3รอบ  สบาย ไม่คัน ไ่ม่แสบร้อน อยู่ได้โดยไม่ต้องใช้ถ่านแป้งฉี่สดพอก 20น.เศษแช่ฉี่ที่เก็บใส่ขวดไว้ตั้งแต่กลางวัน เย็นสบายกว่าฉี่สด วันนี้งดเดินจงกรม นั่งสมาธิแทน เพื่อพักเท้าขวาที่ยังบวมอยู่

 ศ.27 พ.ค.59(เจ็บเท้าเป็นวันที่17) ปั่นผักกาดแก้ว อ่อมแซบ กล้วยน้ำว้า2ลูก ลิ้นจี่ มะเขือเทศ เนื้อมะขามเปียก กะทิครึ่งกล่องเล็ก มะม่วงสุก ขิง น้ำกรองไม่เย็นเกือบเต็มโถปั่น  กิน1แก้วสแตนเลส (สบาย) เพิ่งกินเป็นวันแรกเพราะพุธที่แล้วเทศบาลมาฉีดน้ำยาป้องกันยุงลาย วันนี้เป็นวันที่10 น่าจะไม่เป็นพิษ 
ไม่มีอาการคันและแสบร้อนแล้ว ตอนเช้า09:00น. นั่งกินข้าวตากแดดมี่พักบันไดหลังสัก 30 นาที ใส่กระโจมอกตากแดดหน้าหลัง (สบาย) เอาเท้าจากแดดด้วย บวมลดลงมาก
แช่ฉี่ที่เก็บใส่ขวดเยอะ ท่วมถึงหลังเท้าขวา ใช้สูตรแช่3พัก1นาที ทำ3 ชุด 
งดเดินจงกรมนั่งสมาธิเป็นวันที่3 ช่วยให้เท้าขวาไม่มีอาการเจ็บเป็นวันแรก จึงลองเดินจงกรม กลับมาเจ็บอีก จึงหยุดเดิน




แผลจากเบ๊วกัดระหว่างส.19 12 58-08 01 59 รวม 20 วัน

สภาพแผลวันที่ 20 / 08 01 59 แผลหายเกือบสนิท หนังไม่ลอกเพิ่มแล้ว ถูกน้ำได้แล้ว


สภาพแผลวันที่ 18 / 06 01 59 หนังลอกกว้างกว่าเมื่อวาน ใช้กรรไกรตัดเล็บคอยๆตัดออก รู้สึกร้อนที่แผล ใช้ฉี่สดราดบ้าง1-2ครั้ง พยายามไม่ให้แผลถูกน้ำ



สภาพแผลวันที่ 17 /5 01 59 หลังมือที่เคยบวมค่อยๆยุบลง วันนี้เห้นเส้นเลือดชัดขึ้น ที่ข้อนิ้วชี้มีเหี่ยวๆให้เห็น


สภาพแผลวันที่ 13


สภาพแผลวันที่11


สภาพแผลวันที่ 8 27 12 58 ดีขึ้น ใช้สำลีแผ่นชุบฉี่สดแปะแผลไม่ต้องรัดด้วยพลาสเตอร์ แผลแห้งดีกว่าเมื่อวาน
ถ้าใช้สำลีไปนานๆยิ่งเย็นสบายทำให้ที่ฐานนิ้วชี้ขวาแดงลดลง จึงไม่มีน้ำเหลืองไหล ทำให้วันนี้งดบีบหนอง

25 12 58 19.00น.หลังมือบวมและมีถ่านที่ทาล้างไม่ออก






สภาพแผลวันที่ 6




สภาพแผลวันที่ 5 พอกถ่านผสมฉี่สดเป็นครั้งแรกเพื่อดูดหนอง โดยใช้ช้อนพลาสติกผสมผงถ่านบดละเอียด1/4ของช้อน+ฉี่สด เอาคัตตอนบัดจุ่มแล้วทาแผล ทาหลังมือจนทั่วถึงข้อมือ ทาฐานนิ้วที่แดง เย็นสบายทันที ดมแผลไม่มีกลิ่น
ตลอดบ่าเย็นดื่มน้ำย่านางคั้นสด 20 ใบต่อน้ำ 1 เหยือกเต็ม ดื่ม 2 แก้วสแตนเลสประใาณ1400ซีซี เย็นสบาย แม้จะบวมที่แผล แต่เห็นเส้นเลือดที่หลังมือ 1 เส้น กัวซาหลังมือไม่ให้ถูกแผลที่นิ้วชี้ขวา แต่ขูดสุดปลายนิ้วอืนๆ สบาย
19.20 น.แช่แผลในถุงพลาสติกใส่ฉี่สด กำมือบีบให้หนองไหล มีเลือดปนออกมาเป็นครั้งแรก อาจจะหนองถูกบีบใกล้หมดแล้ว

สภาพแผลวันที่ 4 สาหัสสุด น้ำเหลืองสีขุ่นที่ไหลมีกลิ่นเหม็น ตัดสินใจบีบออก บ่าย 3 ดื่มฉี่สด 1 แก้ว 200ซีซี เพิ่มจากดื่มตอนเช้าวันนี้เป็นวันแรกที่ดื่มบ่ายด้วยหลังกินส้มโอ



สภาพแผลวันที่ 3 ยังบวม ฐานนิ้วแดง

จ. 21 12 58 สภาพแผลวันที่ 2 ยังบวม ราดฉี่สด 3-4 ครั้ง
2 ทุ่ม ใช้ถุงร้อน+เกลือสมุทร 1 ช้อนโต๊ะใส่น้ำอุ่น จุ่มมือ 3 ครั้ง 3 นาทียกขึ้น 2 นาทีทำ 3 รอบ มีน้ำเหลืองไหลออกมาเป็นครั้งแรก
                     

 อา.20 12 58 สภาพแผลวันที่ 1บวมเป่งเป็นครั้งแรก วันนี้ฉี่ออกมาทุกครั้งรดแผลทุกครั้ง
1 ทุ่มใช้ถุงร้อน+เกลือสมุทร 1 ช้อนโต๊ะใส่น้ำอุ่น จุ่มมือ 3 ครั้ง 3 นาทียกขึ้น 2 นาทีทำ 3 รอบ สบาย


ส.19 ธ.ค.58ใช้ฉี่สดของเราราดแผลทันทีหลังถูกกัด จากนั้นราดอีก2 ครั้ง ในรูปข้างบนเป็นแผลจากการราดฉี่ครั้งที่3  แผลแห้งไม่บวม เจ็บลดลง







เชื้อราหัวแม่โป้งตีนขวา

จ.15เม.ย56 แช่นิ้ฉี่วหัวแม่โป้งและนิ้วตีนขวาเป็นวันที่2 สังเกตุเชื้อราที่นิ้วหัวแม่โป้งตีนขวาหายไปตั้งแต่เมื่อวานที่แช่ฉี่เป็นวันแรก




********************************************************************************

แบ่งปันประสบการณ์






  4:08 ตาขาวขุ่น
4:27 ต้อกระจก
4:54 คัดจมูก ใช้น้ำฉี่เช็ดจมูก
5:28 ใช้แทนยากันแดด อันนี้ดีมาก


https://youtu.be/BQZNZ_R0ZKU





ดื่มฉี่ช่วยเซลรับออกซิเจนมากขึ้น สร้างเม็ดเลือดมากขึ้น

ฉี่ คือน้ำส่วนเกินที่ร่างกายขจัดออกมาจากเลือดของเราเอง โดยไต (ที่ทำงานปกติ) ทำหน้าที่กรองอย่างดี ทำให้น้ำฉี่ใส มีสีเหลืองอ่อน รสเค็มนิด ๆ มีกลิ่นเหมือนแอมโมเนีย ฉี่เป็นน้ำที่มีอยู่ในร่างกายเราอยู่แล้ว เอามาดื่มเข้าไป จะไม่เป็นอันตรายต่อเราแน่นอน เพราะเป็นของตัวเราเอง และไตเป็นอวัยวะที่เปรียบเหมือนเครื่องกรองน้ำที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ที่สามารถกรองฉี่ได้ใสสะอาด จงจำไว้ว่า ไตไม่ใช่อวัยวะที่ขับของเสียออกจากร่างกาย แต่ของเสียที่เรากินเข้าไปจะถูกกำจัดโดยตับ ซึ่งเปรียบเหมือนโรงงานกำจัดขยะในร่างกาย และของเสียที่เป็นกากจะถูกขจัดออกมาทางลำไส้ (อุจจาระ) น้ำทางเหงื่อ และก๊าซทางหายใจออก

ดื่ม
ดื่มฉี่ตอนเช้า ช่วงกลางของฉี่ (Take the middle stream) โดยเริ่มต้นจาก 5 - 10 หยด ก่อนแล้วค่อยๆ เพิ่มจนถึง 1 แก้ว ประมาณ 100cc. มีประโยชน์ในการรักษาโรคทั่วไป
ล้างพิษ
ดื่มฉี่ตลอดทั้งวัน (ยกเว้นตอนเย็น) และดื่มน้ำสะอาดด้วย เป็นการล้างพิษจากร่างกาย โดยทำให้เลือดสะอาดขึ้น พิษ (Toxins) จะถูกกำจัดออกจากร่างกายทางอุจจาระ เหงื่อ และทางหายใจ
กลั้วคอ
เมื่อเรามีอาการเจ็บคอ ปวดฟัน และเมื่อมีอาการไอ เป็นหวัด


น.พ.ธรรมาธิกรี รัฐมหาราษฏระ จากอินเดีย ก็ได้ทดลองให้ผู้ป่วย 200 คน ดื่มน้ำปัสสาวะของตัว และติดตามผลทางการแพทย์อย่างใกล้ชิด พบว่าเมื่อดื่มน้ำปัสสาวะแล้ว เซลล์ในร่างกายจะสามารถรับออกซิเจนได้มากขึ้น การเผาผลาญในร่างกายดีขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้ร่างกายสร้างเม็ดเลือดมากขึ้น ในผู้ป่วยทุกรายส่งผลให้ปริมาณฮีโมโกลบินในเลือดสูงขึ้น

นางราตรี ระบุต่อว่า สำหรับสารเมลาโทนิน ซึ่งอยู่ในน้ำปัสสาวะนั้น นักวิทยาศาสตร์ชาวออสเตรเลีย พบว่า เมื่อดื่มเข้าไปจะช่วยให้จิตใจสดชื่น แจ่มใส สมาธิดีขึ้น และยังช่วยต้านความชรา ป้องกันมะเร็งได้อีกด้วย และที่สำคัญนักวิจัยหลายคนเชื่อว่า ปัสสาวะถือเป็นสิ่งดีสำหรับผู้ป่วยโรคเอดส์ เนื่องจากปัสสาวะของผู้ป่วยเอดส์ไม่ได้มีเพียงสารต้านมะเร็งเท่านั้น แต่ยังมีสารแอนติบอดีต่อเชื้อเอชไอวี-1 ด้วย 

http://yaamata.blogspot.com/2011/10/blog-post_28.html

แลกเปลี่ยนประสบการณ์  เป็นภูมิแพ้ขึ้นผื่น

ค่ายสวนป่านาบุญ ๓วันที่ ๑๔ มีนาคม ๒๕๕๘


https://youtu.be/kMqMZjDMS0M

เริ่มดูที่ 17.57 ตี 3 ดิฉันตื่นแล้ว เข้าห้องน้ำรองยาวิเศษซึ่งไม่เคยมี สิ่งเดียวที่ไม่เสียสตังค์ ตัวเองผลิตได้เอง ใส่ขวดรองไว้ก่อน

/////////////////////////


151020 1953 แลกเปลี่ยน การใช้น้ำปัสสาวะ รักษาโรค ช่วงที่ ๒
https://www.youtube.com/watch?v=l5BE1NTj2ks
08.55 แก้ส้นเท้าแตก
15.26 กรอกตาตอนเช้าใช้น้ำฉี่สด



151021 1940 แลกเปลี่ยนประสบการณ์ การใช้น้ำปัสสาวะรักษาโรค ตอนที่๓

https://www.youtube.com/watch?v=90UkHm5H7LM



************************************************************************************************************




" น้ำมูตรเน่า " (ปัสสาวะ) ยาแสนดีในสมัยพุทธกาล


ข้อความต่อไปนี้คัดลอกจากลิงค์ข้างบน

ฉี่ คือน้ำส่วนเกินที่ร่างกายขจัดออกมาจากเลือดของเราเอง โดยไต (ที่ทำงานปกติ) ทำหน้าที่กรองอย่างดี ทำให้น้ำฉี่ใส มีสีเหลืองอ่อน รสเค็มนิด ๆ มีกลิ่นเหมือนแอมโมเนีย ฉี่เป็นน้ำที่มีอยู่ในร่างกายเราอยู่แล้ว เอามาดื่มเข้าไป จะไม่เป็นอันตรายต่อเราแน่นอน เพราะเป็นของตัวเราเอง และไตเป็นอวัยวะที่เปรียบเหมือนเครื่องกรองน้ำที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ที่สามารถกรองฉี่ได้ใสสะอาด จงจำไว้ว่า ไตไม่ใช่อวัยวะที่ขับของเสียออกจากร่างกาย แต่ของเสียที่เรากินเข้าไปจะถูกกำจัดโดยตับ ซึ่งเปรียบเหมือนโรงงานกำจัดขยะในร่างกาย และของเสียที่เป็นกากจะถูกขจัดออกมาทางลำไส้ (อุจจาระ) น้ำทางเหงื่อ และก๊าซทางหายใจออก[COLOR=black]ฉี่ ประกอบด้วยอะไรบ้าง?
95% ของฉี่คือน้ำ
2.5% เป็น UREA
2.5% เป็นส่วนผสมของเกลือแร่, เกลือ, โฮโมน, เอ็มไซม์
และภูมิคุ้มกัน(Mixture of minerals, salt, hormones
enzymes and antibody)

- มีการวิจัยของนักวิทยาศาสตร์ ชาว Australia 2 คน พบว่า เมื่อดื่มฉี่จะทำให้เรามีสมาธิ จิตใจสดชื่น อารมณ์ดีขึ้น แจ่มใส เพราะในฉี่มีฮอร์โมน ชื่อ Melatonin จะพบในฉี่ตอนเช้า

- นอกจากนี้ในฉี่ยังมี Enzymes ที่ชื่อว่า "UROKINASE" ที่ช่วยละลายไม่ให้เลือดแข็งตัว ช่วยในกรณีคนเป็นโรคหัวใจอย่างรุนแรงได้

- ในงานวิจัย ค้นพบว่าฉี่ของแต่ละคนจะมีผลต่อการทำงานในร่างกายของแต่ละคน (เจ้าของฉี่) โดยจะทำหน้าที่เป็นวัคซีนธรรมชาติ เป็นตัวต่อต้านแบคทีเรียและไวรัส ต่อต้านสารก่อมะเร็ง ทำให้เกิดความสมดุลย์กับฮอร์โมน และช่วยเรื่องภูมิแพ้ (ฉี่ทำหน้าที่เป็น natural vaccines, antibacterial, antiviral, anti-cancer agents, hormone balances, allergy relievers)

ฉี่รักษาโรคอะไรได้บ้าง?

เท่าที่ได้อ่านตำราและค้นคว้าในเอกสารต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศ ปรากฏว่ารักษาโรคได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคที่เกิดจากภูมิคุ้มกันบกพร่อง เพราะฉี่จะไปปรับระดับภูมิคุ้มกันของร่างกายเรา (Immune System) ให้ดีขึ้น ทำให้โรคต่าง ๆ ที่เรื้อรังและร้ายแรงหายได้ เช่น ไข้หวัด ภูมิแพ้ กระเพาะอาหาร ปอด ไอและหอบหืด มะเร็ง และเอดส์ (Chronic Colds, Flu, Stomach Problems, Bronchitis Chronic and Severe Allergies, Asthma, Cancer and AIDS)


การใช้ฉี่มี 2 แบบ คือ แบบใช้ภายใน และแบบใช้ภายนอก

ใช้ภายใน >>


ล้างพิษ

ดื่มฉี่ตลอดทั้งวัน (ยกเว้นตอนเย็น) และดื่มน้ำสะอาดด้วย เป็นการล้างพิษจากร่างกาย โดยทำให้เลือดสะอาดขึ้น พิษ (Toxins) จะถูกกำจัดออกจากร่างกายทางอุจจาระ เหงื่อ และทางหายใจ


กลั้วคอ

เมื่อเรามีอาการเจ็บคอ ปวดฟัน และเมื่อมีอาการไอ เป็นหวัด


สวนก้น

ใช้ Detox โดยการสวนเข้าไปในก้น เพื่อล้างลำไส้ และ
เป็นการกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย (Stimulate Immune System)


หยอดหู, ตา

เมื่อมีอาการหูและตาอับเสบ โดยการใช้ฉี่ผสมกับน้ำสุกที่สะอาดหยอดหู และตา


สูดเข้าจมู

สูดเอาฉี่สด ๆ ตอนเช้าเข้าจมูกทั้งสองข้าง เพื่อล้างโพรงจมูก และคนที่เป็นไซนัส เป็นหวัด ภูมิแพ้ (น้ำมูกไหลเป็นประจำ)


ใช้ภายนอก >>

ใช้ทา, นวดผิวหนัง

โดยการนวดร่างกายทั้งหมดหรือบางส่วน โดยทิ้งไว้ประมาณ 1 ชม. แล้วล้างออก จะช่วยรักษาโรคผิวหนังได้ หรือผิวหนังที่โดนแดดเผา


ล้างเท้า

กรณีที่มีปัญหาที่ผิวหนัง และเล็บเท้า


ดื่ม

ดื่มฉี่ตอนเช้า ช่วงกลางของฉี่ (Take the middle stream) โดยเริ่มต้นจาก 5 - 10 หยด ก่อนแล้วค่อยๆ เพิ่มจนถึง 1 แก้ว ประมาณ 100cc. มีประโยชน์ในการรักษาโรคทั่วไป


สระผม

ช่วยทำให้ผมสะอาด และนุ่มสลวย และอาจจะทำให้ปริมาณผมมากขึ้น


ดื่มอย่างไร?

ดื่มฉี่ดีที่สุด คือ ตื่นนอนตอนเช้าใช้ฉี่ช่วงกลาง เราลองดื่มทดสอบก่อนประมาณ 5-10 หยด แล้วค่อย ๆ เพิ่มให้มากขึ้นได้ ถึง 100cc. หรือมากกว่านั้น แล้วแต่อาการของโรค และประเมินตัวเราเองว่าดีหรือไม่ดีสัก 1 อาทิตย์ผ่านไป บางคนอาจจะมีอาการระบายท้องบ้าง ถ้าดื่มมาก เราลองปรับเปลี่ยนปริมาณของตัวเองดู แต่ไม่มีอันตราย เพราะผมดื่มมานานแล้ว ครั้งแรกเมื่อปี 2540-2541 และเลิกไป ขณะนี้ผมกลับมาดื่มฉี่ใหม่ และดื่มอยู่ทุกวัน ผมเคยแนะนำหลายคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ลองดูก็ได้ผลดีมาก

สิ่งที่ผมทดลองและพิสูจน์แล้วได้ผล 100% คือ การหยุดเลือดกำเดาไหลออกจากจมูก โดยการสูดเอาฉี่เข้าจมูกข้างที่มีเลือดออกมา แล้วกดรูจมูกข้าวนั้นไว้ประมาณ 10 วินาที จากนั้นปล่อยฉี่ออกมาจากจมูกเลือดจะหยุดไหลทันที

การดื่มฉี่ครั้งแรกยากมาก เพราะเรามีความรู้สึกรังเกียจว่าเป็นของสกปรก เป็นของเสีย แต่ผมขอแนะนำให้ทำใจแข็ง อย่าไปคิดว่ามันมาจากไหน คิดว่าเป็นน้ำชา ดื่มแล้วเลยตามเลยอย่าไปคิดมาก เดี๋ยวจะอ๊วกแตก รสชาติเค็มนิดๆ อุ่นๆ กินไม่ยากแน่นอน เมื่อครั้งแรกทำได้ ครั้งต่อไปง่ายมากแล้วจะติดใจลองดู

สังคมไทย ผมว่ามีคนใช้ฉี่รักษาโรคกันมากในรูปแบบต่างๆ แต่ไม่กล้าบอกหรือเปิดเผย เพาะสังคมภายนอกไม่ยอมรับ และคิดว่าคนดื่มฉี่เป็นคนบ้า คนที่เป็นโรคบางคนก็ไม่เชื่อ ไปซื้อยากินดีกว่า ง่ายดี แต่อย่าลืมว่ายาทุกเม็ดที่เรากินเข้าไป เป็นสารเคมีทั้งนั้น ผลค้างเคียงต่อร่างกายในอนาคตเราไม่สนใจ เมื่อเรามีอายุมากขึ้น มันจะแสดงผลออกมา เมื่อนั้นเราจะรู้สึกว่าสายเกินไป

เราหันมาร่วมกันให้ความรู้ แนะนำดื่มฉี่ดีกว่า ไม่เสียเงิน ติดตัวเราไปไหนทุกที่ สะดวกในการนำมาใช้ และที่สำคัญคือ ยาที่ธรรมชาติมอบมาให้เราแล้ว
นักวิจัยย้ำ 'ฉี่'รักษาโรค ทาแก้สิว-สระแก้รังแค

นักวิชาการกรมการแพทย์แผนไทย เผยงานวิจัยตอกย้ำความเชื่อ "ฉี่" รักษาโรคได้หลายชนิด รวมทั้งมะเร็ง ชี้ในปัสสาวะมีสารต้านเชื่อเอชไอวีด้วย ขณะที่รองเลขาธิการ อย.ยัน ยังไม่มีการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์รองรับ แถมยังมีเชื้อโรคเจือปนอยู่มาก เตือนใช้วิจารณญาณให้ดี

การใช้นำปัสสาวะหรือน้ำมูตร ในการบำบัดโรคต่างๆ ของมนุษย์ ยังคงเป็นความเชื่อที่มีผู้ปฏิบัติตามจำนวนไม่น้อย ล่าสุด นักวิชาการจากกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้ออกมาเปิดเผยงานวิจัยในเรื่องนี้ โดยระบุน้ำมูตรสามารถรักษาโรคได้หลายอย่าง รวมทั้งโรคมะเร็ง

นางราตรี ชีพอุดมวิทย์ นักวิชาการกองการแพทย์ทางเลือก กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยงานวิจัยเรื่อง "การศึกษาการใช้น้ำมูตรบำบัดในเครือข่ายชาวอโศก" ว่า สาเหตุที่ให้ความสนใจในเรื่องนี้ก็เพราะเคยมีข่าวปรากฏทั้งทางหน้าหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ เกี่ยวกับการใช้นำมูตรหรือน้ำปัสสาวะบำบัดโรค โดยเบื้องต้นได้ศึกษาในกลุ่มชาวสันติอโศก เนื่องจากทราบว่าทางผู้ปฏิบัติธรรม หรือพระ มักจะมีความเชื่อในเรื่องการบำบัดด้วยน้ำปัสสาวะ

นางราตรี ระบุว่า ผลการวิจัยพบว่าชาวสันติอโศกส่วนใหญ่จะใช้น้ำมูตรสำหรับทุกส่วนของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นการดื่ม อาบ สระผม แม้กระทั่งล้างหน้า ซึ่งความเชื่อเช่นนี้ก็ได้ปรากฏอยู่ในพระไตรปิฎกด้วยว่าพระสมัยก่อนนิยมนำน้ำมูตรเน่ามาดองกับลูกสมอ หรือลูกมะขามป้อม เพื่อฉันเป็นยารักษาโรค อีกทั้งยังมีความเชื่อของคนจีนโบราณว่าการดื่มปัสสาวะจะทำให้สุขภาพดี

นักวิชาการผู้นี้กล่าวว่า การเข้าไปศึกษาพบว่าผู้ที่ดื่มปัสสาวะส่วนใหญ่จะดื่มกันสดๆ และจะใช้ปัสสาวะของตัวเอง โดยเฉพาะในช่วงเช้า เพราะเชื่อว่าจะมีสารเมลาโทนิน ซึ่งเป็นสารในปัสสาวะค่อนข้างสูง ทั้งนี้จะดื่มในปริมาณ 1 แก้วถึง 1 แก้วครึ่ง อย่างไรก็ตาม มีบางความเชื่อที่เห็นว่าถ้าจะให้ได้ผลดีต้องเป็นปัสสาวะของเด็ก ซึ่งนอกจากใช้ดื่มแล้ว ยังมีการใช้ปัสสาวะบ้วนปาก สระผม ล้างหน้า เพราะเมื่อใช้แล้วเชื่อว่าจะรักษาผมหงอก รังแค อีกทั้งยังมีสรรพคุณแก้สิว โดยให้เอาสำลีหรือกระดาษทิชชูชุบปัสสาวะปะหน้าเอาไว้

นางราตรี กล่าวว่า การวิจัยครั้งนี้ได้ศึกษาจากลุ่มตัวอย่าง 250 คน พบว่าส่วนใหญ่ที่หันมาใช้น้ำมูตรก็เพราะรับความเชื่อมาจากพระ อ่านจากพระไตรปิฎก และบางส่วนได้รับการบอกกล่าวจากเพื่อนและครู ซึ่งเมื่อทดลองใช้แล้วก็ไม่พบว่ามีผลข้างเคียงใดๆ

นางราตรี ยังระบุด้วยว่า เรื่องการใช้ปัสสาวะมาบำบัดโรคนั้น มีงานศึกษาของต่างประเทศสนับสนุน เช่น งานศึกษาของ ศ.น.พ.จอห์น อาร์เฮอร์มาน แห่งมหาวิทยาลัยแพทย์อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ที่นิวยอร์ก ซึ่งเคยตีพิมพ์เผยแพร่ในเจอร์นัล ออฟ แมดิซีน (Journal of Madicine Vol.8 No.7 June 1980) ได้อธิบายว่า "การดื่มน้ำปัสสาวะมีใช้กันทั่วโลก และยังจะแพร่หลายต่อไปอีกมาก ปัสสาวะก็คือส่วนที่สกัดกลั่นมาจากเลือด ถ้าเราไม่ถือว่าเลือดเป็นของสกปรก ปัสสาวะก็ไม่ควรถือเป็นของสกปรกด้วย เพราะปัสสาวะประกอบด้วยสารหลายร้อยหลายพันชนิด"

นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยของ ดร.อัลเบิร์ต เซนต์ กีออร์กี นักวิทยาศาสตร์รางวัลโนเบล ซึ่งเคยทดลองใช้สารเมทิล ไกลออกซอล ซึ่งเป็นสารที่อยู่ในปัสสาวะรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็ง ได้ผลเป็นที่น่าพอใจมาแล้วหลายราย ขณะที่ น.พ.ธรรมาธิกรี รัฐมหาราษฏระ จากอินเดีย ก็ได้ทดลองให้ผู้ป่วย 200 คน ดื่มน้ำปัสสาวะของตัว และติดตามผลทางการแพทย์อย่างใกล้ชิด พบว่าเมื่อดื่มน้ำปัสสาวะแล้ว เซลล์ในร่างกายจะสามารถรับออกซิเจนได้มากขึ้น การเผาผลาญในร่างกายดีขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้ร่างกายสร้างเม็ดเลือดมากขึ้น ในผู้ป่วยทุกรายส่งผลให้ปริมาณฮีโมโกลบินในเลือดสูงขึ้น

นางราตรี ระบุต่อว่า สำหรับสารเมลาโทนิน ซึ่งอยู่ในน้ำปัสสาวะนั้น นักวิทยาศาสตร์ชาวออสเตรเลีย พบว่า เมื่อดื่มเข้าไปจะช่วยให้จิตใจสดชื่น แจ่มใส สมาธิดีขึ้น และยังช่วยต้านความชรา ป้องกันมะเร็งได้อีกด้วย และที่สำคัญนักวิจัยหลายคนเชื่อว่า ปัสสาวะถือเป็นสิ่งดีสำหรับผู้ป่วยโรคเอดส์ เนื่องจากปัสสาวะของผู้ป่วยเอดส์ไม่ได้มีเพียงสารต้านมะเร็งเท่านั้น แต่ยังมีสารแอนติบอดีต่อเชื้อเอชไอวี-1 ด้วย


************************************************************************************************************

"น้ำปัสสาวะ พุทธโอสถ" นิดดา หงษ์วิวัฒน์
ออกอากาศเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2555


สภาท่าพระอาทิตย์ นํ้าปัสสาวะเป็นยารักษาโรค




น้ำปัสสาวะ พุทธโอสถ1 โดยนิดดา หงษ์วิวัฒน์

เผยแพร่เมื่อ 7 พ.ค. 2012
รายการบอดี้แอนมาย ช่วงห้องรับแขก คุณรติกรณ์ จารุเกษตรวิทย์ พูดคุยกับ คุณนิดดา หงษ์วิวัฒน์ ในหัวข้อ "น้ำปัสสาวะ พุทธโอสถ" เมื่อน้ำปัสสาวะ สามารถรักษาโรคได้ หลักฐานจากการทดลองใช้โดยพระพุทธเจ้าด้วย "น้ำมูตรเน่า" และจากการทดลองใช้ด้วยตัวคุณนิดดาเองและผู­้อื่น อีกหลายคน ว่า สิ่งที่เราคิดว่าเป็นน้ำเสียจากร่างกายเรา­เองนั้น แท้ที่จริงแล้วคือสิ่งที่เป็นยารักษาสารพั­ดโรคได้ ออกอากาศเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2555

น้ำปัสสาวะ พุทธโอสถ2 โดยนิดดา หงษ์วิวัฒน์







************************************************************************************************************

570911 สรุปเรื่องน้ำปัสสาวะและยา 9 เม็ดโดย...



1508251414 น้ำปัสสาวะรักษาโรค เทคนิค...

 


แพทย์วิถีธรรม มหัศจรรย์น้ำปัสสาวะ







ประโยชน์น้ำปัสสาวะ 7จาก7








ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น