วันพุธที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2559

สมอไทย ราชาสมุนไพร / แยมมะขามป้อม


แยมมะขามป้อม

1. นำมะขามป้อม10ลูกไปต้ม 15 นาทีพอ เสร็จแล้วแคะเม็ดออกให้เรียบร้อย ถ้าเอาเปลือกออกได้ก็เอาออกด้วย 
2. นำไปปั่น ชอบละเอียดเนียนๆ ก็ปั่นนานหน่อย ปั่นหยาบๆ ถ้าชอบแบบกรุบกริบมี texture 
3. ตั้งกระทะ เทมะขามป้อมที่ละเอียดแล้วลงไป ตามด้วยน้ำตาลทรายแดงโอวทึ้ง เคี่ยวไปเรื่อยๆ  ยิ่งแห้งยิ่งเก็บได้นาน 

ปิดฝา กินไม่หมดเก็บในภาชนะปิดมิดชินไว้ในตู้เย็นจ้ะ 
รสชาติ 
อย่างแรกที่ผุดมาในหัวคือเปรี้ยว นึกถึงสับปะรด
ต่อมาคือขม คาดว่าใส่น้ำตาลไม่มากพอ แต่ขมแบบทานได้นะ ใครชอบรสเจือขมน่าจะชอบเลย
ท้ายสุดคือหวานนิดๆ
https://pantip.com/topic/33669383

************************
อาหารครั้งแรกที่พระพุทธเจ้าฉัน หลังตรัสรู้ครบ7วันคือสมอครั้นพระองค์ออกจากสมาธิแล้วพระอินทร์จึงนำผลสมอ
อันเป็นทิพย์โอสถมาจากเทวโลกน้อมเข้าไปถวาย
การ์ตูนเรื่องพุทธศาสดา/ไตรปิฎก/ ตอน18 มุจรินทร์ http://download.buddha-thushaveiheard.com/images/All_page_03/html_Balee_1-40/Balee_SC_18.html


สมอภิเพก สมุนไพรไทย เข้ายาพิกัด ตรีผลา อันได้แก่ผลไม้ 3 อย่างคือ สมอไทย มะขามป้อม สมอภิเพก เป็นยาแก้ไข้ แก้ไอ รู้ปิดรู้เปิด พระพุทธเจ้าทรงอนุญาตให้ทานผลไม้ทั้ง3ได้หลังเวลาเที่ยง เพราะท่านถือว่าเป็นยา




สมอไทย ความมหัศจรรย์แห่งผลไม้พุทธโอสถ
http://www.abhaiherb.com/knowledge/thaiherb/8642


ในสมัยพุทธกาล เวลาพระพุทธเจ้าทรงประชวรหรือพระสงฆ์อาพาธมักเสวยหรือฉันผลสมอไทยเป็นยาหลัก จนได้รับยกย่องว่าเป็นพุทธโอสถ ดังมีพระพุทธรูปปางทรงสมอปรากฏเป็นหลักฐาน 



ประวัติของพระเจ้าอโศกมหาราช ตอนที่พระองค์ประชวรครั้งสุดท้าย ก็ทรงเสวยผลสมอไทยเหลือไว้ครึ่งลูก และทรงพระราชทานผลสมอไทยครึ่งลูกนั้นแด่พระสงฆ์เป็นทานครั้งสุดท้าย

ในพระไตรปิฎกกล่าวว่า ครั้งพุทธกาล มีภิกษุรูปหนึ่งอาพาธเป็นโรคผอมเหลือง ภิกษุทั้งหลายจึงกราบทูลเรื่องนี้แด่พระพุทธเจ้า พระองค์จึงตรัสอนุญาตแก่ภิกษุทั้งหลายว่า “ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ดื่มยาผลสมอดองน้ำมูตรโค” และยังได้เล่าถึงอดีตชาติของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ครั้งเสวยพระชาติเป็นพระหรีตกิทายกเถระ ว่า ท่านได้นำผลสมอถวายแด่พระสยัมภูพุทธเจ้า ทำให้ทรงบรรเทาพยาธิทั้งปวง จึงได้ทรงทำอนุโมทนาว่าด้วยการถวายเภสัชอันเป็นเครื่องระงับพยาธินี้ ท่านเกิดเป็นเทวดา เป็นมนุษย์ หรือจะเกิดในชาติอื่น จงเป็นผู้ถึงความสุขในที่ทุกแห่ง และท่านอย่าถึงความป่วยไข้ ฉะนั้น เพราะการถวายสมอนี่เอง ความป่วยไข้จึงมิได้เกิดแก่ท่านเลย นี้เป็นผลแห่งเภสัชทาน


กำเนิดสมอไทย
ตามตำนานว่า ครั้งหนึ่งพระอินทร์กำลังเสวยน้ำอมฤต บังเอิญน้ำอมฤตหยดหนึ่งหกลงมาบนพื้นโลก กลายเป็นต้นสมอไทย มีสรรพคุณแก้ได้สารพัดโรค จึงเรียกว่าโอสถทิพย์หรือผู้ให้กำเนิดชีวิต 

อีกตำนานว่า ขณะที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับเสวยวิมุตติผลสุขสมบัติอยู่ใต้ต้นไม้ พระอินทร์ทรงเห็นว่าพระพุทธองค์ควรเสวยพระกระยาหาร จึงได้นำผลสมอทิพย์มาถวาย

"สมอไทยก็มีความพิเศษเหนือสมุนไพรอื่นๆ สมตำนานเล่าขาน คือเป็นสมุนไพรที่มีเกือบครบทุกรส ได้แก่ รสเปรี้ยว ฝาด หวาน ขม เผ็ด แถมยังมีรสเค็มและรสเมาแทรก


ตามตำรายาไทยกล่าวว่า รสของยาบ่งบอกสรรพคุณของยา อย่างกรณีของสมอนี้ 
รสเปรี้ยว มีสรรพคุณกัดเสมหะ แก้ไอ กระหายน้ำ ฟอกโลหิต แก้ประจำเดือนไม่ปกติ แก้โรคท้องผูก ชำระล้างเมือกมันในลำไส้
รสฝาด ช่วยสมานแผลในปากไปจนถึงแผลในกระเพาะลำไส้ แก้ท้องเสีย แก้บิด ซึ่งสรรพคุณของรสฝาดช่วยระงับการถ่าย (รู้ปิด) ตรงกันข้ามกับรสเปรี้ยวซึ่งช่วยให้ถ่าย (รู้เปิด) เมื่อลูกสมอไทยมีรสเปรี้ยวและรสฝาดผสานกัน จึงมีสรรพคุณเป็นทั้งยาระบายและยาระงับการถ่าย คือ รู้เปิด รู้ปิด ไปในตัว
รสหวาน บำรุงเนื้อ บำรุงกำลัง
รสขม แก้ไข้ บำรุงน้ำดี ถอนพิษผิดสำแดง ช่วยเจริญอาหาร
รสเผ็ด ขับลมในกระเพาะลำไส้ แก้ปวดท้องจุกเสียด ช่วยย่อยอาหาร
รสเค็ม ช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง แก้ประดงน้ำเหลืองเสีย
รสเมา แก้พิษฝี พิษแมลงสัตว์กัดต่อย แก้พยาธิต่าง ๆ แก้ริดสีดวง ระงับประสาท ทำให้นอนหลับสบาย 


วิธีกินป้องกันโรค
เพราะสมอไทยมีหลายรส กินสมอไทยอย่างเดียวจึงเท่ากับกินสมุนไพรหลายอย่าง 
ถ้าใครกินวันละ 1 ลูก เป็นประจำทุกวัน โรคภัยไข้เจ็บต่างๆ จะไม่มากล้ำกราย

วิธีกินเป็น
ยาบำรุงร่างกายแก้อ่อนเพลีย
เอาสมอไทย 1 ลูก แช่ในน้ำ 1 แก้ว เป็นเวลา 1 คืน ตื่นเช้ากินทั้งน้ำและเนื้อพระพุทธเจ้าจึงทรงเลือกสมอไทยเป็นยาสำหรับพระสงฆ์ฉันบำรุงร่างกาย แก้อ่อนเพลีย 


วิธีกินแก้โรคท้องผูกเรื้อรัง 
สรรพคุณเด่นอีกข้อของสมอไทยคือแก้โรคท้องผูกเรื้อรัง โดยสมอไทยไม่ใช่ยาถ่ายเท่านั้น แต่ยังช่วยชำระล้างลำไส้ให้สะอาด มีสมรรถภาพในการบีบตัว ขับถ่ายได้คล่อง วิธีกินสมอไทยแก้โรคท้องผูก ต้องกินวันละ ๓-๕ ลูกทุกวัน จนอาการท้องผูกหายไป จึงหยุดกิน

วิธีกินแก้อากรไอเจ็บคอ เสียงแห้ง มีเสมหะติดคอ คันคอยิบ 
ให้เอาเนื้อลูกสมอไทยมาผสมเกลือและข่าแก่พอสมควร ตำสามสิ่งนี้ให้แหลกเข้ากันดี แล้วแบ่งอมขนาดเท่าปลายนิ้วก้อย ที่เหลือเก็บแช่ตู้เย็นไว้ใช้ต่อ อาการไอคันคอยิบ ๆ จะหายไป หลังจากอมยาต่อเนื่องราว ๑ สัปดาห์

http://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2010/11/Y9955770/Y9955770.html


ยาดองด้วยน้ำมูตรเน่า จากหมอชาวบ้านเรื่องยาดองสมุนไพร
https://www.doctor.or.th/article/detail/4819

ยาดองชนิดนี้มันอะไรกัน พระพุทธองค์ตรัสว่า 

“ภิกษุทั้งหลาย เมื่อพวกเธออาพาตไม่สบาย จงทำยาดองด้วยลูกมะขามป้อมและลูกสมอ ซึ่งพวกเธอนำลูกมะขามป้อมและลูกสมอมาทุบให้แตกแล้วใส่ลงในภาชนะและถ่ายปัสสาวะลงไปในภาชนะนั้น แช่ไว้ประมาณ 7 วัน แล้วก็เอามาฉัน อาพาธของเธอก็จะหาย” นี่แหละ ยาดองสมุนไพรที่พระพุทธองค์ ทรงตรัสแนะนำภิกษุสงฆ์สาวกของพระองค์
ก่อนที่จะเขียนต่อไปถึงเรื่องวิธีทำ ผู้เขียนใคร่จะเขียนถึงสรรพคุณของลูกมะขามป้อมและลูกสมอสักเล็กน้อย เพื่อผู้อ่านจะได้เข้าใจถึงสรรพคุณยาดองสมุนไพรขนานนี้ ว่าใช้แก้โรคอะไรได้บ้าง
ลูกมะขามป้อม รสฝาดเปรี้ยว แก้เสมหะ ทำให้ชุ่มคอดี แก้ไข้
ลูกสมอไทยอ่อน รสเปรี้ยว แก้โลหิตในท้อง แก้น้ำดี แก้เสมหะ ระบายอุจจาระ
ลูกสมอไทยแก่ รสเปรี้ยวฝาด ขม แก้ไข้เพื่อลม แก้เสมหะ แก้ไข้เพื่อเสมหะ
ท่านผู้อ่านก็พอจะเข้าใจแล้วใช่ไหมว่า ยาดองด้วยน้ำมูตรเน่าใช้แก้โรคอะไร และยาขนานนี้ถ้าสรรพคุณไม่ดีจริง ๆ พระพุทธองค์ก็คงจะไม่ตรัสสอนแนะนำให้ภิกษุทำใช้ทำฉัน

วิธีทำ ก็ไม่ยากเพียงแต่ท่านนำลูกมะขามป้อมแก่ ๆ มาสัก 9 ลูก หรือมากกว่านี้ก็ได้ แล้วทุบให้แตก ใส่ลงไปในขวดหรือในโหล แล้วก็นำลูกสมอไทยแก่มาเท่ากัน ทุบให้แตกอีกเช่นกัน ใส่ลงไปในขวดหรือในโหลอันเดียวกัน แล้วท่านก่ายปัสสาวะลงไปในขวดหรือโหลนั้น ประมาณสัก 2 หรือ 3 ครั้ง เอาจนท่วมลูกมะขามและลูกสมอ แล้วทิ้งไว้สัก 7 หรือ 9 วันก็ได้ ยิ่งเขย่าขวดได้ทุกวันยิ่งดี

เรื่องกลิ่น ธรรมดาว่า ปัสสาวะของคนเราจะเหม็นสาบ แต่ท่านไม่ต้องวิตกกังวลเรื่องกลิ่นว่าจะเหม็นสาบอยู่เช่นเดิม ตรงกันข้าม คือไม่มีกลิ่นปัสสาวะเลย แถมจะมีกลิ่นหอมของมะขามป้อมและสมอเสียด้วย

เรื่องสี ธรรมดาว่า ปัสสาวะของคนเราจะมีสีต่าง ๆ กัน บางคนก็มีปัสสาวะสีใส บางคนก็สีชา อันนี้ท่านก็ไม่ต้องวิตกกังวลอีก ลูกมะขามป้อมและลูกสมอมันจะกันสีเหล่านั้นให้หายไปหมด จะกลายเป็นสีใสแจ๋วไปเลย สีใสยิ่งเสียกว่าน้ำฝนอีก ถ้าไม่เชื่อก็ขอให้ลองทำดู ว่าจะเป็นอย่างที่ผู้เขียนเขียนมาหรือไม่ ประหยัดไม่ต้องลงทุนให้เสียเงินเลย
ผู้เขียนเองก็เคยทำฉันมาแล้วหลายครั้ง และก็ไม่ได้ฉันผู้เดียวด้วย พระ-เณร หลายองค์ก็พลอยได้ฉันน้ำปัสสาวะของผู้เขียนสบายไปหลายองค์ เรื่องสรรพคุณเห็นทีจะไม่ต้องบอกก็ได้ใช่ไหม ว่าแก้โรคอะไร สงสัยอ่านทวนอีกครั้งหนึ่ง โดยเฉพาะอ่านเรื่องสรรพคุณของลูกมะขามป้อมและลูกสมอไทย ท่านก็จะเข้าใจเอง

ขนาดที่กิน กินก่อนอาหารครั้งละประมาณถ้วยชาจีน (ประมาณ 8 ถึง 10 ช้อนชา) ฆราวาสก็ทำกินรักษาโรคได้ ไม่เฉพาะแต่ภิกษุ-สามเณร ที่ผู้เขียนเขียนมานี้ ขอท่านทั้งหลายอย่าเพิ่งหลงเชื่อง่าย ๆ ขอให้ทดลองทำดูเสียก่อน ถ้าเป็นจริงอย่างที่เขียนแล้ว ถึงค่อยเชื่อ เพราะพระพุทธองค์ทรงตรัสสอนไว้ไม่ให้เชื่อใครหรืออะไรง่าย ๆ ขอให้พิจารณาให้เห็นจริงแล้วถึงค่อยเชื่อ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น