ขวัญชาย ดำรงค์ขวัญ
แม่ติ๋ว
*********************
ตั๋ว ศรัณยูเสียชีวิตจากมะเร็ง รักษาด้วยเคมีบำบัด
https://today.line.me/TH/article/o7DW1P?utm_source=copyshare
**********************
ป้าเล็กกระเป๋ารถเมล์524 มะเร็งระยะสุดท้าย หมอบอกมีเวลาชีวิต1ปี
https://youtu.be/QuisHzLT1Uc
*********************
https://youtu.be/4hcjWFK37S0
*********************
หมอบอกจะตายใน3เดือน เขาอยู่มาอีกหลายปี และตายจากอุบัติเหตุ
เลือกรักษาแบบทางเลือก
********************************
» ชีวิตสอนอะไรเราบ้าง เมื่อแพทย์บอกว่า “คุณมีความเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง”
» โดย ขวัญชาย ดำรงค์ขวัญ
เราต่างรู้ดีว่าเป็นเรื่อง “ธรรมดา” ทั้งคนสูงวัย ผู้ใหญ่วัยทำงาน คนหนุ่มคนสาว
หรือแม้แต่เด็กน้อยวัยซุกซน ล้วนสามารถเจอกับความป่วยไข้แบบหนักหนาได้ทั้งนั้น
ขนาดว่ารู้ทั้งรู้ เมื่อเสียงวินิจฉัยจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ บอกว่า “คุณมีความเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง”
คนส่วนใหญ่ย่อมตกใจ และไม่น้อยถึงขั้นกังวลจนไม่เป็นอันกินอันนอน
จันทิมา รักษาเสรี หรือ “อาจารย์แต๋ม” - อดีตข้าราชการครู
...ตรวจพบก้อนเนื้อบริเวณเต้านมก่อนเกษียณไม่กี่ปี
ก้อนเนื้อของเธออยู่ในระดับ 4B (ถ้าระดับ ๕ เท่ากับว่าเป็นมะเร็ง)
ซึ่งคำวินิจฉัยบอกว่า มีโอกาสเป็นมะเร็งค่อนข้างสูง
คำแนะนำจากหมอและพยาบาลบอกว่า...เธอควรผ่าตัด!
“พบความผิดปกตินะ ไม่น่ากังวลมาก แต่ก็วางใจไม่ได้เลย ขอแนะนำว่าต้องมาผ่าตัด”
เป็นคำแนะนำของพยาบาลที่เธอจำได้ดี
เท่าที่เธอได้ยินมา การผ่าตัดเต้านมอาจมีผลข้างเคียงที่กินเวลาทั้งชีวิต
เธอไม่อยากแบกรับความเสี่ยงนั้น
จึงตัดสินใจรักษาด้วยการดูแลตัวเองในแบบต่าง ๆ โดยนึกย้อนถึงการใช้ชีวิตที่ไม่ถูกต้องตลอดมา
ทั้งอาหารการกินที่ตามใจปาก ออกกำลังกายไม่สม่ำเสมอ
และพักผ่อนน้อยจากการโหมงานหนักในอาชีพที่รักมาหลายสิบปี
ตั้งแต่เริ่มรับราชการครู (กรมสามัญศึกษา) พ.ศ. ๒๕๑๙ ที่โรงเรียนยานนาเวศวิทยาคม ๑ ปี
ก่อนจะย้ายไปยังโรงเรียนสตรีวิทยา ๒ ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๒๐
จนกระทั่งเกษียณอายุราชการเมื่อกันยายน ๒๕๕๗
เธอจึงเลือกกลับมาใส่ใจในชีวิตประจำวันที่เหลืออยู่
อาจารย์แต๋มเริ่มต้นด้วยการปรึกษาแพทย์ที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร
และศึกษาศาสตร์ต่าง ๆ ด้วยตัวเอง ก่อนจะลงเอยด้วยการรับประทานสมุนไพรหลากหลาย
อาทิ หญ้าปักกิ่ง ขมิ้นชัน ใบย่านาง เธองดเนื้อสัตว์และใช้ผักปลอดสาร(เคมี)มาปรุงอาหาร
และเนื่องจากภาระหน้าที่ยังไม่เอื้อให้ออกกำลังกายได้สะดวกนัก
เธอจึงใช้วิธีขี่จักรยานจากบ้านไปทำงานที่โรงเรียนสตรีวิทยา ๒
...เป็นระยะทางไปกลับกว่า ๒๐ กิโลเมตร
หลังจากกลับมาดูแลตัวเองมากขึ้น ผ่านไป ๖ เดือน เธอกลับไปตรวจและได้พบข่าวดีว่า
ชิ้นเนื้อที่ตัดออกมาตรวจไม่มีเซลล์มะเร็ง แต่เธอก็ยังไม่สามารถวางใจได้เต็มที่
ในทางทฤษฎีแล้ว การตัดชิ้นเนื้อบางส่วนมาตรวจไม่สามารถรับประกันได้ว่าปลอดภัย
เพราะส่วนที่เหลือยังมีโอกาสเป็นเนื้อร้ายได้ เธอจึงต้องกลับไปตรวจทุก ๆ ๖ เดือน เป็นระยะเวลา ๒ ปี
...หลังจากนั้นจึงลดเหลือปีละหนึ่งครั้ง
เมื่อชีวิตยังอยู่กับความสุ่มเสี่ยง หมอและพยาบาลจึงแนะนำว่า...
เธอควรผ่าตัดเอาก้อนเนื้อนั้นออกไปเลย
แต่ในเมื่อระยะเวลา ๖ เดือนกับการปรับเปลี่ยนชีวิตประจำวันปรากฏผลน่าพอใจ
อาจารย์แต๋มจึงเลือกที่จะดูแลตัวเองด้วยวิธีเดิมด้วยความเชื่อว่า
...ร่างกายมนุษย์มีกลไกที่สามารถเยียวยาตัวเองได้
แม้ยังไม่สามารถรับประกันได้ว่าปลอดภัย แต่อาจารย์แต๋มมองว่านั่นเป็นเรื่องปกติของทุกคน
ต่อให้หมอยืนยันว่าก้อนเนื้อนั้นไม่มีเซลล์มะเร็งเลย เธอยังมีสิทธิเจอกับเรื่องไม่คาดคิด
ซึ่งเป็นสิ่งเดียวกับที่ทุก ๆ คนต้องเจอ
ดังนั้น หนทางที่ควรเป็นก็คือ การเบิกบานกับแต่ละวันที่เหลืออยู่ให้เต็มที่
**********
แม่่ติ๋ว สุทธาศินี ป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ http://youtu.be/GZGQK01pd9c
เผยแพร่เมื่อ 1 เม.ย. 2016คุณสุธาสินี น้อยอินทร์ แม่ติ๋ว อายุ ๖๐ ปี มูลนิธิสุธาสินี น้อยอินทร์ เพื่อเด็กเยาวชน จังหวัดยโสธร ปัจจุบันเป็น สามเณรี อาการป่วย คือ เป็นมะเร็งลำไส้มา ๑๔ ปี และใช้ศาสตร์แพทย์วิถีธรรม จากการอ่านหนังสือและดูยูทูป ด้วยตนเอง มา ๙ ปี
ถาม: ได้ผ่าตัดอะไรไหม
ตอบ: 26.37 ทันทีที่มีดลง มันไปต่อแน่นอน ไม่เชื่อมีด ต้องไม่เชื่อคนอื่นที่เค้าไม่ได้เจ็บป่วยเหมือนเรา
28.02 เฮ้ยตัดสินใจดีๆนะ บางทีการผ่ามันอาจจะเกิดอะไรขึ้น
28.45 คุณทวดเป็มะเร็ง (คุณพ่อตายเพราะคีย์โมเเข็มที่ ๑๒
***************
(ขอขอบคุณผู้เขียนที่ให้ความรู้จากประสบการณ์เป็นทาน)
///////////////////////////////////
**********************
**********************
****************
แหวน ธิติมา
เผยแพร่เมื่อ 6 ก.ย. 2012 ชื่อผู้ป่วย คุณจำปา สุวะไกร (อาแต๋น)
เมื่อก่อนพ่อกับแม่เขาล้มหมูล้มวัวควาย กินลาบ ตับดิบ แม่กินเหมือนพ่อเลย แต่ว่ากินด้วยความไม่รู้ แล้วพ่อก็ไม่ได้บอก เหมือนปัจจุบันนี้ใช่ไหม เมื่อก่อนตอนนั้นก็เอาแต่ค้าขาย พอเรามาปฏิบัติธรรมสังคมก็กว้างขึ้น หลายๆ คนก็พูด แม่ก็เริ่มเข้าใจ เริ่มเข้าใจแม่ก็หยุด กินผักก็ต้องกินผักไร้สารพิษ มันแพงไปไม่กี่บาทหรอกแต่ว่าสุขภาพเราดี
ผักที่คุณแม่กินนี่ มีอะไรบ้างครับ ไหนช่วยบอกตัวอย่างหน่อยครับ
ปัจจุบันนี้ที่กินก็มี ถ้าแม่ทานสมุนไพรก็มีข่า ตะไคร้ ขิง ใบมะกรูด กระชาย โหระพา ตะเภาดำ สะหระแหน่ แล้วก็แพรว ยอดมะม่วง ยอดมะกอก ยอดใบยอ พวกขมๆ ที่แม่เป็นมะเร็งหนักๆ นี่ แม่ก็กินพวกขมๆ พวกมะระขี้นก ข้ม…ขม แล้วผักคราวตองนี่ก็เหม็นกินไม่ได้เป็นที่สุด
ตอนเป็นมะเร็งอายุ 59 ปี ตอนนี้อายุย่าง 65 ปี เป็นมะเร็งที่ลำคอ เลยโคนลิ้นไปหน่อย หมอบอกเป็นระยะที่ 3 มี Secondary ที่ใต้คางเท่ากับไข่แดง 2 ฟอง
ผมรอเกือบเดือนที่หมอไม่สามารถไปหา Primary (จุดเริ่มต้น) ได้ เพราะมันเล็กมาก มันอยู่เลยโคนลิ้นไปนิดหนึ่ง ใช้เครื่องมืออุปกรณ์เยอะแยะ กล้องส่องเข้าไปที่ปอด ปรากฏว่าไม่เจอ ในที่สุดก็ไปหาเพื่อนของเพื่อน ศ.นพ.ไพรัช เทพมงคล ที่ศิริราช พอท่านเห็น ท่านก็บอกว่าเป็น สแควร์มัส CA ซึ่งสแควร์มัส CA ประมาณ 90% จะอยู่ระหว่างไหปลาร้ากับโพรงจมูก ท่านก็เลยเอามือล้วงลงไปที่คอ แล้วใช้ไฟส่อง ปรากฏว่าไม่ต้องใช้เครื่องมือตรวจหรอก ใช้มือจับก็รู้แล้ว ท่านแนะนำผมว่า ถ้าจะให้ผมรักษาละก็ จะต้อง Ad miss วันนี้เลย ผมใช้เวลาตัดสินใจ 1 ชั่วโมง อายุเกือบครบ 60 ปี ไม่เคยนอนโรงพยาบาลเลย ก็เลยตัดสินใจรักษากับหมอไพรัช ตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน รู้ว่าเป็นมะเร็งตอนกลางเดือนตุลาคม ก็ใช้เวลา 1 เดือนถึงเริ่มรักษา
ระยะ 1 เดือนที่รู้ว่าเป็น ก็ศึกษาหาความรู้ ... ก็ได้ความรู้และรวบรวมความรู้ไว้ก่อนในการเตรียมตัวต่อสู้ในการรักษามะเร็ง
อยู่ไปวันๆ ก็ 13 ปี แล้วคุณเธียรรักษาทางแผนปัจจุบัน หรือรักษาด้วยควบคุมอาหารครับ
ต้องเรียนว่าแผนปัจจุบันเป็นเรื่องจำเป็น ก็ให้ทำเคโมและฉายแสง ขณะเดียวกันผมมีศรัทธาในแพทย์องค์รวมอยู่แล้วครับ และเชื่อว่าคนไข้ช่วยตัวเองได้ อันแรกเรื่องจิตก่อน ถ้ามีสมาธิจิตแยกเวทนาออกจากจิตได้ จิตเป็นสมาธิจะช่วยได้เยอะ
นอกจากฝึกสมาธิ มีงานวิจัย 2-3 ชิ้น มะเร็งที่กลับซ้ำสัมพันธ์กับจิตใจมาก ยิ่งเครียด วิตกกังวลง่าย มีโอกาสที่จะเป็นมะเร็งกลับซ้ำได้สูง คนที่ฝึกสมาธิ ฝึกสติ ฝึกจิต ก็อย่างที่เราทราบอยู่แล้ว ที่ง่ายที่สุดก็คือทำจิตสงบและนิ่ง แก้ความเครียดได้ตรง ผมอ่านเจองานวิจัยฉบับหนึ่ง คนที่ผ่านการขบวนการฝึกสมาธิ ปรากฏว่าเขาเอาเซลมะเร็งไปเพาะเลี้ยงในหลอด เซลมะเร็งมันโตช้าก็เป็นการช่วยอธิบายที่คุณเธียรบอกว่าฝึกสมาธิแล้วทำให้ดีขึ้น มีผลดีขึ้น
นอกจากนั้นแล้ว ผมใช้อีกหลายทาง พลังจักรวาล...สมนุไพรต่างๆ พลูคาว ขมิ้นชัน ฟ้าทะลายโจร เป็นต้น สมุนไพรจีนด้วย เช่น เห็ดหลินจือ ยาน้ำเทียนเซียน ซึ่งมันแพงมาก อย่าเพิ่งเชื่อผมทานไปเพราะ ทำไปทุกอย่างด้วยความคิดของตัวเอง ศึกษาและก็อ่านแล้วอ่านอีกว่าไม่ได้ขัดกับการแพทย์แผนปัจจุบันและขบวนการรักษา ผมทำหมดทุกอย่าง เช่น ฉายแสงมากก็ตกสะเก็ดเป็นแผล ก็เอาว่านหางจระเข้ปอกโปะเข้าไปเลย ก็เย็นดี ระหว่างที่คอมันเจ็บ เอาน้ำว่านหางจระเข้แก้ ก็แก้ทุกทางตราบใดที่มันไม่ได้ขัดการแพทย์แผนปัจจุบัน รวมทั้งพวกวิตามิน แอนติออกซิแดนท์ ก็ทานไปด้วย ออกกำลังกาย ตากแดดเป็นประจำ รวมทั้งทำชี่กง ฝึกระบบการหายใจ รวมทั้งการเดินบนสายพานก็ต้องทำสม่ำเสมอ
การใช้ชีวิตเกินพอ กินน้ำน้อย ขับถ่ายไม่เป็นเวลา
อาการของคนป่วยมะเร็งปอดระยะสุดท้ายลุกลาม ความคิดเห็นที่9 http://pantip.com/topic/30951851
ขอเล่าเรื่องอาการป่วยของคนในครอบครัวหน่อยนะคะ
ญาติเราก้ป่วยเป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้ายค่ะ และอยุ่ในช่วงลุกลาม เซลมะเร็งกระจายไปทั้งตัว
แต่เราไม่รู้ว่าอาการผู้ป่วยของจขกทเป็นยังไง
แต่อาการของญาติเรา ซึ่งอยุ่ในช่วงที่หมอออกปากแล้วว่า
ไม่แนะนำให้ทำการรักษา ฉายแสง คีโม ต่ออีกแล้ว
อาการ ท้องบวม น้ำในท้อง อ่อนเพลีย ทานอาหารไม่ได้ ความดันตก หัวใจเต้นเร็วมาก คุยแทบไม่ค่อยรู้เรื่อง ผอมลงสิบกว่าโลภายในเวลายี่สิบวัน ระยะเวลาแบบนี้ถือได้ว่าเป็นที่ทรมานมาก
ไม่มีกำลังใจแล้วว่าจะกัดฟันสู้ให้หาย เพราะหมดทางรักษา
ผู้ป่วยจะหมดกำลังใจเอามากๆค่ะ เพราะเค้ารุ้ร่างกายตัวเองดี
ถ้าเป็นเอกชนส่วนใหญ่ที่ญาติเราไปรักษาตัว เค้าจะพยายามให้นอนรพตลอด ดูแลเรื่องอาการป่วยพื้นฐาน (อาหาร ปวดหลัง ทานยา งดน้ำ ดูแลเรื่องไต ) ถ้าเป็นรพรัฐ ซึ่งญาติเพื่อนเราเคยไปรักษาที่นั่น อาการคล้ายกัน เค้าจะให้กลับมารักษาตัวเองที่บ้าน
ซึ่งเราคิดว่าไม่แนะนำอย่างยื่งในการให้ผู้ป่วยอยุ่บ้าน
เพราะเวลาเค้าปวดเนื้อตัว นอนไม่หลับ หรือมีอะไร
ก็จะยังมีหมอที่คอยดูแลอาการ ทรมานจริงๆค่ะที่ต้องไปดูแลกันเองที่บ้าน
ที่จขกทพูดถึงยาแก้ปวด นี่คือยาแก้ปวดตามร่างกาย กระดูกอะไรแบบนี้หรือป่าว ไม่แน่ใจนะ
แต่ที่เราอยากให้จขกทใส่ใจคือกำลังใจของผู้ป่วยค่ะ
แล้วต้องใส่ใจกับกิจวัตรประจำวันของเค้าให้เยอะๆ
*******************
รักษาด้วยการฉายแสง ความคิดเห็นที่ 17 http://pantip.com/topic/30951851
คุณแม่เราก็ตรวจพบว่าเป็นมะเร็งปอด ระยะ 3 B ตอนอายุ 80 ปีค่ะ ตรวจพบ มิย. 55 คุณหมอก็นัดให้ฉายแสง 10 ครั้ง ประมาณ กย. 55 ค่ะ พอฉายไปได้ 5 ครั้ง อาการก็ทรุดลง เหมือนฉายแสงไม่ตอบสนองต่อการรักษาในครั้งนี้ จนคุณหมอจะให้ทำคีโมต่อ แต่เราเห็นแม่แล้วคิดว่าคงไม่ไหว จึงรักษาแบบประคับประคอง หลังจากนั้นก็อยู่ได้อีกประมาณ 2 เดือนเข้าออกโรงพยาบาลอยู่บ่อยครั้ง ให้เลือด ให้น้ำเกลือ ให้ออกซิเจน จนมาเสียชีวิตที่โรงพยาบาล เมื่อ พ.ย. 55 ก่อนคุณแม่เสีย 2 วัน อาการดีขึ้นมาก ลุกขึ้นมานั่งพูดคุย หัวเราะเล่นกันอย่างสนุกสนาน จนมาเสียชีวิตในคืนวันจันทร์ เวลา 5 ทุ่ม หลังจากที่เราและน้องสาว กลับจากโรงพยาบาล มาถึงบ้านได้แค่ประมาณ 2 ชั่วโมง รู้สึกเสียใจที่ไม่ได้อยู่กับท่านในเวลาที่ท่านจากไปค่ะ
****************
เทวดาตัวจริงอยู่ที่ตัวเรานี่แหละ ความคิดเห็นที่ 20. http://pantip.com/topic/30951851 Pui
March 17, 2013 11:40 am
แม่เป็นมะเร็งที่ปอดระยะสุดท้าย มันลามไปที่สมอง ได้รับการรักษาโดยการฉายแสงที่สมอง 10 ครั้ง และให้คีโมที่ปอด ตอนนี้คุณหมอจะหยุดการรักษาแล้ว ก็กำลังหาวิธีรักษาด้วยตัวเองอยู่ โดยส่วนตัวคิดว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ1.จิตใจผู้ป่วย 2. เลือกที่จะกิน 3.สิ่งแวดล้อม มะเร็งจะไ่ม่อยู่ถ้าเรามีวินัย ตอนนี้ก็พยายามกับแม่เพื่อที่จะสู้กับมัน เท่าที่รู้มานะ หลักๆมันชอบน้ำตาล เนื้อสัตว์ เราก็ไม่ต้องกิน มันไม่ชอบให้เราแข็งแรง เราก็ทำร่างกายและจิตใจให้เข็มแข็ง กินชิวจิต หัวเราะเยอะ พักผ่อนเยอะๆ ศึกษาข้อมูลให้ดีๆ ยาสมุนไพร หรือหมอที่เขาว่ากันว่าหมอเทวดานู่นนี่นั้น(หมอสมหมาย หมอวันเพ็ญ สถานอะไรต่างๆ /ก็ดีจริง แต่เงิน-เวลา ต้องมี ) ไปลองมาหมดแล้ว เทวดาตัวจริงอยู่ที่ตัวเรานี่แหละ….
**********************
มะเร็งปอดลามำปกระดูกสันหลัง ความคิดเห็นที่ 31. http://pantip.com/topic/30951851
มะเร็งระยะไหนไม่ควรรักษาครับ คุณพ่อเพิ่งตรวจเจอหมอบอกว่าเป็นระยะที่สามมะเร็งที่ปอดกระจายไปสู่กระดูกสันหลังไม่สามารถลุกเดินไปไหนได้ปวดฉี่ก็ไม่ค่อยออก ถามหาแต่ยาแก้ปวด กลับมาที่บ้านแล้วครับ ผลจากการอ่านฟิล์มเอ็กซเรย์ จากหมอเพียง1คนสรุปได้เลย หรือเปล่าครับควรทำอย่างไรต่อไปดีครับ
**********************
มีเรื่องเล่า ผป. มะเร็งปอด พักอยู่ในเขต อำเภอหาดใหญ่ ชาย อายุ 75 ปี
ตรวจวินิจฉัย ยืนยัน โดยแพทย์ ตัดชิ้นเนื้อตรวจ ยืนยัน ผล เป็นมะเร็งปอด แบบ adenocarcinoma
แต่ไม่ยอมผ่าตัด ไม่ฉายแสง ไม่รับเคมีบำบัด จึงขอใช้ ทางเลือก ซึ่งทำท่าเป็นทางรอด
มีหลายเคล็ดลับ การทุเลานี้ คือ นอกจากยาสมุนไพร คือ อาหารแสลงก็ต้องรู้จักงดหรือกินให้พอเหมาะ
คงบอกไปเลยดีกว่า ว่า ผป.กินอะไรบ้าง
มะขามป้อม ตรีผลา สหัศธารา บอระเพ็ด เถาวัลย์เปรียง บัวบก ขมิ้นชัน
บางอย่างมาก บางอย่างน้อย บางเดือน มาก บางเดือนน้อย สลับกันไป
คนไข้ เป็นหมอเองได้ เพราะเริ่มรู้จักปรับยาให้พอเป็นที่สบาย
จากคำแนะนำของหมอ รู้จักหาสมุนไพรสด ทานเป็นผัก เป็นอาหาร
หมอแนะนำให้ทานอะไร คนไข้ก็ไปหา ไปเก็บมากินเป็นอาหาร
สุดท้ายโรคมะเร็งก็ทำท่า ไม่อยากมาอาศัยเกาะกิน กับ คนไข้แบบนี้
เรื่องน่าปวดหัว คือ มะเร็งปอด มีหลายแบบ แต่ละแบบ ตอบสนองต่อ สมุนไพร ไม่เท่ากัน
ก็คล้ายกับการใช้ เคมีบำบัด ที่ต่างกัน
การจะใช้สมุนไพรอะไร กับ มะเร็งอะไร อาจจะต้อง ค่อยๆๆ งมหา ว่า
เนื้อมะเร็งชนิดอะไร จะพอดีกับ อะไร การใช้สมุนไพรอะไร
นอกจากนี้ ผป. มะเร็ง แต่ละคนอาจจะมีความแปรปรวน เสียสมดุล ไม่เหมือนกัน
อาจจะเลือกใช้ยาไม่เหมือนกันบ้าง
อย่าเพิ่งรีบด่วน เชื่อ หรือ ไม่เชื่อ ครับ...... ต้องพิสูจน์
********************
********************
นพ. วีรพัฒน์ เงาธรรมทรรศน์.
ผู้ป่วยเป็นโรคมะเร็งปอดระยะที่4 ครับ ได้ทำการผ่าตัดเอาปอดซ้ายออกไปกลีบนึง แต่ปัจจุบันมันกลับมาขึ้นข้างเดิม กลีบที่ยังอยู่ ทางรพ.ต้นสังกัด ยุติการให้คีโมแล้ว เพราะให้ไป 3 ครั้ง กดภูมิมาก
ผป ติดเชื้อในกระแสเลือด นอนรพ.อยู่เกือบเดือน ผลเลือด ค่าเม็ดเลือดขาว ขึ้นมา 30,000 กว่า
อาการตอนนี้ที่น่าห่วงคือ อาการไอ ไอทั้งคืน ไม่ได้หลับได้นอน มีเสมหะขาวขุ่น เหนียว เจ็บหน้าอก ปวดเกร็งท้อง เวลาไอ
ทางรพ. ก็จ่ายยาละลายเสมหะ (เม็ด), ยาแก้ไอน้ำดำ มาให้ แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้มากนัก ลองซื้อยาน้ำแก้ไอมะขามป้อม (อภัยภูเบศร) มาให้จิบ ก็พอบรรเทาไปได้บ้าง แต่พอตกกลางคืน ก็ไอรุนแรง จนปวดหัว ปวดท้องไปหมด
มะเร็งลามมาที่กะโหลกศรีษะ เคยฉายแสงไปแล้วรอบนึง ผ่านไปหนึ่งเดือน กลับขึ้นมาใหม่ ตอนนี้รอฉายแสงอีกรอบ แต่เพราะเม็ดเลือดขาวยังสูงอยู่ หมอฉายแสงเลยบอกว่าให้รอเม็ดเลือดขาวลงก่อน กลัวฉายไปแล้วคนไข้ทรุด
อีกเรื่องก็คือ ผป ท้องอืดบ่อยๆ ทานอะไรไปก็พาลจะอาเจียนออก (เพราะลมตีขึ้น) และเป็นแผลในช่องปาก ทานเผ็ดอย่างพริกไทย น้ำขิง ไม่ได้เลย
จึงอยากจะขอคำปรึกษาคุณหมอหน่อยนะครับว่า อยากหายาบรรเทาอาการไอให้แม่ เคยเห็นคุณหมอเคยลงบทความเกี่ยวกับ มะขามป้อม+ดีปลี ในคนไข้รายหนึ่ง แต่ผมทำยาพวกนี้ไม่เป็น เลยอยากได้แบบสำเร็จรูป ไม่รู้ว่าที่ไหนมีขายบ้าง
การแพทย์จีน จะพิจารณาว่า ผป มะเร็งปอด มีสภาวะธาตุและพลังแปรปรวน อย่างไร จึงค่อยเลือกใช้สมุนไพร ปรับสมดุล ให้เหมาะสม เช่น กลุ่มอาการที่พบบ่อย กลุ่มอาการ ลมปราณติดขัด โลหิตคั่ง กลุ่มอาการ ความชื้นเสมหะคั่งค้าง กลุ่มอาการพร่องความชุ่มชื้น พิษร้อนสะสม กลุ่มอาการพร่องทั้งความชุมชื้น และพลังปราณ
โดยทั่วไปมะเร็งปอด จะมีการอักเสบ มีพิษร้อนสะสม และ เนื้องอก ต่อมจากเนื้อปอด จะสร้างเสมหะออกมามาก น้อย ขึ้นกับแต่ละรายไป บางรายพลังลมปราณ ก็พร่องอ่อน มากน้อยแตกต่างกันไป
การใช้สมุนไพร บรรเทาอาการไอ จึงอาจจะต้องดูว่า เป็นไอแห้ง มักหมายถึง ปอดแห้ง หรือ ไอมีเสมหะ มักหมายถึง ปอดชื้นเสมหะคั่งค้าง จะใช้ยาต่างกัน
การทานยาสมุนไพร เช่น กลุ่มยาอุ่น ยาร้อน ก็จะดีกับกลุ่มปอดชื้น เสมหะตกค้างมาก
ขณะที่ทานยาที่บำรุงชุ่มชื้น ก็จะดีกับกลุ่ม ปอดร้อน ปอดแห้ง
ในบรรดาอาหารกึ่งสมุนไพร ที่ทานบรรเทารักษาไอได้ กับ กรณีไม่ใช่มะเร็งปอด ที่ผมมีประสบการณ์ กินเอง หายไอได้
มะเขือพวง มะเขือเปราะ (มะเขือขื่น) รากบัว
กรณีมีเสมหะมาก กินส้มโอ ก็พบว่า มีส่วนทำให้ เสมหะลดลง และ ถ่ายอุจจาระดีขึ้น
ทั้งนี้การทานก็ต้องยอม ทานมากสักหน่อย ไว้่กอน แล้วงสังเกตุผล
****************
ประสบการณ์จากคนป่วยโรคมะเร็งและเนื้องอกจากเข้าค่ายหมอเขียว
เผยแพร่เมื่อ 20 ก.พ. 2013 https://youtu.be/H4oq5UEg3Kc?list=PLbzpGbAUyJqkddhtdB1EK-ySKgjsYw32E
เชื่อว่ามาจากกรรมที่เคยทำแท้ง
นอนไม่เคยหลับมา 3 ปี
เผยแพร่เมื่อ 30 ก.ย. 2012 https://youtu.be/lR1aeKKcJwk?list=PLbzpGbAUyJqkddhtdB1EK-ySKgjsYw32E
รศ. ดร.พิชญ์ สมพอง อายุ 68 ปี อดีตตำแหน่งรองอธิการบดี คณะบดีคณะมนุษย์ศาสตร์ ปัจจุบันเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยตำแหน่งรอง ศาสตรฺ์จารย์ประจำวิทยาลัยปกครองท้องถิ่น มหาลัยขอนแก่น เป็นคนดูแลสุขภาพค่อนข้างดี ปลายปี 54 ไอ ไม่ทราบสาเหตุ ไปหาหมอตรวจเจอชิ้นเนื้อ หมอจะให้ทำคีโม เลยไปค้นหาข้อมูลในการดูแลสุขภาพทางอินเตอ รฺ์เนตจนมาเจอ แพทยฺ์ทางเลือกวิถีธรรม เมื่อวันที่ 16 กรกฏาคม 2555 ต้องหิ้วปีกมาได้ฟังคุณหมอพูดเรื่องจิตวิญ ญาณทำให้ได้ปลงทำใจได้เยอะ โดยวิธีเอาชนะโรค คือ อย่ากลัวตาย อย่ากลัวโรค อย่าเร่งผล อย่างกังวล
17.20 ดื่มฉี่ตนเองหลังอาหาร3มื้อ อาการไอมีเสลดหายไป
เผยแพร่เมื่อ 30 ก.ย. 2012 https://youtu.be/wwGd-3buiYU?list=PLbzpGbAUyJqkddhtdB1EK-ySKgjsYw32E
คุณคฑาวุฒิ เอกตาแสง มะเร็งลำไส้ระยะสุดท้าย กระจายไปต่อมน้ำเหลือง เคยมีความคิดว่าคนเป็นมะเร็งจะเป็นผู้รอคว ามตายอย่างเดียว ไม่รู้จักคุณหมอเขียว เพียงแค่ได้อ่านหนังสือ มาเป็นหมอดูแลตัวเองที่มีผู้นำมาให้ นำมาศึกษาแล้วนำมาปฏิบัติตามในหนังสือหมด โดยบอกกับตัวเองว่า ถ้าไม่พยายาม อย่าบอกว่าทำไม่ได้ หลังผ่าตัด คีโม ได้นำแนวทางการดูแลสุขภาพแบบทางเลือกวิถีธ รรมาดูแลตัวเอง ประมาณ 1ปี ไปตรวจ คุณหมอที่โรงพยาบาลบอกไม่มีเชื่อของมะเร็ง แล้ว ได้ให้ข้อคิดสำหรับผู้ที่จะมาดูแลสุขภาพแน วแพทย์วิถีธรรมว่า "ทำจริงได้จริง ทำเล่นได้เล่น"
เผยแพร่เมื่อ 14 ก.ย. 2012 https://youtu.be/9aR-S4YvWMs?list=PLbzpGbAUyJqkddhtdB1EK-ySKgjsYw32E
ท่านที่ 1 พนักงาน astv เป็นมะเร็งเต้านม ระยะ 3 หมอตรวจเจาะซ้ำแผลเดิมจนเป็นน้ำเหลืองไหลต ลอดเวลา มาพบวิถีการแพทย์ทางเลือก แล้วอาการดีขึ้นอย่างไร
ท่านที่ 2 คุณวนิดา อายุ 41 ปี เป็นช๊อกโกแลคซีส 5 ปี และที่รังไข่ 2 ข้าง ข้างละ 7 เซนต์ รับการผ่าตัด และทานฮอร์โมนมีผลข้างเคียงกับการใช้ยาอย่ างไร เคยรักษากับหมอเจคอบไม่ถูกกันเพราะต้องกิน ผลไม้ 22 วัน ห้ามกินอย่างอื่น มันสุดโต่งไป
ท่านที่ 2 คุณวนิดา อายุ 41 ปี เป็นช๊อกโกแลคซีส 5 ปี และที่รังไข่ 2 ข้าง ข้างละ 7 เซนต์ รับการผ่าตัด และทานฮอร์โมนมีผลข้างเคียงกับการใช้ยาอย่
แหวน ธิติมา
เผยแพร่เมื่อ 6 ก.ย. 2012 ชื่อผู้ป่วย คุณจำปา สุวะไกร (อาแต๋น)
ที่อยู่ 106 หมู่ 5 ตำบล คึมใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดอำนาจเจริญ
การศึกษา ประถมการศึกษาที่ 6
อาชีพ ปลูกผักกะหล่ำปลี กำหล่ำดอก ปลูกถั่ว มะเขือเทศ โดยใช้ปุ๋ย ใช้ยาสารเคมี
โรคตับแข็ง อาการ ในช่วงแรกเหนื่อย แน่นท้อง ปวดหลัง อ่อนเพลีย เวลาทานอาหาร แน่นท้อง เวลาเปลี่ยนถดู ร่ายกายจะบอกว่าไม่ค่อยแข็งแรง ได้ไปหาหมอปัจจุบัน กินยาประมาณ 2 ปี กว่า
สาเหตุ ใช้สารเคมี(ฉีดยาฆ่าแมลง ) เป็นเวลานาน ประมาณ 10 กว่า ปี
จาก vcd พลิกผันชีวิตพิชิตโรคร้าย https://youtu.be/0uyU8StJzKY
แพทย์วิถีธรรมตอนคุณเปิ้ล
การศึกษา ประถมการศึกษาที่ 6
อาชีพ ปลูกผักกะหล่ำปลี กำหล่ำดอก ปลูกถั่ว มะเขือเทศ โดยใช้ปุ๋ย ใช้ยาสารเคมี
โรคตับแข็ง อาการ ในช่วงแรกเหนื่อย แน่นท้อง ปวดหลัง อ่อนเพลีย เวลาทานอาหาร แน่นท้อง เวลาเปลี่ยนถดู ร่ายกายจะบอกว่าไม่ค่อยแข็งแรง ได้ไปหาหมอปัจจุบัน กินยาประมาณ 2 ปี กว่า
สาเหตุ ใช้สารเคมี(ฉีดยาฆ่าแมลง ) เป็นเวลานาน ประมาณ 10 กว่า ปี
จาก vcd พลิกผันชีวิตพิชิตโรคร้าย https://youtu.be/0uyU8StJzKY
แพทย์วิถีธรรมตอนคุณเปิ้ล
มดจากอเมริกา มะเร็งต่อมน้ำเหลือง
เผยแพร่เมื่อ 13 ก.ย. 2012 https://youtu.be/SY7VV-x05tg
ชื่อยุวดี นโมชัยยากร ชื่อเล่นชื่อมด เป็นมะเร็งในต่อมน้ำเหลือง หมอโรงพยาบาลที่อเมริกาบอกว่ามีเวลาไม่เกิ น 6 เดือน มีเหตุให้ต้องตัดกระเพาะอาหารและม้ามทั้งห มดไม่มีเหลือ เป็นคนไม่มีทั้งม้ามและกระเพาะอาหาร เป็นไมเกรน เลือดจาง จนกระทั่งมาตรวจเจอว่าเป็นเนื้องอกที่มดลู ก ตัดทั้งมดลูก ปีกมดลูกและรังไข่ หลังจากตัดมดลูกทำให้กลายเป็นคนกระดูกผุ หลังเข้าค่ายวันที่ 2 ที่ดื่มน้ำคลอโรฟิลล์ทำให้เธอต้องประหลาดใ จ ว่าอาการที่ไม่สบาย ที่เคยเป็นไม่เป็น
คุณแม่ปราณีรักษามะเร็งด้วยการดื่มน้ำฉี่
ข้อความต่อไปนี้เรียบเรียงจากการสัมภาษณ์คุณแม่ปราณีและคุณเธียร โดย : ดร.ไมตรี สุทธิจิตร
ผมได้เรียนเชิญคุณแม่ปราณีจากเชียงใหม่ ซึ่งท่านได้กินผักพื้นบ้านนี้เยอะ อดีตก็เป็นมะเร็งปอด และเป็นมะเร็งที่คุณหมอบอกว่าอยู่ไม่ได้เกิน 6 เดือน เมื่ออายุ 60 ปี ตอนนี้แม่ปราณีอายุ 73 ปีแล้วครับ ผมอยากถามคุณแม่ปราณีว่า ในประวัติที่เคยเป็นมะเร็งปอดและเจ็บป่วยอื่นๆ เป็นมาอย่างไร และเปลี่ยนวิถีชีวิตมาใช้ผักพื้นบ้านและปฏิบัติตัวทุกอย่าง จนปัจจุบันนี้โรคมะเร็งปอด หายไปแล้ว เชิญครับ
พิธีกร : ตอนรู้ว่าจะอยู่ได้แค่ 6 เดือน รู้สึกตกใจไหมครับ
คุณแม่ปราณี :
ใหม่ๆ ก็เดินไปเดินมา พอนึกได้ว่า เรามีวิบากกรรม เราจำเป็นต้องต่อสู้แล้วเราจะ เอาอะไรต่อสู้ แม่ก็เอาใจของแม่ ต้องเข้มแข็ง ซึ่งตอนนั้นก็ปฏิบัติธรรมมาบ้างแล้วก็พอจะเข้าใจว่าทางไปทางมาเป็นอย่างไร พยายามเอาใจเป็นหลัก ต้องอดทน มันปวด 24 ชั่วโมง แม่หลับไม่ได้เลย มันปวด น้องแม่เข้ามาเคาะตรงประตูร้องไห้ แม่บอกว่า “ร้องไห้ทำไม พี่เป็นคนป่วยยังไม่ร้อง” โวยวายก็ไม่ได้ ใครจะช่วยได้ หนึ่งวิบากเรามาแล้ว ต้องมีความอดทน ถ้าเราไม่ทนแล้วใครจะทนแทนเรา แม่ก็เลือกกินอาหารแบบที่มันไม่แสลง
แต่ก่อนแม่กินทุกอย่าง แม่กินของดิบของแดง แล้วก็โมโหร้ายด้วย พอแม่มารู้ว่าที่มาที่ไปเกี่ยวกับแม่เป็นมะเร็ง 1.แม่กินอาหารไม่เลือก 2.แม่โมโหร้าย เพราะเป็นพี่คนโตเลี้ยงน้องอีก 4 คน ต้องรับภาระในบ้าน ต้องเก็บกด ความเก็บกดก็ไม่ดีทำให้แม่เป็นมะเร็ง ทรมานที่สุดเลย แต่ก็ทนได้ ถ้าเราไม่เป็นก็ไม่รู้ ที่เป็นนั้นดีแล้ว มีทั้งโทษทั้งคุณประโยชน์ เราจะได้ฝึกตัว ฝึกด้านจิตใจ ฝึกอดทน ไม่อย่างนั้นเราไม่รู้หรอก เห็นเขาเป็น “ปวดไหม” ก็อยู่ที่ ตัวคนเป็น พอแม่เป็นก็ “โอ้ย...ใช่แล้ว มะเร็งเป็นอย่างนี้หรือ”
แม่เป็นหลายโรค เป็นโรคเข่าเสื่อม 2 ข้าง เป็นความดันโลหิตต่ำ เป็นไซนัส เป็นต้อเนื้อ เป็น 7-8 โรค โรคที่ 8 ปวดฟันเป็นกันทุกคน แม่ก็ต่อสู้มา แม่ไม่ท้อ บาปมีจริง บุญมีจริง เราต้องรับผลกรรมที่เราทำไว้ อดีตชาติหรือปัจจุบันก็ไม่รู้ ใครจะช่วยเราได้ เราต้องอดทน แต่แม่ไม่กินยา ตั้งแต่เด็กแล้วไม่ชอบกินยา ถ้าเป็นไข้พ่อก็ตี ที่แท้พ่อตีให้กินยา เราก็ไม่กิน เอาไปทิ้งบ้าง เอาไปแอบไว้บ้าง พอหลังๆ มารู้ตอนเราโต แม่อายุ 70 ปี ยังไม่ยอมกินยา แม่เป็นหลายโรคนะ แม่ว่าดีแล้ว ที่เป็นโรค แม่จะได้เป็นตัวอย่างให้หลายๆ คนที่เป็นอย่างแม่ จะได้บอกชัด มันเกิดที่เราชัดกว่าที่อื่น แม่ก็คิดอย่างนี้นะ
พิธีกร : เท่าที่ฟังดู แม่เป็นคนที่เข้มแข็งทีเดียว พอรู้ว่าเป็นมะเร็งก็ไม่ได้ตกใจเท่าไร ยอมรับความจริงได้ พร้อมที่จะต่อสู้ต่อไป
คุณแม่ปราณี : แต่แม่ชอบศึกษาค้นคว้า ถ้าใครเป็นมะเร็งก็บอก แม่ชอบเข้าไปหาคนเป็นมะเร็ง ถ้าเป็นขั้นหนึ่งนะแม่ยอมแพ้เลย แม่เหนื่อย ขั้นสองแม่ก็ยอมแพ้ ตัวนี้ชัด การพูดจากันนะใครจะเหนื่อย ไม่เหนื่อย พอขั้นสาม แม่ระยะขั้นสามพูดได้ พอขั้นสี่แหละแม่ ขั้นสี่เขาไม่ยอมพูดกับแม่แล้ว เหมือนแม่แพ้ขั้นสองขั้นหนึ่งนะ
พิธีกร : คุณแม่ลองดูซิครับว่าทำไมเราถึงดีขึ้น อะไรบ้างที่เราทำในการดำเนินชีวิตที่ทำให้มะเร็งฝ่อครับ
คุณแม่ปราณี : ที่มะเร็งฝ่อลงด้วยว่าหนึ่งคงเป็นกุศลผลบุญที่แม่ได้ทำ ถ้าได้ให้แล้วก็ได้ช่วยที่เขามีความลำบาก แม้นิดแม้น้อยเราก็สบายใจแล้ว แม้สิ่งของเรามีน้อยนะไม่มีค่าเท่าไหร่ ก็มากด้วยน้ำใจ แม่ก็คิดแต่สิ่งที่ดีนะ แม่บอกว่าไม่เสียชาติเกิดแล้ว เกิดมาชาตินี้ แต่เสียดายนะมันก็อาภัพ อ่านหนังสือไม่ออก
พิธีกร : ก็คิดแต่เรื่องดีๆ ช่วยเหลือผู้อื่นนะครับ แล้วคุณแม่ดูแลตัวเองอย่างไรบ้างครับ ?
คุณแม่ปราณี : แม่ดูแลตัวเอง ก็อาหาร อารมณ์ อากาศ ในเรื่องอาหาร ตอนที่แม่เป็นหนักๆ แม่ก็กินแมคโครไบโอติกส์ แม่กินอาหารรสจืด แม่ไม่ชอบกินเผ็ดๆ ถ้าตักใส่จานนั้นบอกเมื่อไหร่จะหมดซะที ถ้ามันไม่หมดแม่ก็บอกว่า อยาก อยาก แม่อยาก ถ้าเราทำเล่นได้เล่นนะคุณ ถ้าเราทำจริงได้จริง แม่ก็อยากได้ของจริง เกิดมาชาตินี้ เกิดมาชาติหน้าเราจะเป็นอะไรก็ไม่รู้
พิธีกร : กินอาหารแมคโครไบโอติกส์นะครับ อารมณ์เป็นยังไงครับ
คุณแม่ปราณี : อารมณ์ ก็เมื่อก่อนแม่โมโหร้าย พอแม่ปฏิบัติธรรมสายปฐมอโศก แม่ก็ทำใจได้เยอะ แม่ก็รู้ที่ไปที่มา เมื่อก่อนนี้ถ้าแม่ทะเลาะกับใครนะ แม่ถึงบันไดบ้านเลย แม่โง่ แม่ไม่เอาแล้วเดี๋ยวนี้ไม่เอาแล้ว
พิธีกร : ตอนนี้ถ้าทะเลาะกับใครแม่ทำไงครับตอนนี้
คุณแม่ปราณี : ถ้าทนฟังไม่ได้ ตอนนี้แม่ก็ถอยแม่ก็บอกหยุดที่เราดีกว่า ทนได้เป็นพระชนะเป็นมาร แม่ก็พยายามปลอบใจตัวเองอย่างนี้ ทำใจน่าดูนะ อยู่ร้านมังสะวิรัติ หลายพ่อหลายแม่มารวมกันเป็นกลุ่มเป็นก้อน
พิธีกร : ปฏิบัติธรรมนี่ นั่งสมาธิวิปัสสนาอะไรหรือเปล่าครับคุณแม่
คุณแม่ปราณี :
ถ้าแม่นั่งสมาธินี่แม่จะง่วงนอน แม่ชอบธรรมะ สวดมนต์ แล้วก็แม่อยู่กับงาน ตอนแม่ทำงานจุดไหนก็ช่าง งานบ้าน หรืองานร้าน แม่ก็จะเอาใจของแม่ “ตอนนี้เราอยู่กับมีดนะ ให้ระวังมือนะ” มีสติ รู้ตัวตลอดเวลา ถ้าตอนนี้แม่จะออกจากบ้านนะ แม่เดินมาจากบ้านแม่หน้าโรงพิมพ์มาหาร้านมังสะวิรัติ ประมาณ 2 กิโลฯ ออกบ้านปุ๊บ แม่ก็จะเพ่งว่าอย่าไปโกรธนะ อย่าไปเพ่งโทษใครนะ วันนี้จะไปช่วยชีวิตสัตว์ แม่ก็อธิษฐานในใจอย่างนี้ ปัจจุบันนี้แม่ก็อธิษฐาน ไปไหนแม่ก็อธิษฐานใจให้แม่อยู่รอดไปวันๆ ก็พอแล้ว
ดร.ไมตรี :
ขอแทรกนิดหน่อยฮะ ก่อนที่คุณแม่จะเป็นนี่ คุณแม่ มีธุรกิจขายเนื้อสัตว์นะครับ คุณแม่กินอาหารสัตว์ พอจะเปลี่ยนวิถีชีวิตซึ่งลำบากมากครับ ซึ่งเปลี่ยนจากกินอาหารสัตว์เป็นอาหารมังสะวิรัติอาหารอย่างที่แม่ทานนี่ แม่ทำใจได้ไงครับ? แล้วก็เดี๋ยวนี้ก็จะสนับสนุนให้คนมาหันไปกินแต่อาหารผักมากขึ้น เขาก็บอกไม่อร่อย ไม่ชอบ กินแล้วไม่อิ่ม
คุณแม่ปราณี :
พิธีกร :
คุณแม่ปราณี :
พิธีกร : ทีนี้ขอวกกลับไปผู้ป่วยมะเร็งอีกท่าน ซึ่งเป็นนักธุรกิจทางด้านโรงแรมและสวน
คุณเธียร :
พิธีกร : มะเร็งลามไปที่ต่อมน้ำเหลืองใต้คางแล้ว ตอนนั้นหมอแนะนำการรักษาอย่างไรครับ
คุณเธียร :
พิธีกร : แสดงว่าเป็นคนเข้มแข็ง พอรู้ขึ้นมาว่าจะต้องทำอะไร ชั่วโมงเดียวตัดสินใจเลย
คุณเธียร :
ระหว่างนั้นก็ปฏิบัติตัวค่อนข้างจะดี ทานอาหารมังสะวิรัติช่วยไปส่งเสริมสุขภาพมาตลอดมาเป็นเวลาหลายปี ก็นึกว่า เอ๊ะ! ก็ดีเหมือนกัน แสดงว่ากรรมเก่าเรายังไม่หมด มันได้โอกาสอันเหมาะสมได้ใช้กรรมเสียที
คนเรารู้ว่าจะไปทางไหน มันมีอยู่ 2 ทาง ทางที่ 1 คือรอด ทางที่ 2 คือตาย ในเมื่อเราเห็น 2 ประตูนี้แล้ว ถ้าเราคิดว่าเราอยากจะรอด ตายก็ไม่กลัว เพราะว่ามันเป็นประตูที่ต้องเดิน 2 ประตูนี้ มันไม่มีทางอื่น มันมี 2 ทาง อันนี้ก็ทางที่จะรอด มันจะรอดได้อย่างไร มันจำเป็นต้องใช้ทั้งศีล สมาธิ ปัญญา ทั้ง 3 อย่าง ผนึกพร้อมกัน ในระหว่างนี้ก็ตั้งใจ และขออธิษฐานอย่างคุณแม่ปราณีแหละครับ อย่างคุณแม่ปราณีเมื่อกี้บอกขออยู่ไปวันๆ มันดีนะครับ คำว่าอยู่ไปวันๆ แสดงว่าอยู่หลายวัน
พิธีกร :
คุณเธียร :
พิธีกร :
คุณเธียร :
คุณเธียร :
วันนี้ผมมีคนไข้มะเร็งเกือบ 10 คน โดยมากก็มาจากญาติ จากเพื่อน ถ้าเขาต้องการคำแนะนำ ผมก็ใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่งถึง 2 ชั่วโมง ในขณะที่ไปพูดให้เขาฟัง เวลาไปผมมีอุปกรณ์ไปเสร็จเลยครับ เครื่องคั้นน้ำผลไม้ อุปกรณ์ดีทอกซ์ พวกอาหารเสริมทั้งหลาย รวมไปถึงสาหร่ายเกลียวทอง ผมให้ไปหมด บางทีให้ไปทั้งพวก Olive oil, โอเมก้านายน์ ให้ไปหมด เจอกันครั้งเดียวก็ให้หมด ผมกำลังเดินออกจากบ้าน เขาทำดีทอกซ์ได้เลย และก็เริ่มเปลี่ยนวิถีชีวิตแนวคิดต่างๆ ได้ ฝึกให้เขาทำสมาธิไปพร้อมกันหมด ใช้เวลาอย่างน้อยเกือบ 2 ชั่วโมง แต่ผมบอกเขาว่าอย่าเชื่อผมให้เชื่อหมอ ที่ผมพูดทั้งหมดก็ตรงกับที่อาจารย์สาทิสว่านะครับ ตรงกับอาจารย์ไมตรีว่ามันจะต้องไปสร้างระบบภูมิคุ้มกัน จะต้องเอาพิษออก พิษทั้งร่างกายและจิตใจ จิตใจนี่สำคัญมาก คนอารมณ์ดี จิตใจดี มีเมตตาและปัญญาติดตัว เหมือนนกติดปีกบินออกจากบ้าน โอกาสที่จะเป็นมะเร็งหรือมะเร็งขยายตัวมันก็คงจะยาก
***************************
ข้อความต่อไปนี้เป็นคำตอบของพระอาจารย์ญาณะัธัมโม ประธานสงฆ์วัดรัตนวัน จ.นครราชสีมา จากบทความเรื่องถาม-ตอบปัญหาธรรมะ ในหนังสือของนอก ของใน หน้า 242-243 พิมพ์ครั้งที่3 กันยายน 2553
เป็นมะเร็ง ต้องเอาความคิดไม่แน่มาใช้
- ถาม กราบนมัสการพระอาจารย์ มีเพื่อนเป็นมะเร็งขั้น4 หมอบอกว่ามีอายุได้ไม่เกิน2 ปี เขาเป็นผู้นั่งสมาธิปฏิบัติธรรมอยู่สม่ำเสมอ แต่เขาทำใจไม่ได้ พระคุณท่านจะกรุณาเมตตาให้ข้อคิดที่จะนำไปฝากเขาอย่างไรได้บ้าง
- ตอบ คนเป็นโรคมะเร็งขั้น4 หมอบอกว่าไม่เกิน2 ปี เราก็ต้องเอาความคิดไม่แน่มาใช้เหมือนกัน อาตมาเคยสอนที่สถาบันโรคมะเร็งที่ประเทศออสเตรเลีย บางคนก็เป็นชาวพุทธ บางคนก็ไม่ใช่ นั่งสมาธิก็หาย เป็นมะเร็งขั้น4 หายก็มีเหมือนกัน แต่ไม่ได้ทุกรายหรอก
- มีลูกศิษย์คนหนึ่งเขาเป็นโรคมะเร็ง ไปหาหมอ หมอบอกว่าไม่เกิน6 เดือน เขาก็เลยมาหาอาจารย์ เขาเป็นชาวพม่า สนใจการทำบุญ แต่ไม่เคยนั่งสมาธิ เขาเป็นคนใจร้อน ขี้โกรธ เขามาพูดกับอาจารย์ เขารู้สึกว่าโรคมะเร็งนี้อาจเกิดเพราะเขาเป็นคนใจร้อน ขี้โกรธ เวลาอยู่บ้านก็ให้ภรรยาเป็น กระโถนทิ้งอารมณ์ของเขาทั้งหมด เขารู้ตัวว่าอันนี้ไม่ดี อยากเปลี่ยนแปลง
- เขาก็เลยให้เราสอนเมตตาภาวนา เขาขยันก็รู้สึกว่าเขาเห็นอานิสงส์ ชีวิตของเขาเปลี่ยนแปลง รู้สึกว่าสบายขึ้น ชีวิตครอบครัวสบายขึ้น และมีความสุขมากขึ้น เขาอยู่12 ปีแล้ว หมอตายก่อน หมออยู่แค่2 ปีตาย หมอแค่40 ปี ตายก่อน คำว่าไม่แน่ก็ต้องมี .....แต่ไม่แน่ก็ต้องมีทั้ง2 ทาง หายก็เอา ตายก็เอา ถ้าหากเราทำความรู้สึกว่าหายก็เอา ตายก็เอา จิตเป็นกลาง หายจากทุกข์ก็รับความจริงได้
*******************
******************
การใช้ชีวิตเกินพอ กินน้ำน้อย ขับถ่ายไม่เป็นเวลา
ผมจะไม่เป็นมะเร็งอีก เนชั่นสุดสัปดาห์
มะเร็งชนืดต่างๆ อาการของมะเร็ง การรักษามะเร็ง สารต้านมะเร็ง
ดร.อภิวัฒน์หลังผ่าตัดยังคงใช้ชีวิตเกินเวลาชีวิต และติดโลก ยังไม่เตรียมเสบียงhttp://www.nationweekend.com/weekend/20050703/wec05.shtml
อย่างไรก็ตาม หลังจากสิ้นสุดการรักษาจนถึงช่วง 2 เดือนแรก ชีวิตยังไม่เป็นอย่างที่คิดไว้ เพราะยังมีบางงานที่ต้องการเวลาจากเรา ทุกอย่างจึงเริ่มจากการกลับบ้าน 3 ทุ่ม 4 ทุ่ม ไปจนถึง 5 ทุ่ม 6 ทุ่ม พอเริ่มรู้สึกได้ว่าเราชักจะเริ่มกลับไปมีวิถีชีวิตคล้ายเดิม ก็รีบดึงตัวเองกลับมา ถามว่าผมหวั่นใจไหม ก็หวั่นใจเหมือนกัน อย่างคนอื่นมักเก็บตัวนอนพักผ่อนอยู่กับบ้าน ส่วนผมออกมาทำงาน ถึงจะไม่ใช่งานหนัก แต่ช่วงนั้นมีเหตุการณ์บางอย่างทำให้เรารู้สึกว่า.. เอ๊ะ..เราซ่าไปหรือเปล่า
ผมเชื่อว่าที่ผลออกมาดีได้เพราะอันแรกกำลังใจผมดีเต็มเปี่ยม อันที่สองวัดจากสภาพร่างกายของตัวเอง ผมรู้สึกว่าผมแข็งแรง สดใส และมีความอยากจะทำโน่นอยากจะทำนี่อยู่ตลอดเวลา มันน่าจะเป็นสัญญาณที่ดีนะครับ ยิ่งเมื่อดูจากผลการตรวจสุขภาพเพื่อติดตามผลการรักษาจากคุณหมอซึ่งออกมาดี แสดงว่าสิ่งที่ผมทำอยู่จะเป็นทิศทางในการดำเนินชีวิตการงานของผมต่อไปได้
0 การรักษาของคุณเต้ยอาศัยวิทยาศาสตร์ล้วนๆ
ใช่ครับ เมื่อเราเป็นมะเร็ง หรือเป็นโรคอะไรก็ตาม มันจะมีสังคมของคนที่อยู่กับโรคนั้นส่งความปรารถนาดีเข้ามาให้คำปรึกษามากมาย ผมได้รับทั้งซีดี, เทป, วิดีโอและหนังสือมากมาย บางท่านมียาสมุนไพร บางท่านมีเครื่องรางของขลัง ฯลฯ ซึ่งผมน้อมรับไว้ด้วยความรู้ซึ้งถึงความปรารถนาดี เพียงแต่มีข้อตกลงระหว่างหมอกับผมว่า ในช่วงที่รับเคมีบำบัด ผมตกลงจะรับเฉพาะวิธีวิทยาศาสตร์อย่างเดียว ถ้าเรารับการรักษาที่ปนเป เราจะไม่รู้เลยว่า อะไรคือตัวที่ทำให้ดีขึ้น หรืออะไรคือตัวที่ทำให้เราแย่ลง
0 พอจะให้คำแนะนำแก่ผู้ป่วยมะเร็งต่อวิธีการเลือกการรักษาอย่างไร
เลือกวิธีที่ตัวเองสบายใจสำคัญที่สุดครับ ถามว่าทำไมผมจึงเลือกวิธีเคมีบำบัดทั้งที่มีหลากหลายวิธีที่น่าเลื่อมใส และหลายคนรับการรักษาแล้วหาย เพราะผมไม่แน่ใจว่า ผมจะเป็นคนโชคดีตรงนั้นด้วยหรือเปล่า ในขณะที่การรักษาทางวิทยาศาสตร์ทำให้เรารู้ว่า ทุกวันที่เรารับการรักษาอยู่ มันมีอะไรบางอย่างที่เข้าไปในร่างกายและพิสูจน์ให้เห็นได้ มันอาจไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุดหรือให้ผลดีที่สุด แต่อย่างน้อยผมมั่นใจว่าตัวเองได้รับการรักษาอยู่ ซึ่งผมก็รู้ว่าทุกอย่างมีข้อจำกัด การที่สารเคมีเข้าไปทำลายเซลล์มะเร็งเป็นที่ยอมรับว่ามันได้ทำลายเซลล์ดีๆ อื่นๆ ด้วย จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราจะมีอาการเหนื่อยอ่อน ไม่ค่อยมีเรี่ยวมีแรง และต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูร่างกายขึ้นมา
ฉะนั้น ผมไม่ทราบว่าวิธีที่ดีที่สุดคืออะไร เพราะผมเองก็เพิ่งเป็นหนเดียวในชีวิต และหวังว่าจะไม่เป็นอีก ผมได้รับการรักษาแบบเดียว คงไม่มีความรู้มากพอจะบอกใครว่าควรจะรับการรักษาแบบไหน ผมเชื่อว่าถ้าเคมีบำบัดไม่ใช่ทางเลือก มีอย่างอื่นเป็นทางเลือก และเมื่อเราเลือกแล้วเรารู้ว่าเราได้รับการดูแล ก็ให้ยึดมั่นในสิ่งนั้น
0 ติดตามผลการรักษาด้านไหนบ้างคะ ลำไส้ถูกตัดออกทั้งหมดหรือเปล่า
ถูกตัดออกไปเยอะครับ แต่ไม่ทั้งหมด ตัดเผื่อเพื่อไม่ให้เกิดการแพร่กระจาย ลำไส้ใหญ่ของผมจึงสั้นกว่าคนอื่นเยอะ แต่ไม่เป็นปัญหา เพราะผมอยู่กับมันได้ ผมไม่ได้คิดว่า 'ความปกติ' หมายถึงการกลับมามีชีวิตแบบเดิม หรือกลับมามีระบบขับถ่ายแบบเดิม ผมมีระบบขับถ่ายแบบใหม่ซึ่งไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกอะไร เพราะผมสามารถที่จะปรับตัวให้เข้ากับมันได้ ผมเลยเรียกสิ่งใหม่นั้นว่า 'ความปกติ' และผมมีชีวิตอยู่ได้โดยไม่รู้สึกว่ายากลำบากอะไร
บังเอิญในช่วงสุดท้ายของการรักษา เป็นการใช้คลื่นวิทยุจี้บริเวณที่มีเนื้อร้ายออกไป แล้วติดตามดูว่ามันมีอะไรเกิดขึ้นตรงนั้นหรือเปล่า จะมีร่างกายส่วนบนที่เล็กลงบ้าง เพราะในช่วงเวลาที่ผ่านมา ผมทานอาหารน้อยลง จริงๆ ผมไม่ได้ถูกควบคุมเรื่องการรับประทานอาหารนะครับ ภรรยาผมเธอให้อิสรภาพผมตามใจปากตามใจท้องบ้าง แต่จะคอยเข้มงวดให้รับประทานสิ่งเป็นประโยชน์ต่อร่างกายอยู่เรื่อยๆ
ช่วงรับเคมีบำบัด น้ำหภนักตัวของผมขึ้นๆ ลงๆ แต่หลังจากหยุดรับเคมีบำบัด สิ้นสุดการรักษา น้ำหนักตัวคงที่ และไม่มีอาการแพ้เลย แม้กระทั่งอาการผมร่วง ตรงนี้เป็นผลจากการเลือกใช้ยา ยาที่ผมเลือกใช้ไม่มีผลข้างเคียงทำให้ผมร่วง แต่จะส่งผลให้เนื้อตัวคล้ำง่ายเวลาโดนแดด ในช่วงรับเคมีบำบัด ผิวหนังจะแห้งมาก หลังจากที่ผมรับการรักษาก็มียาดีกว่านี้ออกมาแต่ค่าใช้จ่ายครั้งละล้านบาท (หัวเราะ) ซึ่งต้องรักษาประมาณ 8 ครั้ง ของผมไม่ใช่ยาตัวนั้น ทุกวันนี้มียารักษาโรคมะเร็งในตลาดเยอะ และมีแผนการรักษาเยอะ มันอยู่ที่ว่าแผนการรักษานั้นไปได้ดีกับเราหรือเปล่า บังเอิญแผนการรักษาที่คุณหมอเลือกให้ถูกกับโรคในตัวผม แม้ว่ามันจะมีภาวะข้างเคียงอยู่บ้าง เช่นรู้สึกเหนื่อยอ่อนมาก ส่วนความทุกข์ทรมานที่เกิดขึ้นกับลำไส้ในวันที่เราเป็น ไม่ถือว่าน้อยเลย แต่เมื่อผ่านมาได้ และเมื่อไปเทียบเคียงกับคนที่เราได้ยิน ได้ฟัง ได้เห็น รู้สึกเหมือนกับว่าเราไม่ทรมานเท่าเขา
0 ติดตามผลการรักษาด้านไหนบ้างคะ ลำไส้ถูกตัดออกทั้งหมดหรือเปล่า
ถูกตัดออกไปเยอะครับ แต่ไม่ทั้งหมด ตัดเผื่อเพื่อไม่ให้เกิดการแพร่กระจาย ลำไส้ใหญ่ของผมจึงสั้นกว่าคนอื่นเยอะ แต่ไม่เป็นปัญหา เพราะผมอยู่กับมันได้ ผมไม่ได้คิดว่า 'ความปกติ' หมายถึงการกลับมามีชีวิตแบบเดิม หรือกลับมามีระบบขับถ่ายแบบเดิม ผมมีระบบขับถ่ายแบบใหม่ซึ่งไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกอะไร เพราะผมสามารถที่จะปรับตัวให้เข้ากับมันได้ ผมเลยเรียกสิ่งใหม่นั้นว่า 'ความปกติ' และผมมีชีวิตอยู่ได้โดยไม่รู้สึกว่ายากลำบากอะไร
บังเอิญในช่วงสุดท้ายของการรักษา เป็นการใช้คลื่นวิทยุจี้บริเวณที่มีเนื้อร้ายออกไป แล้วติดตามดูว่ามันมีอะไรเกิดขึ้นตรงนั้นหรือเปล่า จะมีร่างกายส่วนบนที่เล็กลงบ้าง เพราะในช่วงเวลาที่ผ่านมา ผมทานอาหารน้อยลง จริงๆ ผมไม่ได้ถูกควบคุมเรื่องการรับประทานอาหารนะครับ ภรรยาผมเธอให้อิสรภาพผมตามใจปากตามใจท้องบ้าง แต่จะคอยเข้มงวดให้รับประทานสิ่งเป็นประโยชน์ต่อร่างกายอยู่เรื่อยๆ
ช่วงรับเคมีบำบัด น้ำหภนักตัวของผมขึ้นๆ ลงๆ แต่หลังจากหยุดรับเคมีบำบัด สิ้นสุดการรักษา น้ำหนักตัวคงที่ และไม่มีอาการแพ้เลย แม้กระทั่งอาการผมร่วง ตรงนี้เป็นผลจากการเลือกใช้ยา ยาที่ผมเลือกใช้ไม่มีผลข้างเคียงทำให้ผมร่วง แต่จะส่งผลให้เนื้อตัวคล้ำง่ายเวลาโดนแดด ในช่วงรับเคมีบำบัด ผิวหนังจะแห้งมาก หลังจากที่ผมรับการรักษาก็มียาดีกว่านี้ออกมาแต่ค่าใช้จ่ายครั้งละล้านบาท (หัวเราะ) ซึ่งต้องรักษาประมาณ 8 ครั้ง ของผมไม่ใช่ยาตัวนั้น ทุกวันนี้มียารักษาโรคมะเร็งในตลาดเยอะ และมีแผนการรักษาเยอะ มันอยู่ที่ว่าแผนการรักษานั้นไปได้ดีกับเราหรือเปล่า บังเอิญแผนการรักษาที่คุณหมอเลือกให้ถูกกับโรคในตัวผม แม้ว่ามันจะมีภาวะข้างเคียงอยู่บ้าง เช่นรู้สึกเหนื่อยอ่อนมาก ส่วนความทุกข์ทรมานที่เกิดขึ้นกับลำไส้ในวันที่เราเป็น ไม่ถือว่าน้อยเลย แต่เมื่อผ่านมาได้ และเมื่อไปเทียบเคียงกับคนที่เราได้ยิน ได้ฟัง ได้เห็น รู้สึกเหมือนกับว่าเราไม่ทรมานเท่าเขา
ดอนจมูกบานประสบการณ์กับการรักษาhttps://youtu.be/dIk1ZJe7vUs
บุคคลที่มีชื่อเสียงที่เสียชีวิตด้วยโรค
มะเร็งเม็ดเลือด อายุ 62 ปี
| |||
Jang Jin Young อายุ 35 ปี
มะเร็งกระเพาะอาหาร
| |||
| |||
| |||
| |||
|
อดีตโฆษกพรรคพลังประชาชน
| ||
ความรู้เกี่ยวกับมะเร็งที่น่าสนใจ | |||
---|---|---|---|
|
| ||
| |||
| |||
|
| ||
|
| ||
| |||
|
| ||
|
| ||
|
| ||
|
| ||
|
| ||
|
| ||
|
| ||
|
| ||
| |||
|
| ||
|
| ||
| |||
|
| ||
|
| ||
| |||
|
| ||
|
| ||
|
| ||
|
| ||
|
| ||
|
| ||
|
| ||
| |||
|
| ||
|
| ||
| |||
|
| ||
| ฮอร์โมนสิ่งแวดล้อม ทำให้เกิดมะเร็ง | ||
|
| ||
| |||
|
| ||
| |||
|
| ||
|
| ||
|
| ||
|
| ||
|
| ||
| |||
|
| ||
มะนาว กับ มะเร็ง | |||
Thank you for sharing with us .
ตอบลบ