คุณหลี มะเร็งปอดระยะสุดท้าย
ด็อกเตอร์เฟรดเป็นมะเร็งในกระดูก
แอ้ม สโรชา พรอุดมศักดิ์
นิกกี้
******************
https://youtu.be/3NEzlKd0jac
มะเร็ง การจัดการที่ทุกคนทำได้
https://youtu.be/8HQQQAV4gMg
(50:25) ด็อกเตอร์เฟรดเป็นมะเร็งในกระดูก แพร่กระจายไปหลายที่ เขาไปพบหมอด้านสมอง3คน
หมอบอกเเขาจะมีชีวิตไม่เกิน3ปี
******************
แอ้ม สโรชา พรอุดมศักดิ์
https://youtu.be/SIbJa3od8sc
เหตุของโรคจากบางช่วงของการสัมภาษณ์ เป็นประโยชน์กับคนดู
ที่น้อมเข้ามาดูตัวเอง
(05:34) ช่วงเวลาก่อนเจอเหตุการณ์ กำลังเดินทาง ใช้ชีวิตกับคุณพ่อคุณแม่ อ้วน
ถาม:คุณเป็นคนออกกำลังกายไหม
ตอบ:ไม่
ถาม:ดูแลอาหารการกินไหม
ตอบ:ไม่ค่ะ
ถาม:เป็นคนนอนหัวค่ำ แล้วตื่นเช้าหรืออย่างไร
ตอบ:นอนดึกมาก ตื่นสายมาก เพราะโดยอาชีพ เริ่มเป็นพิธีกรทำภาคค่ำมาตลอด เพิ่งมาทำภาคเช้าได้สั้นๆช่วงหนึ่ง
ถาม:ก็คือการดูแลสุขภาพอยู่ในระดับต่ำ ถูกต้องไหมครับ
ตอบ:ถูกต้องค่ะ ...เป็นคนบ้าเครื่องสำอาง เป็นคนเมกหน้า ชอบมาก ได้ค้นเว็บ ค้นวัตถุดิบเครื่องสำอาง ก็เลยมีการซื้อมาทดลองใช้ เจอครีมตัวหนึ่ง ...ก็เลยลองทาที่หน้าอก จึงคลำเจอก้อนเนื้อที่หน้าอก...
(26:48) ไปรอฟังผลเลือดที่ร.พจุฬา ก็ไปถ่ายรูปดอกไม้ ถ้าเป็นสโรชาสมัยก่อน “ทำไมมันนานจัง แค่ตรวจเลือดแค่นี้2ชม. จะให้ชั้นรอทำไม...เร่งหน่อยไม่ได้เหรอ...
******************
เรา:ปฏิบัติภาวนามาช่วยตอนจะตายอย่างนี้เอง
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=500992616902121&substory_index=0&id=494050964262953
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1221271534685287&id=138023463010105
แนวทางการใช้ชีวิตกับโรคมะเร็ง นิกกี้
https://www.youtube.com/watch?v=UHrxrMvGt3I
******************
ผู้ป่วยรักษามะเร็งด้วยคีย์โมและฉายแสงกว่า60ครั้ง ผ่านเวลายากลำบากของชีวิต2ปี ปัจจุบันจากภพนี้ไปแล้ว
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=10160142302715085&id=330743535084
******************
หมอสันต์
ตรงนี้ ตอนนี้ ในฐานะผู้ป่วย คุณต้องย่างก้าวให้ดีนะ หากก้าวผิด นึกว่ารีบวินิจฉัยรีบรักษาจะดีกลับกลายเป็นว่าทำให้ตายเร็วขึ้น สัจจะธรรมข้อหนึ่งที่หมอไม่ค่อยได้พูดให้คนไข้ฟังคือเซลมะเร็งเม็ดเลือดขาวแบบ CLL นี้มันก็มีลอยละล่องอยู่ในกระแสเลือดของชาวบ้านทั่วไปกันอยู่จำนวนไม่น้อยนะ แล้วชาวบ้านเหล่านั้นก็ไม่เห็นมีใครเป็นมะเร็ง เกณฑ์วินิจฉัยเขาถึงมาตั้งนับเอาที่มีเซลมะเร็งเกิน 5000 ตัวขึ้นไปไง เพราะคนอื่นเขาก็มีเซลมะเร็งแบบนี้แต่มีน้อยกว่านี้จึงไม่ถูกจั๊มตราว่าเป็นมะเร็ง แปลไทยให้เป็นไทยก็คือว่าคุณแตกต่างจากชาวบ้านเขาตรงที่คุณมีเซลแบบนี้มากกว่าชาวบ้านเขาจนเกินค่าที่หมอประทับตราว่าผิดปกติเท่านั้นเอง คอนเซพท์แบบนี้อนุโลมใช้กับการวินิจฉัยมะเร็งอื่นก็ได้ด้วยนะครับ คือคนเป็นมะเร็งกับคนไม่เป็น ต่างกันตรงที่ว่าคนเป็นมะเร็งมีเซลมะเร็งมากจนหมอตรวจพบและตีตราให้ แต่คนไม่เป็นก็ไม่ใช่ว่าไม่มีเซลมะเร็งนะ มีเหมือนกันเพียงแต่มีไม่มากพอที่หมอเขาจะตีตราให้ว่าเป็นมะเร็งเท่านั้นเอง
http://visitdrsant.blogspot.com/2017/10/cll.html
*******
» ชีวิตสอนอะไรเราบ้าง เมื่อแพทย์บอกว่า “คุณมีความเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง”
» โดย ขวัญชาย ดำรงค์ขวัญ
เราต่างรู้ดีว่าเป็นเรื่อง “ธรรมดา” ทั้งคนสูงวัย ผู้ใหญ่วัยทำงาน คนหนุ่มคนสาว
หรือแม้แต่เด็กน้อยวัยซุกซน ล้วนสามารถเจอกับความป่วยไข้แบบหนักหนาได้ทั้งนั้น
ขนาดว่ารู้ทั้งรู้ เมื่อเสียงวินิจฉัยจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ บอกว่า “คุณมีความเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง”
คนส่วนใหญ่ย่อมตกใจ และไม่น้อยถึงขั้นกังวลจนไม่เป็นอันกินอันนอน
จันทิมา รักษาเสรี หรือ “อาจารย์แต๋ม” - อดีตข้าราชการครู
...ตรวจพบก้อนเนื้อบริเวณเต้านมก่อนเกษียณไม่กี่ปี
ก้อนเนื้อของเธออยู่ในระดับ 4B (ถ้าระดับ ๕ เท่ากับว่าเป็นมะเร็ง)
ซึ่งคำวินิจฉัยบอกว่า มีโอกาสเป็นมะเร็งค่อนข้างสูง
คำแนะนำจากหมอและพยาบาลบอกว่า...เธอควรผ่าตัด!
“พบความผิดปกตินะ ไม่น่ากังวลมาก แต่ก็วางใจไม่ได้เลย ขอแนะนำว่าต้องมาผ่าตัด”
เป็นคำแนะนำของพยาบาลที่เธอจำได้ดี
เท่าที่เธอได้ยินมา การผ่าตัดเต้านมอาจมีผลข้างเคียงที่กินเวลาทั้งชีวิต
เธอไม่อยากแบกรับความเสี่ยงนั้น
จึงตัดสินใจรักษาด้วยการดูแลตัวเองในแบบต่าง ๆ โดยนึกย้อนถึงการใช้ชีวิตที่ไม่ถูกต้องตลอดมา
ทั้งอาหารการกินที่ตามใจปาก ออกกำลังกายไม่สม่ำเสมอ
และพักผ่อนน้อยจากการโหมงานหนักในอาชีพที่รักมาหลายสิบปี
ตั้งแต่เริ่มรับราชการครู (กรมสามัญศึกษา) พ.ศ. ๒๕๑๙ ที่โรงเรียนยานนาเวศวิทยาคม ๑ ปี
ก่อนจะย้ายไปยังโรงเรียนสตรีวิทยา ๒ ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๒๐
จนกระทั่งเกษียณอายุราชการเมื่อกันยายน ๒๕๕๗
เธอจึงเลือกกลับมาใส่ใจในชีวิตประจำวันที่เหลืออยู่
อาจารย์แต๋มเริ่มต้นด้วยการปรึกษาแพทย์ที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร
และศึกษาศาสตร์ต่าง ๆ ด้วยตัวเอง ก่อนจะลงเอยด้วยการรับประทานสมุนไพรหลากหลาย
อาทิ หญ้าปักกิ่ง ขมิ้นชัน ใบย่านาง เธองดเนื้อสัตว์และใช้ผักปลอดสาร(เคมี)มาปรุงอาหาร
และเนื่องจากภาระหน้าที่ยังไม่เอื้อให้ออกกำลังกายได้สะดวกนัก
เธอจึงใช้วิธีขี่จักรยานจากบ้านไปทำงานที่โรงเรียนสตรีวิทยา ๒
...เป็นระยะทางไปกลับกว่า ๒๐ กิโลเมตร
หลังจากกลับมาดูแลตัวเองมากขึ้น ผ่านไป ๖ เดือน เธอกลับไปตรวจและได้พบข่าวดีว่า
ชิ้นเนื้อที่ตัดออกมาตรวจไม่มีเซลล์มะเร็ง แต่เธอก็ยังไม่สามารถวางใจได้เต็มที่
ในทางทฤษฎีแล้ว การตัดชิ้นเนื้อบางส่วนมาตรวจไม่สามารถรับประกันได้ว่าปลอดภัย
เพราะส่วนที่เหลือยังมีโอกาสเป็นเนื้อร้ายได้ เธอจึงต้องกลับไปตรวจทุก ๆ ๖ เดือน เป็นระยะเวลา ๒ ปี
...หลังจากนั้นจึงลดเหลือปีละหนึ่งครั้ง
เมื่อชีวิตยังอยู่กับความสุ่มเสี่ยง หมอและพยาบาลจึงแนะนำว่า...
เธอควรผ่าตัดเอาก้อนเนื้อนั้นออกไปเลย
แต่ในเมื่อระยะเวลา ๖ เดือนกับการปรับเปลี่ยนชีวิตประจำวันปรากฏผลน่าพอใจ
อาจารย์แต๋มจึงเลือกที่จะดูแลตัวเองด้วยวิธีเดิมด้วยความเชื่อว่า
...ร่างกายมนุษย์มีกลไกที่สามารถเยียวยาตัวเองได้
แม้ยังไม่สามารถรับประกันได้ว่าปลอดภัย แต่อาจารย์แต๋มมองว่านั่นเป็นเรื่องปกติของทุกคน
ต่อให้หมอยืนยันว่าก้อนเนื้อนั้นไม่มีเซลล์มะเร็งเลย เธอก็ยังมีสิทธิเจอกับเรื่องไม่คาดคิด
ซึ่งเป็นสิ่งเดียวกับที่ทุก ๆ คนต้องเจอ
ดังนั้น หนทางที่ควรเป็นก็คือ การเบิกบานกับแต่ละวันที่เหลืออยู่ให้เต็มที่
*******
http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=minieii&date=08-01-2005&group=2&gblog=9
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1272287982857696&id=483593508393818
https://youtu.be/JUxFC8EXj5c
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น